ถ้า submit เข้า DMOZ แล้วไม่ได้ list รออีกสักเดือนแล้ว submit ใหม่ หรือลองไปที่ http://www.resource-zone.com/ post ถาม DMOZ Editor ที่นั่นดู (อย่างสุภาพ)
Editor ที่ดูแล section Reginal Thailand ใน DMOZ.ORG ส่วนใหญ่เป็นคนไทยค่ะ เขียนเมลเป็นไทยไปคุยได้ค่ะ
:o
สุดยอดจริงๆ ครับ คุณ Sleepless
ขอบคุณครับ 
Update เพิ่มเตืม
สำหรับเว็บไซต์ใหม่ Google จะจับเข้า probation ประมาณ 3 เดือน
เว็บใหม่ๆที่เพิ่ง submit เข้าไปหลังจากต้นปีที่ผ่านมาจะเจอปัญหาคล้ายๆกันซึ่งไม่เคยเกิดมาก่อนคือจะมี ranking ค่อนข้างดีสำหรับบาง keyword ที่ optimize มาเฉพาะช่วงสัปดาห์แรก หลังจากนั้น Google จะจับเข้า probation หายไปจากอันดับเลย อีกประมาณ 3 เดือนจึงจะหลุด pro
อันนี้ไม่ยืนยัน เพราะฟังมาอีกที แต่ก็สังเกตุ pattern ลูกค้าหลังๆจะเป็นแนวนี้หมด คือช่วงแรกจะค่อนข้างมี traffic จาก google เข้ามา แต่พอติด pro หายไปจาก listing เลย
แต่ไม่เป็นสำหรับ domain เก่าแต่ redesign ใหม่ จะเป็นกับ domain ใหม่ที่เพิ่งจดแล้ว submit เข้า google เท่านั้น
สังเกตุใหมครับว่าหลังๆนี่ลูกค้ามักจะ demand เรื่อง site ranking ว่า host กับคุณแล้ว site ranking จะดีหรือเปล่า ผมว่าลูกค้าปัจจุบันเริ่มเปลี่ยน requirement จากแต่เดิมที่เน้นเนื้อที่เยอะ, unlimited everything, etc. มาเป็นเน้นเรื่องอันดับใน Google (ซึ่งอันที่จริงไม่ค่อยเกี่ยวกับ hosting เท่าไหร่) จึงเลยต้องคอยศึกษา Google เพื่อทำเว็บให้ลูกค้า หรือแนะนำเว็บให้ลูกค้า
ถึงจะเป็นการเสียเวลาสักหน่อย แต่ผมว่า hosting น่าจะให้ความสนใจกับ Google Ranking และ Site Statistic ของลูกค้าบ้าง เพราะถ้าลูกค้ามีคนเข้าเว็บเยอะ และขายของได้เยอะ % ที่จะ renew ในปัต่อไปจะสูง สังเกตุดูจากลูกค้าที่ไม่ค่อยมี traffic (ซึ่งหมายถึงไม่มี lead จากเว็บ) พอถึงตอน renew จะไม่ค่อยต่อ แต่สำหรับลูกค้าที่มีธุรกิจเข้ามาจากเว็บเยอะจะจ่ายเงินต่ออายุ hosting เร็ว เพราะไม่อยากให้เกิด discontinue ในธุรกิจเขา
ลูกค้าปัจจุบันมีความรู้มากขึ้น และคำนึงถึง ROI มากกว่าเดิม hosting จึงควรปรับตัวเองให้เป็น trade lead provider ผ่านทางเว็บ แทนที่จะเป็น hosting provider เหมือนเดิมครับ
ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัว อาจจะไม่ตรงกับของคนอื่นครับ แต่น่าจะเพิ่มมุมมองเรื่อง Customer Loyalty ให้กับผู้ที่กำลังหา factor ด้านนี้อยู่ครับ อย่ามัวแต่มองเรื่อง reliability และ spec ของ hosting plan กันมากนัก บางครั้งลูกค้าไม่ได้รู้เรื่องเลยว่า 200 MB กับ 20MB ต่างกันอย่างไร หรือ PHP, MYSQL, ASP.NET คืออะไร แต่สิ่งที่ลูกค้าสนใจคือ ROI จากการฝากเว็บไว้กับคุณมากกว่าครับ และน่าจะเป็นวิธีที่ทำให้ไม่ต้องลงไปแข่งเรื่องราคากันจนตลาดพัง
สรุป Quality of Service มัน shift จาก Technical Support ไปเป็น Business Support แล้ว
(หมายเหตุ: ทั้งหมดสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจนะครับ ลูกค้ากลุ่มบุคคล เช่นกลุ่มนักเรียนอาจจะมี requirement ไม่เหมือนกัน แต่ลูกค้าผมมีแต่กลุ่มธุรกิจเลยไม่มีความเห็นกลุ่มบุคคล ซึ่งอาจจะยังเน้น hosting spec อยู่)
สรุป Quality of Service มัน shift จาก Technical Support ไปเป็น Business Support แล้ว
(หมายเหตุ: ทั้งหมดสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจนะครับ ลูกค้ากลุ่มบุคคล เช่นกลุ่มนักเรียนอาจจะมี requirement ไม่เหมือนกัน แต่ลูกค้าผมมีแต่กลุ่มธุรกิจเลยไม่มีความเห็นกลุ่มบุคคล ซึ่งอาจจะยังเน้น hosting spec อยู่)
เป็นประเด็นที่น่าสนใจมากครับ แต่ก็อยากจะชี้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมนิดนึงครับ
ว่าลูกค้ากลุ่มธุรกิจเอง ก็จะแบ่ง ว่าเป็นธุรกิจที่อิงกับ Internet (พวก E-commerce, etc.)
หรือเป็นธุรกิจปกติที่นำ Internet (web site, email, etc.) เข้ามาช่วยเสริม
ถ้าเป็นพวกแรก ก็ชัวร์ป๊าบ ถ้า Hosting ช่วยเขาด้าน ranking, etc… ได้ เขาจะรักคุณมาก
เพราะทำให้ธุรกิจเขาดีขึ้นๆ
ถ้าเป็นพวกหลัง ก็จะยังคงเน้น Reliability ครับ ผมเชื่อว่า ราคาไม่ค่อยมีผล
กับลกค้าพวกหลัง เพราะเคยทดสอบปรับราคา ขึ้นๆ ลงๆ แม้กระทั่งเชิญให้
สมัคร plan ใหม่ราคาถูกลง ก็ไม่เคยสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงใดๆ
เพราะถ้าลูกค้ากลุ่มนี้ใช้งานได้ดีอยู่แล้ว ก็จะไม่อยากทำอะไรใหม่อีก
เข้าทำนองว่า “If it works, don’t fix it” คือ ถ้ามันดีอยู่แล้ว อย่าไปยุ่งกับมัน
etc…
เห็นด้วยกับคุณ Pizzaman ว่าสำหรับลูกค้าธุรกิจกลุ่มแรกนั้น Ranking สำคัญกับเขามากมาตั้งแต่วันแรกที่เขาเริ่มจดโดเมนเนมแล้วครับ เพราะเขาเป็น online business
ที่พูดมาหมายถึงกลุ่มหลังครับ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่ม exporter ซึ่งแต่ก่อนเขามองเว็บไซต์เป็นแค่ catalog online และใช้งานอีเมล์ในการติดต่อกับลูกค้าเป็นหลัก
แต่ปัจจุบันแนวโน้มในกลุ่มนี้เริ่มเปลี่ยนไป เนื่องจากลูกค้ามีความรู้มากขึ้น รู้จัก Google, รุ้จัก Site Submission, รู้จัก Site Optimization และ term อื่นๆ และลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ได้มองเว็บไซต์เป็นแค่ online catalog อีกต่อไป แต่เขามองว่าเว็บไซต์จะ generate sale lead ให้เขาได้อย่างไร ถึงแม้ธุรกิจกลุ่มนี้จะไม่มี online transaction แต่ที่เขาต้องการคือ sale lead ครับ
สังเกตุได้จากลูกค้าของบริษัทในช่วงหลังๆเขา คำถามหลักคือทำอย่างไรเขาจึงจะอยู่หน้าแรกใน Google แทบจะทุกรายจะมีคำถามแบบนี้ครับ
ok หลังจากได้รับคำอธิบาย เห็นด้วยครับ ว่ามี subgroup พวกนี้อีกด้วย 
ได้ความรู้เยอะมาก…ถ้าไม่ได้เลือกทำรายงานเรื่อง google คงจะไม่ได้มาเจอเว็บนี้นะเนี่ย
แหะๆ ไอ้ลูกค้าที่ถามแบบว่าทำยังไงให้สามารถไปขึ้นได้ที่หน้าแรกๆ ของ google นี่ผมเจอทุกครั้งแหละครับ
ฉนั้นทางแก้ปัจจุบันของผมก็คือ ออกแบบแล้ว สร้างแล้ว ต้องแถมบริการ submit site to search engine ให้ไปอีกต่างหาก เพราะ submit ตอนแรกๆ จะขึ้นครับ แต่จะให้คงอันดับนั้นยากมาก
ไอ้พวกโปรแกรม submission นั้นเลิกคิดได้เลยครับ มันแค่ช่วยให้ง่ายขึ้นในการ up ไปเท่านั้นเอง ไม่ต้องเปิด หรือ พิมพ์ให้เหนื่อย
ใครมี program addweb หรือ ส่ง web เข้า search engine บริจาค บ้างครับ
หง่ะ ดูไงเหรอคับว่า Robot ของ Google มันเข้ามาเว็บเราเมื่อไหร่อะไรยังไง?
จาก Web Stat น่ะครับ
Webstat ของ ทรูฮิต ของกูเกิ้ล เหรือว่าของที่ไหนครับ ??
ของตัวเองจาก web server ครับ จริงๆ พวก awstats หรือ webalizer จะมีบอกนะครับ
ของผมไม่มีบอกอ่า ทำไงดี (ใช้ cp ชื่อ MX-Controller อยู่)
ลงเองได้นี่ครับ
ลงอะไรยังไงเหรอคับ ขอออธิบายแบบละเอียดๆหน่อยครับ งงครับ
อ่านวิธีการได้จากเว็บเขาครับ
เว็บของ Google น่ะเหรอคับ
ผมดูจาก CP มันก็จะบอกแค่ IP ครับ ต้องแยกเองว่า ip ใหนเป็นของ google, inktomi
แต่สำหรับเวบผมเป็นระบบ cms แค่เอา module robotstat มาลงเพิ่มในเวบ ก็สามารถดู report ได้จากหน้า admin ของระบบ cms (ผมใช้ RUNCMS)
ถ้าเป็น phpnuke ก็ไม่น่ายากเพราะโมดูลที่ผมใช้เขาเอามาจากของ phpnuke มาแก้ไข
แต่ถ้าเป็นระบบอื่นหรือเป็น html ธรรมดาก็คงต้องดูจาก stat ของ cp เอา