กรณีศึกษา svthai.com

จากที่เพื่อนๆ น่าจะมีการติดตามเรื่องกรณี ปัญหาของ svthai
เวลาก็ล่วงเลยมานานแล้ว แต่ปัญหาก็ยังไม่จบซักที
ขออภัยที่ผมไม่ค่อยได้เข้ามา และไม่ได้เข้ามาตอบกระทู้
เนื่องจากกลัวจะทำให้เรื่องยิ่งบานปลายเข้าไปมากกว่าเดิม
ซึ่งอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอีกครั้ง หรือไม่ก็ตาม

วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ อย่างน้อย ก็เพื่อให้เป็นวิทยาทาน และเพื่อไม่ให้คนอื่น เดินผิดพลาดซ้ำรอย
ซึ่งเพื่อไม่ให้บุคคลที่เกี่ยวข้องคนอื่นได้รับความเสียหาย ของดพาดพิงนะครับ

เรื่องเกิดมาเป็นเวลา เกือบ 2 ปีแล้ว ตั้งแต่ ก.ย. 2553
ช่วงขณะนั้น เป็นช่วงที่บริการของเรา บูม มาก เรียกว่า ติด 1 ใน 10 ผู้ให้บริการ Co-location
ที่มีผู้ใช้บริการใช้มากที่สุดในประเทศไทย เรามี ตู้ในความดูแล ถึง 8 ตู้ด้วยกัน
ซึ่งทำให้ มียอดค่าใช้จ่ายต่อเดือน มากกว่าเดือนละ 300,000 บาท เนื่องจากซื้อสเปคสูงมาให้บริการ
ซึ่งช่วงแรกๆ นั้น ตอนที่มียอดค่าใช้จ่ายน้อย ได้ดำเนินการชำระเงินโดยเครดิต 2 เดือนเสมอ
พอยอดเยอะขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ก็ทำให้มียอดหนี้ มากกว่า 600,000 บาท แล้ว
แต่การบริหารงาน มีกำไรมาโดยตลอด เพราะว่าลูกค้าเต็มตู้ทุกเดือน แต่ไม่ได้กำไรมากนัก… (เพราะอะไร เฉลย โปรดอ่านต่อเนื่อง)
เงินส่วนกำไร ที่ได้มา ก็จ่ายไป ขาดการสำรอง และการบริหารที่เหมาะสม

ปัญหาเริ่มต้นที่ เดือน ก.ย. 2553 เราพึ่งเปิดตู้ใหม่ (ตู้ที่ 8) ในขณะที่ตู้ที่ 7 ยังไม่เต็ม
เนื่องจากลูกค้าที่จะเข้าตู้ที่ 8 นั้น ขอเริ่มต้นเช่าที่ 1/2 Rack ก่อน แต่แจ้งว่า ถ้าบริการดี จะเช่าทั้งตู้
ด้วยความที่ มั่นใจ ว่าสามารถ ทำงานขาย ให้เต็มได้แน่นอนมาโดยตลอด ถึงแม้ลูกค้าจะไม่เช่าทั้งตู้ก็ตาม
จึงรับลูกค้ารายดังกล่าว และเปิดตู้ใหม่ เพื่อรองรับลูกค้ารายนั้น และลงทุนซื้ออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อรองรับลูกค้า
ผ่านมา 1-2 เดือน ลูกค้ายังไม่มีวี่แวว ว่าจะเปิดเต็มทั้งตู้ ซึ่งไม่ได้เป็นความผิดของลูกค้า
แต่ปัญหา เกิดกับตู้ 7 เนื่องจากว่า ลูกค้ารายหนึ่ง ซึ่งเปิด Game Server ถูก UDP Flood Attack อย่างหนัก
เป็นช่วงที่ มีการไล่ขอทดสอบบริการ Hosting เพื่อติดตั้ง Script PHP UDP Flood
ซึ่งคนที่ Attack นั้น Flood มาจากหลายๆ เครื่อง ครั้งละ 4-5 โฮส ซึ่งเป็น โฮสเดิมๆ ที่มีการ flood มาบ่อยๆ
เมื่อตรวจสอบแก้ไขแล้ว ทำการแจ้งเจ้าของ host แล้ว ก็ยังมีการแก้ไขที่นานมากกว่า 6 ชั่วโมง
และ เมื่อแก้ไขแล้ว ผู้ที่ flood ก็ไปเช่า ip อื่น เพื่อ flood มาใหม่ เพราะว่ามีหลายโฮสที่ขอทดสอบได้ฟรี
เมื่อหลายๆ เจ้ายกเลิกการให้ทดสอบฟรี เพราะว่ามีการขอทดสอบเพื่อนำไป attack บ่อยครั้ง
คน attack ก็ยอม ที่จะเสียเงิน host ละ 500 บาท ต่อปี เพื่อนำมา flood อีก
เพราะว่าเป็นเงินจำนวนไม่มาก เมื่อเทียบกับความเสียหายที่ได้รับ และคุ้มค่ากับเงินที่ถูกจ้าง
ถูก flood เป็นเวลานานกว่า 2-3 สัปดาห์ เปลี่ยน IP มาเรื่อยๆ แต่เนื่องจากความที่ไม่ยอมกับปัญหาแบบนี้
และแก้ไขมาได้ตลอด จึงไม่ได้ขอยกเลิกลูกค้ารายดังกล่าว และปล่อยให้ ถูก attack จนกระทบทั้งตู้
จนมาสัปดาห์ที่ 3 ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด จึงขอให้ลูกค้ารายดังกล่าว เช่าสายตรง และซื้อ Bandwidth เพิ่ม(เนื่องจากขณะนั้น CSL ยัง Shape B/W อยู่)
ซึ่งไม่ได้ลดผลกระทบมากเท่าไหร่ เพราะว่าผู้ที่ attack ใช้ host ที่ attack มาหลายๆ ที่พร้อมกัน

เนื่องจากลูกค้าในตู้ 7 ได้รับผลกระทบมาเป็นเวลานาน ซึ่งทำให้หลายๆ เจ้าไม่สามารถรับกับปัญหาได้
พอถึงปลายเดือน ลูกค้าหลายราย แจ้งความประสงค์ นำเครื่องออก ทำให้ตู้ 7 เหลือลูกค้าน้อยกว่า 1/4 ที่ยังใช้บริการอยู่
ทำให้ขณะนั้น ทั้งตู้ 7,8 อยู่ในภาวะขาดทุนทั้ง 2 ตู้ รายได้จากตู้ 1-6 ก็เพื่อนำมาอุ้ม ส่วนรวมไว้
ทำให้ขณะนั้น รายได้ ทั้งหมด แค่เพียงพอต่อการชำระค่าตู้เท่านั้น ขาดทุนบ้าง เท่าทุนบ้าง

เนื่องจากเริ่มจากการขยายตู้เพิ่มเรื่อยๆ และหาลูกค้าใหม่เรื่อยๆ แต่การทำงาน เป็น One Man Show การบริหารบัญชี การทวงยอด
บริหารหนี้ลูกค้า จึงดำเนินการแบบ ห่วยแตก และมั่วหมดจด
พอยอดเริ่มเท่าทุนกับต้นทุน พอบ้าง ไม่พอบ้าง จึงเริ่มมีการตรวจสอบอย่างละเอียด
จึงทำให้พบว่า มีลูกค้าหลายราย ที่ค้างชำระค่าบริการ มากกว่า 3 เดือน
ตรวจสอบไปมา ทำให้พบว่า ยอดหนี้ ที่ค้างจากลูกค้า ที่ยังไม่ได้ชำระเงิน มีมากกว่า 500,000 บาท
ซึ่งมากกว่า ครึ่งหนึ่ง ในนั้น เป็นหนี้ ศูนย์ เพราะว่า ลูกค้าพอมีการทวง แจ้งว่า ไม่ได้ใช้แล้ว ไม่จ่าย
แต่เข้าไปตรวจสอบในเครื่อง มีการใช้งานอยู่ตลอด ซึ่งส่วนนี้ เป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้บริหารให้ดี
หลายรายที่ยอมรับว่าใช้งาน แต่ด้วยยอดที่ค้างเยอะ ก็ไม่จ่ายเช่นกัน และพอตัดสัญญาณ ก็หนีไม่ชำระเงินไปเลย
ทำให้ลูกค้าในส่วนนี้ ที่เป็นหนี้ และไม่ชำระเงิน ก็หายไปอีก จากหลายๆ ตู้รวมกัน ก็เท่ากับว่า ขาดทุนไปอีก 1 ตู้เต็มๆ
เท่ากับขณะนั้น ต้นทุนตู้มีทั้งหมด 8 ตู้ แต่ รายได้มีเพียง 5 ตู้ ครึ่ง เท่านั้น
มีอยู่เดือนหนึ่ง เนื่องจากลูกค้ารายใหญ่ ที่จะชำระเงินรายปี มาโดยตลอด เป็นจำนวน เกือบ 200,000 บาท
เดือนนั้น ประสบภาวะขาดทุนมาก แต่ถึงกำหนดที่จะชำระเงินจำนวนนี้ในเดือนนั้นพอดี
จึงทำให้ย่ามใจ เนื่องจากมั่นใจว่าลูกค้ารายนี้ จะชำระเงินตรงเวลา… แต่ไม่ได้เป็นอย่างนั้น
ลูกค้าขอผลัดการชำระเงิน และขอยกเลิกการชำระเงินรายปี เป็นเท่าที่ใช้งานมาในภายหลัง
จึงทำให้บริหารเงินไม่ทัน เนื่องจากการบริหารนั้นเป็นเดือนต่อเดือน เพราะประสบภาวะขาดทุนมาเป็นเวลานานแล้ว
ทำให้ถูกตัดสัญญาณ ทั้ง 8 ตู้ เป็นเวลาหลายชั่วโมง

ผลกระทบจากการถูกตัดสัญญาณไม่กี่ชั่วโมง นั้น ใหญ่หลวงนัก
ลูกค้าทะยอยแจ้งออก เป็นจำนวนมาก ทำให้ภาวะขาดทุนนั้น หนักขึ้นไปอีก
การยกเลิกตู้ ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่สามารถย้ายเครื่องลูกค้าไปอีกตู้หนึ่งได้
เพราะว่า หลังจากถูกตัดสัญญาณแล้ว ทางผู้ให้บริการ ก็ไม่อนุญาต ให้ย้ายเครื่องไประหว่างตู้ได้
จึงไม่สามารถยกเลิกได้ เพราะถ้ายกเลิกตู้ใดตู้หนึ่ง ลูกค้าที่ยังอยู่ ก็จะไม่สามารถใช้งานได้

เริ่มประสบปัญหา ไม่สามารถคืนเครื่องลูกค้าที่ขอยกเลิกได้ เนื่องจาก ไม่สามารถย้ายเครื่องระหว่างตู้ได้
และไม่สามารถนำเครื่องออกจากตู้ได้ เพราะยังมียอดค้าง
ลูกค้าใหม่ ก็ไม่มี เนื่องจากหลังจากนั้น มีผู้ให้บริการบางราย คอยส่ง Message ทั้งจาก THT
และที่อื่นๆ บอกลูกค้าที่กำลังจะตัดสินใจ ไม่ให้เข้ามาใช้บริการ และคนที่ใช้งานอยู่ให้ยกเลิกบริการ
กระทู้ไหนที่มีผู้ที่สนใจเช่า มาโพส ก็จะมีการส่ง Message ให้กับลูกค้า เสนอข้อเสนอที่ดีกว่า
และดิสเครดิต ไม่ให้มาใช้งาน

แน่นอน เมื่อขาดทุน ก็ไม่สามารถหาเงินมาชำระได้ตรงเวลา
ทำให้ขณะนั้น มีหนี้ค้างชำระค่าตู้ 3 เดือน (เป็นเงิน 900,000 กว่าบาท)
แต่เอ๊ะ เดียวก่อน เวลาเราเช่านั้น เราใช้หมดเดือนเขาถึงส่งบิลเก็บเงิน…
แสดงว่าความจริงแล้ว เท่ากับ 4 เดือนสิ มากกว่า 1,200,000 กว่าบาท ล้านสอง !!!
พอหลังจากถูกตัดสัญญาณแล้ว ก็ถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าก็ลดลงเรื่อยๆ
ไม่ว่าจากทางไหนก็ตามเถอะ ไม่เป็นไร…
เข้าไปเซ็นสัญญา ยอมรับสภาพหนี้ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายเครื่องเซิร์ฟเวอร์ได้
ไม่สามารถย้ายเครื่องไปตู้อื่นของตัวเองได้ และไม่สามารถนำเครื่องออกได้
ใช้เวลา 4-5 เดือน จึงชำระหนี้ก้อนใหญ่ก้อนนี้หมด…

แต่ทุกอย่างมันไม่ได้สวยหรูอย่างนั้นเหมือนในหนัง
เพราะว่า ระหว่างที่เราทำอะไรกับเครื่องไม่ได้เลย… เขาก็คิดค่าบริการเรา
ทำให้หลังจากนั้น ต้องหาเงินชำระทั้งหนี้ ทั้งรายเดือนปกติ… เท่ากับต้องหาเงินมาจ่ายมากกว่าเดิม 2 เท่า
หลังจากนั้นมา โชคดี หาเงินได้ก้อนหนึ่ง ทำให้สามารถยกเลิกตู้ได้ เพราะการที่จะยกเลิก ต้องชำระหนี้ของตู้ให้หมด
ถึงจะสามารถย้ายเครื่องจากตู้หนึ่ง ไปอีกตู้ได้ และนำเครื่องออกให้ลูกค้าได้
สู้ยิบตา จนสามารถยกเลิก ได้ ทีละ 2 ตู้
จาก 8 ตู้ เหลือ 6 ตู้ จาก 6 ตู้ ตอนนี้เหลือ 4 ตู้ เป็นเงินรายเดือนประมาณ 170,000 บาทกว่าๆ
ลูกค้าก็ทะยอยขอยกเลิกบริการกันเรื่อยๆ ลูกค้าใหม่ก็ไม่มี
ตอนนี้ รายได้จาก co-location ที่ได้ ก็มีเพียง 2 ตู้เท่านั้น
แต่ยอดหนี้ ที่เหลือ มีเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น

จากการที่ต้องยื้อ ไม่สามารถลดตู้ ยกเลิกตู้ได้
ทำให้จำเป็นต้องหาเงิน เพื่อใช้หนี้ พร้อมกับ ทำให้ลูกค้าที่ใช้งานอยู่ไม่ถูกตัดสัญญาณ และใช้งานได้ปกติ
ก็เป็นเวลา กว่า 1 ปี แล้ว… ขาดทุนเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว… เงินที่เสียไปเปล่าๆ เพื่อทำให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้
มาถึงตอนนี้ น่าจะมากกว่า 3 ล้าน บาทแล้ว เพราะว่าประสบความขาดทุนมาตลอด
ขณะนี้ชำระหนี้ ในรูปแบบ ค่าบริการ 1 เดือน + ชำระหนี้ ครึ่งเดือน จนแผนการชำระเงิน
มาถึงเดือนนี้เป็นเดือนสุดท้ายแล้ว ก็จะสามารถยกเลิกตู้ที่ยังขาดทุนทั้งหมด
เหลือแต่ตู้ที่เต็ม และรวมมาเหลือ 2 ตู้ และได้กำไร

ถ้าไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นอีก ลูกค้าทุกราย ที่ประสงค์จะนำเครื่องกลับ จะได้รับเครื่องคืนภายในต้นเดือนหน้า
และไม่ถูกตัดสัญญาณ มาเป็นเวลา 1 ปีกว่า แล้ว
ขณะนี้ทราบว่าลูกค้าหลายราย ที่รอรับเครื่องกลับนั้น ได้ไปแจ้งความ
ได้คุยกับทางผู้ให้บริการอย่างเต็มที่แล้ว แต่ทางนั้นยังไม่อนุญาตให้เอาออก จนกว่าแผนการชำระหนี้ครั้งนี้จะหมดสิ้น
ต้องขออภัยกับลูกค้าที่ประสงค์จะยกเลิก และยังไม่สามารถนำเครื่องออกได้ เพราะทางผู้ให้บริการไม่ยอมให้นำออกจริงๆ ครับ

ซึ่งหลายๆ ท่านที่เข้ามาโพสในหมวดไกล่เกลี่ย ได้ทะยอยได้รับเครื่องคืนเป็นบางส่วนแล้ว
แต่บางกระทู้ยังอยู่ และไม่ได้ถูกลบออกครับ
แต่ก็มีหลายท่านที่ยังไม่ได้รับ เนื่องจากยังเอาออกจากตู้ไม่ได้ จนกว่าจะครบกำหนดในเดือนนี้

หลายๆ ท่านอาจจะได้รับฟังข่าว เกี่ยวกับการใช้เงินของผม ว่าสุรุ่ยสุร่าย ไม่รับผิดชอบนำมาจ่ายค่าตู้
ก็มีส่วนครับ ในช่วงแรกๆ ที่เริ่มเกิดปัญหา ยอมรับว่ามีการใช้บ้าง แต่ไม่ได้เป็นจำนวนเยอะขนาดที่ท่านได้ฟัง
ไม่เหลือสำรองในกรณีที่มีปัญหา อย่างเพียงพอ ทำให้เกิดปัญหาใหญ่ลุกลามขึ้น
เหตุผลหลักๆ ที่เกิดปัญหา อันเนื่องมาจากการบริหารการเก็บเงินจากลูกค้าที่ผิดพลาด
และการแก้ปัญหาที่ผิดพลาดเมื่อถูก Flood attack ครับ

ผมสู้เพื่อลูกค้ามา เกือบ 2 ปีแล้วครับ และก็จะสู้ต่อไปจนกว่าปัญหาจะหมดครับ
ผมไม่หนีไปไหนแน่นอนครับ

เดี๋ยวผมมาพิมพ์ต่อนะครับ
ท่านที่อยากซ้ำ อยากว่า ขอเถอะครับ ขอท่านเก็บไว้อีกซัก 1 เดือน
เมื่อผมคลี่คลายปัญหาเสร็จแล้ว ท่านค่อยใส่ผมเต็มๆ
ตอนนี้ขอกำลังใจครับ เพราะปัญหาทุกอย่างกำลังจะจบลงแล้ว
ยอดหนี้ ก็จะหมด ตู้ที่ขาดทุน ก็จะยกเลิกได้หมดแล้ว
ท่านที่เกลียดผม กรุณาเก็บไว้ซัก 1 เดือน ขอเห็นแก่ลูกค้าที่ยังอยู่ และลูกค้าที่มีปัญหา
ให้ผมได้มีแรงแก้ไขปัญหาต่อไปด้วยเถอะครับ เพราะตอนนี้ ที่อยู่ได้ ที่แก้ไขปัญหาได้
ก็เพราะกำลังใจ เพราะห่วงใยลูกค้า ครับ

ขอจองไว้ก่อน เพราะกำลังพิมพ์เพิ่มครับ

:d5f02ecd:

ไม้ล้มข้ามได้ คนล้มอย่าข้าม แต่คนชื่อไม้ล้มเหยียบเลย อ่ะไม่ใช่
อยู่ THT มาหลายปี ดูห้องไกล่เกลี่ยมาก็นานโข เจอปัญหาแบบนี้มาก็บ่อย
ค่อยๆแก้ ค่อยๆทำ กำลังใจมีให้เสมอครับ

เป็นกำลังใจให้ พี่ จขกท และคู่กรณีด้วยครับ :baa60776:

สําหรับคนอื่นผมไม่รู้นะครับ แต่สําหรับผม ผมให้กําลังใจพี่ไม้เสมอนะครับ

จําได้ว่า เราเจอกันครั้งแรก ความช่วยเหลือที่ได้รับจากพี่ไม้นั้น ล้นหลาม

เรื่อง ธุรกิจ ไม่มีความเห็น แต่เรื่องกําลังใจ ให้เต็มร้อยครับ

คนล้ม ผมไม่ข้ามครับ เพราะถ้าวันนึง ผมล้มบ้าง ผมคงอยากให้คนอื่นเข้าใจผมเหมือนกัน

เป็นกำลังใจให้ครับ :d5f02ecd:

เป็นกำลังใจให้ครับ

เป็นกำลังจัยให้ครับ

ขอเป็นกำลังใจให้ ฝ่าฟันอุปสรรค และลุกขึ้นมายืนอีกครั้งนะครับ

ปัญหามันบานปลายก็ตรงที่ไม่ยอมให้ยกเลิกตู้นี่ล่ะ
เป็นกำลังใจให้ครับ สู้มา 2 ปีละ เหลืออีกนิดเดียว

ขอบคุณมากครับที่มาช่วยแชร์ประสบการณ์ ขอให้สู้ต่อไปครับ

ขอบคุณที่นำรายละเอียดมาเล่าสู่กันฟังครับ

ปัญหา เกิดกับทุกๆคนครับ จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง ขึ้นไปถึง 100 แล้วร่วงมา 0 ก็เป็นเรื่องปกติที่ทุกๆคนต้องเจอ เพื่อเป็นหารทดสอบตัวเองครับ ผ่านตรงนี้ไปได้ ยังไง มันเกินร้อยแน่นอนครับ เป็นกำลังใจให้อีก 1 เสียงครับ สู้ สู้

น่าเห็นใจนะพี่ไม้ แต่ขอตินิด บางครั้งลูกค้าอยากทราบอะไรก็ควรให้เขาทราบนิดนึง ไม่ว่าจะเป็นผลร้ายหรือดี บางครั้งพี่เงียบหายไป นี่แหละคือการทำให้ลูกค้าโกรธ
ถ้าพี่จะกลับมานับ 1 ใหม่ ผมจะขอใช้บริการเลยครับ แต่ขอให้พี่กลับมาอย่างชัว ถึงจะมีหนี้ก็ตาม แต่ต้องหมั้นใจไม่ถูกตัดสัญญานแบบเก่า

ผมว่าอย่างที่คุณไม้บอกไป เพราะทำงานเป็น One Man Show จึงทำอะไรค่อนข้างไม่กระทัดรัด และลำบาก ไม่ทั่วถึงครับ

ถือเป็น Case Study ที่ยอดเยี่ยม และเตือนใจผมได้พอสมควรเกี่ยวกับการทำงานใหญ่ๆ เพียงตัวคนเดียว

เป็นกำลังใจให้ครับ สุ้ต่อไปครับผม

:d5f02ecd::d5f02ecd:

พี่คงไม่กล่าวอะไรมาก ก็เอาหลังชนฝา… หันหน้าสู้ต่อไปครับ.

คงเป็นช่วงที่ก้าวถอยหลังสินะครับ

ไมเป็นไรครับ คิดในแง่ดีก็เป็นช่วงเวลาที่เราได้มองสิ่งที่เราทำลงไป(ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ถึงจะรุ่งแค่ไหน ก็ต้องถอยกลับมามองสิ่งที่ตัวเองทำบ้าง)

ก้าวต่อไปครับ !!!

ภาระค่าใช้จ่ายใดๆ ล้วนหนักอึ้งด้วยกันทั้งนั้น ยังไงขอเอาใจช่วยให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ :d5f02ecd:

สู้ๆต่อไปครับ ปัญหาจะหมดถ้าเราคิดจะแก้ครับพี่

  1. ไม่มีคนทำบัญชีที่ดีพอ
  2. โดน UDP FLOOD มาหลายๆ ครั้ง แทนที่จะเชิญออก กลับให้อยู่ต่อ จนกระทบกับคนอื่นที่อยู่ในตู้เดียวกัน

ปัญหาสำคัญมาจาก 2 ข้อนี้