โขน - รามเกียรติ์ มโหรสพสมเด็จพระพี่นางเธอ

วันศุกร์ที่ 15 พ.ย. ประเทศไทย (สยาม) ได้บันทึกประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่งในงานมโหรสพสมเด็จพระพี่นางเธอ ณ.ท้องสนามหลวง มีงานพิธีทั้งหมด 3 เวที จัดการแสดงตั้งแต่เวลา 19.00 - 06.00 น.

หลังจากได้เผาพระศพจริงสมเด็จพระพี่นางเธอ…ในเวลาอีกไม่กี่นาทีนัก ฝนก็ตกลงมา และตกลงมาประมาน 5 นาที… แต่มิได้ทำให้ประชาชนในท้องสนามหลวงได้แตกตื่น…หรือเปียกแต่อย่างไรเลยครับ

ตกลงมาไม่มากนักเหมือนพรมน้ำมนต์มากกว่าครับ และช่วงเวลาที่เผาพระศพสมเด็จพระพี่นางเธอเวลานั้น… ผมนอนเล่นอยู่ท้องสนามหลวงได้เห็นพระจันทร์ทรงกรตเต็มดวงอย่างชัดเจน ยังบอกให้เพื่อนๆรอบๆดูพระจันทร์บนท้องฟ้าด้วย

และก่อนงานละครบนเวทีจะทำการเริ่มงานฝนก็ตก แต่ไม่มีใครถอยหนีหรือวิ่งหลบฝนครับ สำหรับผมๆก็เก็บกล้องเข้ากระเป๋าเพื่อความปลอดภัยก่อน…หลังจากนั้นก็นำชุดกันน้ำ (กระเป๋ามีชุดกันน้ำในตัว) ออกมาปกคลุมกล้องไว้และเตรียมจัดการปรับแต่งกระเป๋าและกล้องพร้อมผ้าคลุม…เพื่อจะลุยถ่ายต่อไปครับ

แต่ยังไม่ทันได้จัดแจงเสร็จเลยครับ ฝนก็หยุดลงในทันที…และงานเวทีก็เริ่มต้นในทันทีเช่นกัน (จริงๆตัวละครก็กะจะเล่นแบบตลุยฝนเช่นกัน) เป็นสิ่งที่ประทับใจที่ได้ประสบมาในช่วงเวลานั้น เรียก…ว่าๆไงก็ลุย

แต่ฝนมิได้ตกลงมาอย่างหนักเลย อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าเหมือนพรมน้ำมนต์มากกว่าครับ
เอาล่ะ…เรามาชมภาพที่ผมนำมาฝากกันไปเรื่อยๆและจะแทรกข้อความอธิบายเท่าที่พอจะแทรกได้และจำได้ครับ

สำหรับภาพอัลบั้มเต็มชมได้ที่ http://www.theonemodel.com/gallery/browseimages.php?c=10&userid=
(เนื่องจากผมคงไม่ลิงค์ภาพมาให้ชมหมดในบอร์ดนี้ได้ครับ ค่อนข้างจะเยอะ และก็ไม่ได้ลงหมดเท่าที่มีด้วย แค่ครึ่งหนึ่งประมานนั้นครับ)

อุปกรณ์เก็บภาพใช้ Canon 5D Lens Tele Sigma 70-200/F2.8 ตัวเดียวสำหรับถ่ายเวทีโขน (เวทีที่ 1) พร้อมขาตั้งที่มั่นคง
ต้องขอบอกก่อนว่า… จำนวนผู้นั่งชมเยอะมากๆ เลนล์ Normal ถ่ายกันไม่ได้เลยครับ ขนาดผมยืนตรงที่ถ่ายและมองด้วยตาเปล่าก็มองไม่เห็นใบหน้าตัวละคร…ว่ากันแบบนั้น ต้องอาศัยเลนล์ทางยาวโฟกัสสูงดึงภาพเข้ามาสถานเดียวครับ

ในระยะ 70mm จะเก็บได้ทั้งเวที ซึ่งเวทีก็ใหญ่มาก…สังเกตุช่วงท้ายๆของงานจะเห็นปริมานผู้แสดงโขน ผมเดาว่าน่าจะร้อยกว่าชีวิตครับ โดยส่วนใหญ่จะซูมเลนล์ไปที่ช่วง 200mm ตลอดเกือบทั้งงานครับ

ช่างภาพส่วนใหญ่จะอยู่กันข้างหลัง แต่ก็มีผู้ชมนั่งชมห่างลึกออกไปถึงกลางท้องสนามหลวง (กินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของท้องสนามหลวง) เข้ามานั่งแล้วเดินไปไหนไม่ค่อยได้ ไม่มีที่ว่างเลย นั่งกันเต็มพื้นที่ไปหมด

ขอบคุณมากครับพี่หนึ่ง เอามาแบ่งกันดู
รออยู่เลยครับ ถ่ายมาประมาณกี่รูปครับ
เดี๋ยวตามไปขอ save เก็บไว้ กลับไปให้แม่ดูที่บ้านครับ

เป็นการแสดงที่มีเสียงตบมือดังตลอดเกือบตลอดการแสดงครับ อาทิเช่น…ตัวเอกออกมาเช่น พระรามฯ หรือทดกันฑ์และหนุมานเป็นต้น และที่ทราบข้อมูลมา… ตัวโขนที่เป็นตัวเอกๆจะเป็นระดับ อจ. ของกรมศิลป์ทั้งหมดครับ

เรียกว่ารวมบรรดา อจ. และนักศักษาของกรมศิลป์ออกมาแสดงทั้งหมด เป็นการแสดงที่ใหญ่อลังการมาก…ที่ได้รับฟังจากคนที่เล่าให้ฟังว่าได้ไปชมมาแล้วที่กรมศิลป์ก็ยังไม่ใหญ่เท่านี้และตัวละครมากเท่านี้ แล้วยังแสดงกันต่อเนื่องทั้งหมด 16 ภาค…จากทั้งหมด 68 ภาคของเรื่องรามเกียรติ์

ตอบคุณเอก…
>>>
ขอบคุณมากครับพี่หนึ่ง เอามาแบ่งกันดู
รออยู่เลยครับ ถ่ายมาประมาณกี่รูปครับ
เดี๋ยวตามไปขอ save เก็บไว้ กลับไปให้แม่ดูที่บ้านครับ

นู๋ siamwebsolution ครับ

เขียนต่อล่ะกัน…อารมณ์กำลังไหลไปเรื่อยๆ

บังเอิญผมได้นั่งใกล้กับนักศึกษาจากกรมศิลป์(ที่ศาลายา) และระหว่างนั่งรอทำพิธีเผาพระศพจริงสมเด็จพระพี่นางเธอจริงอยู่นั้น…น้องสองสามคนก็นั่งคุยกันสร้างบรรยากาศให้สนุดสนานมาก และได้ความรู้เรื่องต่างๆของ รามเกียรติ์ ว่ากันไปจนถึงลิเก…และได้ทราบว่าลิเกเป็นของประเทศฟิลิปินอ่าครับ

รามเกียรติ์ กำเนิดขึ้นเมื่อ 4000 ปีก่อนโน่น…ที่ประเทศอินเดียครับ คิดดูเอาว่าก่อนพุทธศักราชเท่าตัวเลยครับ มีทั้งหมด 68 ตอน…
พวกเราก็ยังนั่งเม้าท์…กันไปอีกว่าหากนำมาสร้างเป็นหนัง… คงจะยาวโครตๆ (เข้าท่ามิใช่น้อยเลยนะ ฮ่าฮ่า)

เราคุยกันไปเยอะมาก…

และน้องเขายังถามผมอีกว่า…ชอบโขนตัวไหน ผมก็บอกว่าผมชอบ “ทศกันฑ์” เพราะมีทุกอารมณ์ อารมณ์รัก อารมณ์โกรธ อารมณ์โมโห อารมณ์หึงห่วง(สีดา) และเจ้าชู้อย่างที่สุด แต่กลับรักเดียวใจเดีย…

ฮ่าฮ่า…พูดเสร็จก็ฮ่ากันไปครับ น้องเขาพูดว่าเขาชอบตัวโขนชื่ออะไรกันผมจำไม่ค่อยได้เพราะชื่อจำยากและไม่ได้เรียนสายนี้มาอีกทั้งยังไม่ได้ศึกษาเลยเหมือนกัน แต่ฟังน้องๆเขาพูดกันไปแล้วสนุก

คุณยายคุณป้า…นั่งล้อมวงกันฟังอ้าปากค้างเลยครับ
ผมชื่นชอบน้องสองคนนี้มากๆ รู้มากและรู้จริงๆ

siamwebsolution อ่า…ขอโทษทีครับ…ผมก็มึ่นๆ (เพราะยังพักผ่อนไม่เต็มร้อย เอิกๆ) เหนื่อยเหมือนกันครับ

โอเค…มานั่งโม้ต่ออ่าเน๊อะ…

ลองมาดูท่าทางและลีลาของทศกันฑ์…กัน ผมดูแล้วผมชอบความสง่าของตัวโขนทศกันฑ์มากๆ (เกือบจะไม่ซูมไปถ่ายพระลักษณ์พระรามฯเลย ฮ่าฮ่า)
ยิ่งตอนทศกันฑ์โมโหและโกรธกระทืบเท้านี่ยิ่งสะใจ (สงสัยผมจะโรคจิตเน๊อะ)

ในช่วงแรกๆก็เล่นกันไม่เท่าไร…ก็ยกทัพใหญ่ตีกันเสียแล้วอ่า

แถมมีการพักรบ ยกทัพกลับเข้าเมืองของใครของมัน…แล้วรุ่งเช้ายกมาตีกันใหม่อีก เอิกๆ

คงต้องขอกล่าว…วงประโคมบรรเลงเพลงให้ฟังด้วย วงจะมีตั้งอยู่ทั้งปีกซ้ายและปีกขวาเครื่องดนตรีเต็มที่เลย… ร้องเล่นและร้องประสานเสียงกันสดๆ และยังมีลักษณะแบ่งลักษณะในแนวทางสเตอริโอ แซนแนล A ซ้าย แชนแนล B ขวา (ใครฟังวิทยุธานินทร์สมัยยี่สิบสามสิบก่อนคงได้ยินสโลแกนนี้บ้างล่ะ) โดยเฉพาะสถานีวิทยุ FM 96.0MHz รายการของวิทยุธานินทร์ เอิกๆ (แล้วมันเกี่ยวกับโขนไหมเนี้ยเรื่องนี้)

บรรเลงและร้องประสานเสียงได้อย่างไพเราะจับใจครับ และต้องขอชมนักร้องมากๆหากได้ฟังแล้วคงจะเหนื่อยเอาการครับ (นักร้องจะมีสลับกันประมานสามชุด) ช่วยกันครับ

นี่แค่ชุดของนักร้องนะครับ เรียกว่ามีเท่าไร งัดออกมาหมด… หมดจริงๆหากได้ไปชมและมองสังเกตุให้ดีทุกมุมทุกเรื่อง เรียกว่าทำหมดเนื้อหมดตัวกันทั้งกรมศิลป

นี่คือลำโพงแชนแนลขวา เอิกๆ ตรงสนามเวทีเสียงจะครบกันพอดีทั้งซ้ายและขวา และเวลาตอนประสานเสียง…เสียงก็แผ่ได้เต็มรัศมีสเตอริโอโฟนิคกันเลยทีเดียว…

เด็ดๆจริงๆขอบอก

แอบมีนักกายกรรมกับเขาด้วยอ่านะกรมศิลป

ในระหว่างที่ชมการแสดง…ประชาชนจะตบมือกันบ่อยๆมากๆ เรียกว่าทุกตอนที่มีท่าแบบนี้ หรือมีตัวเอกออกมา และตอนที่จบฉากและนักแสดงเดินเข้าประตู

จะตบมือให้ผู้แสดงกันสนั่น (เข้าใจว่าแก้ง่วงกันอ่าครับ…ก็เล่นและดูกันโต้รุ้งจริงๆ)

ท่านพี่ขอแอบมาเก็บภาพไปใส่บล็อคมั่งนะคะ

:slight_smile:

ขอแทรกเทคนิคการถ่ายภาพบนละครเวทีนิดสส์นึ่ง… จำเป็นอย่างยิ่งต้องมีขาตั้งกล้องและควรจะมีหัวบอลเพื่อหมุนกล้องได้คล่องตัวด้วยก็ดีครับ และตั้งโหมดวัดแสงแบบ spot metering วัดแสงตรงเสื้อผ้าสีขาวของตัวละครแล้วบวก 1 stop
จะได้ ISO เท่าไรก็พยามพุชไปให้ได้สปีดชัตเตอร์ไม่น้อยว่า 1/200 วินาทีครับ เพื่อที่จะ stop action ให้หยุดนิ่งได้พอสมควร… เนื่องจากการแสดง ตัวละครจะวิ่งไหวไปมาเร็วมาก และอีกอย่างคือตัวเลนล์…ควรจะโฟกัสได้รวดเร็วและแม่นยำมากๆ เพราะทุกจังหวะนั้นมันแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ยังไม่ทันกระพริบตา action ก็พลาดได้เช่นกัน

โหมดให้ตั้งเป็น “M” กำหนดค่า F และ S ตายตัวใช้ค่าเดียวตลอดทั้งงานเลยครับ (ไม่ต้องไปบ้าจี้วัดแสงบ่อยๆเอิกๆไม่จำเป็นขนาดนั้นครับ)

และที่สำคัญ…ร่างกายต้องฟิตหน่อย แถมถ่ายกันทั้งคืนแบบนี้บอกได้เลยว่าหนัก (ตอนเช้ามีคนมาถามว่ายืนถ่ายทั้งคืนเลยไม่เหนื่อยหรอ ฮ่าฮ่า ไม่ได้นั่งเลยเวนกำ)

น้องแคท…เรียนเชิญเลยครับ ทำมาเพื่อแจกกันชม แบ่งกันเผยแพร่
ขอบคุณมากที่สนใจ (แค่นี้ก็หายเหนื่อยแล้วสำหรับคนเก็บภาพ)

ตามที่แจ้งไปตั้งแต่หัว Blog แล้วว่าผมไม่สามารถนำลิงค์ภาพทั้งหมดที่ลงไว้ในเว็บอัลบั้มส่วนตัวมาลง Blog นี้ได้หมดนะครับ…คงต้องไปติดตามและก็อปปี้กันได้ต่อจากที่แจ้งลิงค์ไปข้างบนครับ

ตัวอย่างภาพนี้หากกล้องตั้งโหมดออโต้… ตกม้าตายทุกตัวไปครับ ยกเว้นทำแบบที่ผมแนะนำไปข้างบนจะได้ภาพและสีสันที่อิ่มตัวเท่าที่จะเก็บรายละเอียดมาได้มากที่สุด

ยิ่งตอนถ่ายหนุมาน…นี้เซ็งเลย เพราะไม่เคยอยู่นิ่งๆเดี๋ยวก็วิ่งเดี๋ยวก็กระโดด แถมชุดขาวทั้งชุด ตั้งวัดแสงไม่พอดีก็เก็บรายละเอียดเครื่องประดับไม่ได้เอาเลย

แต่เชื่อไหมว่า…ผมชอบตอนยักษ์เดินทัพมากครับ ยักษ์เดินสวย (ยังกะเต้นแร๊ป เอิกๆ) เดินมีจังหวะลีลาสวยงามมากๆ ไม่เหมือนลิงเดินกองทัพ… มักจะวิ่งกันไปมาไม่ค่อยอยู่ในแถว เอิกๆ และไม่มีจังหวะเอาเลย ฮ่าฮ่า