ทำไมบริการถูกๆ กับ บริการแพงๆมันถึงขายได้เท่ากันครับ

ผมเห็นเดี๋ยวนี้หลายคน ออกโปรHosting ถูกๆมากันทั้งนั้น ของผมก็เลยต้องทำ 2 ตลาด เพื่อมาแข่งบ้าง

แต่ข้อที่หน้าแปลกคือ Statement บัญชีที่ผ่านมาครับ 3เดือนมานี้

1.LowCost Service
Hosting 1 GB ผมขายอยู่ที่ 1,500/ปี
Colocation 100Mbps 1U @ Csloxinfo 2,500/เดือน
มีลูกค้า Hosting สมัครใช้บริการ 11ราย ลูกค้า Colo 1 ราย

2.Exclusive Service
Hosting 1 GB อยู่ที่ 6,000/ปี
Colocation 100Mbps 1U @ Csloxinfo 5,000/เดือน (ค่าแรกเข้า 2,000บาท ชำระครั้งเดียว)
มีลูกค้า Hosting สมัครใช้บริการ 9ราย ลูกค้า Colo 2 ราย

กลับขายได้จำนวนใกล้เคียงกันครับ เป็นเรื่องน่าแปลกดีเหมือนกัน

เป็นประเด็นที่น่าสนใจครับ…ขอแจมด้วยล่ะกันครับ

สำหรับผมๆแบ่ง Customer Level ไว้ดังนี้ครับ

  1. ลูกค้าทั่วไป (ราคาย่อมประหยัด)
  2. ลูกค้า Corporate (ราคาย่อมสูงกว่า)

ตู้ RACK ผมจะแบ่งสองเกรด (มีทั้งหมด 4 ตู้) ตู้สำหรับงานบริษัทหรือ Corporate ผมจะรับแต่เฉพาะลูกค้าที่เป็นบริษัทเท่านั้น และตู้ทั่วไปก็รับเฉพาะลูกค้าทั่วไปเท่านั้น

Corporate Customer จะระบุประเภทเครื่องและงานบริการด้วยครับ เครื่องจะรับเฉพาะ Brand Name Server 1U เท่านั้น
General Customer จะมีทั้ง 1U และ Mini PC

บริการด้าน Hosting Reseller ก็แบ่งเป็นสองเครื่องขึ้นไปครับ เครื่องสำหรับงาน Corporate และเครื่องสำหรับงาน General
โดยสรุป…ผมแบ่งโครงสร้าง HW/Services ชัดเจนแบบนี้ครับ
ราคาก็เช่นกันครับ…

ตั้งประเด็นได้น่าสนใจมากๆ ครับ

:slight_smile:

ว่าแต่…

กลุ่มลูกค้าที่ใช้ 1.LowCost Service

กับกลุ่มลูกค้าที่ใช้ 2.Exclusive Service

มีความแตกต่างกันในแง่ไหนบ้างล่ะครับ

แล้วตัวคุณpattonline ทำการตลาดให้กับ 2 เว็บไซต์นั้นอย่างไร
แตกต่างกันแค่ไหน หรือว่าเหมือนๆ กัน

:slight_smile:

ผมมองง่ายๆแบบนี้เลยครับ
Exclusive คือกลุ่มลูกค้าที่ เว็บที่ต้องการเสถียรภาพ เช่น เว็บพวกบริษัท พวกนี้ไม่มีอะไรมากครับ กำหนดPackage ที่เหมาะสม ไม่ใหญ่ ไม่เล็กไป ราคาดันขึ้นไปอยู่ในระดับสูง(ทำตัวเลียนแบบไฮโซ) การคุยกับลูกค้าต้องดูเป็นทางการหน่อย จำกัด จำนวนคน/เครื่อง น้อย

Lowcost ผมมองว่าส่วนใหญ่เป็นเว็บที่เจ้าของเว็บเพิ่งหัดทำ ไม่ได้ดังอะไรมากมาย ส่วนใหญ่มักเป็นพวกชอบลองของ เขียนนู่นเขียนนี่ ไปเรื่อย พวกนี้บริการเป็นกันเองครับ แบบสบายๆ ไม่ต้องซีเรียสมาก จำกัด จำนวนคน/เครื่อง เยอะหน่อย ไม่จำเป็นต้องใช้ เครื่อง Brand

ลูกค้าส่วนใหญ่มาจากปากต่อปากครับ ผมไม่เคยซื้อพื้นที่ลงโฆษณาเลย เน้นบริการ ที่เป็นกันเอง มีอะไรพูดกันตรงๆ

เป็นเรื่องที่น่ายินดีครับ

ตลาด online มันกว้างนะครับ
ลูกค้ามาเจอเว็บไหนถูกใจ ก็คงเลือกใช้ตามความต้องการแหละครับ

ถามว่าถ้าลูกค้ารายเดียวกัน เข้ามาดูเว็บทั้งสองเว็บของคุณ และทราบว่าเป็นบริการของคุณเอง ลูกค้าทั้งสองกลุ่มจะเลือกใช้อันถูกหรืออันแพง
ตรงนี้ผมมองว่าขึ้นอยู่กับการตลาดของคุณด้วยนะครับ ประกอบกับโอกาสของลูกค้าที่เข้ามา

ขอแจมในส่วนของผมบ้าง ( อย่าหาว่าโปรโมทตัวเองเลยนะครับ )
คือผมถือว่าลูกค้าคือผู้มีพระคุณ เหมือนกันทั้งหมด ผมจะไม่แบ่งเกรดลูกค้า
จ่ายมากจ่ายน้อย ก็จะได้รับการบริการที่เต็มที่จากผมเหมือน ๆ กันทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า corporate หรือลูกค้าบุคคลทั่วไป
ต่างกันก็ตรงทรัพยากรระบบที่จะได้รับตามราคาที่ขาย

คือผมถือว่าลูกค้าคือผู้มีพระคุณ เหมือนกันทั้งหมด ผมจะไม่แบ่งเกรดลูกค้า
จ่ายมากจ่ายน้อย ก็จะได้รับการบริการที่เต็มที่จากผมเหมือน ๆ กันทั้งหมด

ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า corporate หรือลูกค้าบุคคลทั่วไป

ต่างกันก็ตรงทรัพยากรระบบที่จะได้รับตามราคาที่ขาย

  • ตามข้อความด้านบนนี้ พี่สมชายอธิบายได้ดีมากเลยครับ +1 เรียบร้อยครับ

เห็นด้วยเลยครับ
ตลาดมันกว้างมากจริงๆ
ก็มาแชร์ไอเดียนะครับ จากประสบการณ์ Hosting เกือบๆ 5 ปี ผมพบว่าลูกค้าของผมมีอยู่ 4 กลุ่มด้วยกันครับ

กลุ่มที่ 1 อยากมีเว็บ อยากมีโดเมนแต่ไม่รู้จะใช้ทำอะไร แบบนี้มีเยอะมากๆ ครับ คือมาชื้อพอครบปีก็ไปครับไม่ต่อ ผมได้ลูกค้าแบบนี้เยอะทุกๆ ปีเพราะอะไรไม่ใช่เพราะราคาที่ถูกกว่าที่อื่นครับ แต่เพราะเขาไม่รู้อะไรเลยเจอปุ๊ปก็จดแล้วก็ใช้เลย พูดง่ายๆ เจอเว็บไหนเอาเว็บนั้น การจับตลาดกลุ่มนี้ต้องขึ้นกับ google ครับ และการโฆษณา เป็นตลาดที่ผมชอบมากที่สุดครับ เพราะเว็บมักไม่มีอะไรทำงานน้อยมากๆ

กลุ่มที่ 2 ย้ายจาก Host อื่นมายัง Host ของเรา หรือเป็นลูกค้ากลุ่มที่ 1 ที่ทำเว็บจริงๆ จังๆ กลุ่มนี้จะเป็นคนทำเว็บนานแล้ว ส่วนใหญ่มาเพราะเพื่อนบอกต่อครับ กลุ่มนี้เราจะคุยกับเขาอย่างเป็นกันเอง สนุกสนานเฮฮาครับ เข้ามาแล้วมักจะอยู่กันนานๆ กลุ่มนี้ไม่ได้ทำกำไรให้ Host มากนัก แต่สร้างความั่นคงให้กับ Host ของเราเป็นอย่างมาก ดังนั้นต้องรักษาดูแลให้ดี

กลุ่มที่ 3 ชอบของถูก อันนี้จะหาของถูกอย่างเดียวครับ ขอให้ถูกเข้าไว้ พื้นที่เยอะๆ ยิ่งดี กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ทำให้ Host ได้กำไรน้อยที่สุดครับเพราะต้องแบกภาระไว้มากมาย แต่ทำไมต้องรับคนกลุ่มนี้เหตุผลคือ เนื่องจากกลุ่มแรกมีมากถึง 50-60% ของลูกค้าทั้งหมด จึงทำให้เรายังสามารถเอาลูกค้ากลุ่มนี้มารวมแชร์ทรัพยากร Server ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น

กลุ่มที่ 4 ลูกค้าองค์กรบริษัท อันนี้เป็นลูกค้าที่ไม่ต้องการอะไรมากครับ ไม่ค่อยย้ายที่ง่ายๆ ราคาไม่ใช่ปัจจัย เจอ Host ครั้งแรกที่ไหนราคาไหนไม่สำคัญ ก็จะสมัครและเริ่มใช้บริการถ้าใช้ดีก็ต่อยาวไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ดีก็ย้ายที่ กลุ่มนี้มักจะต้องใช้เมลล์เป็นจำนวนมากไม่ค่อยใช้เว็บมากครับ ลูกค้ากลุ่มนี้ก็ต้องรักษาไว้ให้ดีครับ

สำหรับแล้วผมทำ Host เน้นความมั่นคง 30% (เอาให้มันพอจ่ายค่าตู้ได้พอดี) เน้นทำกำไรระยะสั้น 70%
ความมั่นคงมาจากลูกค้ากลุ่มไหนบ้างก็มีดังนี้
- Reseller
- VPS
- Colo บางส่วน
- ลูกค้ากลุ่มที่ 2
- ลูกค้ากลุ่มที่ 4
ส่วนการทำกำไรระยะสั้นและเป็นรายได้หลักของเรา นั้นเป็นลูกค้ากลุ่มที่ 1 อย่างแน่นอน ส่วนลูกค้ากลุ่มที่ 3 อันนี้ผมไม่เน้นมาก มีก็ดีไม่มีก็ได้ แล้วลูกค้าทำกำไรระยยสั้นผมหาจากไหน แน่นอนไม่ใช่ THT ครับ (ที่บางคนดันทุกวันอย่างเอาเป้นเอาตาย เช่น Reseller และ VPS แต่ได้ลูกค้าไม่คุ้มค่าโพส เอ๊ะใครนะ??) แต่เป็นการลงโฆษณาตามเว็บต่างๆ เพื่ออะไรเพื่อให้เขาจำได้ว่า เว็บ hosting เราชื่ออะไร วันหนึ่งเขาเกิดอยากเช่า Host ขึ้นมาเขาจะนึกถึงเรา ไอ้มาแล้วก็ไปมาแล้วก็ไปมีเยอะมากๆ ครับ ทุกๆ ปีจะมีเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่นคนครับ แต่มาที่ผมไม่มากแต่อยู่ได้สบายๆ คนกลุ่มนี้มีบางส่วนที่เปลี่ยนเป็นคนกลุ่มที่ 2 หรือ 4 ซึ่งก็จะทำให้สร้างความมั่นคงให้กับ Host ของเรามากขึ้นอีกครับ

ต่างคนต่างความคิดใครชอบไอเดียผมก็นำไปใช้ได้ครับ

ปล. ไอ้กลุ่มลูกค้าใช้ 1 ปี ปีต่อไปไม่ต่ออายุ (มาแล้วก็ไปๆ) นี่สร้างกำไรมากๆ เลยนะครับ จริงๆ!!

ปล. ไอ้กลุ่มลูกค้าใช้ 1 ปี ปีต่อไปไม่ต่ออายุ (มาแล้วก็ไปๆ) นี่สร้างกำไรมากๆ เลยนะครับ จริงๆ!!

ประโยคนี้ จริงเท็จแค่ไหนครับ.

สำหรับผม: ลูกค้าเก่าที่อยู่กันมายาวนาน ไม่ย้ายบ่อย คือกำไรที่แท้จริงและถาวร ครับ ดังนั้น ต้อง Keep ลูกค้าเก่าให้อยู่กับเรานานที่สุด

เรื่องนี้…ผมเน้นขาประจำ ไม่เน้นขาจร…ครับ ผมเน้นคบกันยาวๆ อยู่ด้วยต่ำกว่า 1 ปี ผมถือว่าผมล้มเหลวในหน้าที่ :pimp:

และพูดจากใจเลยว่า… หากมีอะไรที่เพิ่ม feature เข้ามาใหม่… ลูกค้าเก่าจะได้รับสิทธิก่อนเสมอ… โดยเฉพาะลูกค้าประวัติการเงินดี…
ลูกค้าทุกราย…เป็นเสาหลักในความมั่นคงของเรา… เรามั่นคง… ลูกค้าทุกรายก็มั่นคง…

สรุปง่ายๆก็คือ เราต้องร่วมกันสร้างความมั่นคงร่วมกันครับ ไม่ได้เน้นราคาสถานเดียวครับ

ต้องอ่านหนังสือเรื่อง “พ่อรวยสอนลูก” ครับผมบอกไม่ถูกครับ

เขาแค่บอกว่า “ถ้าเราต้องการรวยต้องทำตรงข้ามกับคนจน”

ผมก็เหมือนกันถ้าต้องการประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่นก็ต้องคิดและทำตรงข้ามกับคนอื่น
ต้องขออภัยหากความคิดของผมไปขัดใจใครบางคน !!

ปล. สิ่งใดมีเกิดย่อมมีดับเป็นธรรมดา ไม่เว้นแม้กระทั้งการรักษาลูกค้าให้อยู่กับเรานานๆ

ไม่ขอพูดมากเดี่ยวจะเป็นการชี้โพรง เอาเป็นว่าพิสูจน์เอาเองละกันครับ !!

ต้องอ่านหนังสือเรื่อง “พ่อรวยสอนลูก” ครับผมบอกไม่ถูกครับ

เขาแค่บอกว่า “ถ้าเราต้องการรวยต้องทำตรงข้ามกับคนจน”

ชอบประโยคนี้ครับ :slight_smile:

แบบนี้ถ้าใครทำตรงกันข้ามกับคำแนะนำในหนังสือ ก็ถูกจัดว่าเป็นคนจน … ผมก็ยอมรับว่ายังจนอยู่ครับ

ไม่ถูกเสมอไปนะครับ ทำตรงข้ามกับหนังสือไม่จัดว่าเป็นคนจนครับ แต่หนังสือให้สังเกตุคนจนว่าทำไมเขาถึึงจน แล้วให้ทำตรงข้ามกับที่เขาทำครับ

กลายเป็นกระทู้…ปรัชญาชีวิตไปซะงั้น :slight_smile:

ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวจะไปหาซื้อมาอ่านดูบ้าง

เน้นขาประจำมันก็เหมือนใส่เบ็ดนี่ละครับ ถ้าได้ปลาก็ปลาตัวใหญ่ๆ แต่สายเบ็ดมันก็อ่อนนะครับโอกาสสายขาดหลุดไปก็มีเยอะ (หลุดมาติดแหผมก็หลายตัว) แต่ผมเน้นจำนวนคนเข้ามามากๆ ก็เหมือนหว่านแหแหละครับโอกาสได้ปลาตัวเล็กก็มีมาก แต่เผลอๆ ได้ปลาตัวใหญ่ติดมาด้วย กินอิ่ม แถมมีปลาเหลือไว้แบ่งๆ เพื่อนบ้านอีกด้วย (เช่นการแนะนำลูกค้าไปให้เพื่อนๆ เว็บโฮสด้วยกัน )

ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ การค้านี่เป็รศาสตร์นึงจริงๆ :wub:

ครับผมเข้าใจครับ ขอบคุณครับ