Windows OneCare แอนตี้ไวรัสสมบูรณ์แบบตัวแรกของ MS

Windows OneCare แอนตี้ไวรัสสมบูรณ์แบบตัวแรกของไมโครซอฟท์

ไมโครซอฟท์มีแผนเริ่มทดสอบผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ซีเคียวริตี้สมบูรณ์แบบ อาทิ แอนตี้ไวรัส แอนตี้สปายแวร์ ไฟร์วอลล์ และทูลส์ต่างๆ เป็นการภายในในสัปดาห์นี้ และมีกำหนดปล่อยเวอร์ชั่นเบต้าให้ผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาได้ทดลองใช้ตอนปลายปี

บริษัทไมโครซอฟท์ (Microsoft) ผู้ผลิตซอฟต์แวร์อันดับ 1 ของโลก เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2005 ว่า ไมโครซอฟท์มีแผนเริ่มทดสอบ “Windows OneCare” เป็นการภายในในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการทดสอบใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนปล่อยเวอร์ชั่นเบต้า หรือเวอร์ชั่นทดสอบ ให้ผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาได้ทดลองใช้ตอนปลายปี

Windows OneCare คือโซลูชั่นด้านคอมพิวเตอร์ซีเคียวริตี้สมบูรณ์แบบตัวแรกของไมโครซอฟท์ ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับการปกป้อง, บำรุงรักษา และปรับแต่งระบบวินโดว์สพีซี เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้วินโดว์สพีซีในเรื่องความสะดวกและง่ายดายในการป้องกันและกำจัดไวรัสคอมพิวเตอร์ หนอนคอมพิวเตอร์ สปายแวร์ และโค้ดร้ายต่างๆ โดยผู้ใช้จะต้องเสียค่าธรรมเนียมเป็นรายปีสำหรับการอัพเดทฐานข้อมูลไวรัสหรืออื่นๆ เพื่อการปกป้องที่สมบูรณ์

สำนักข่าวไอดีจี (IDG) รายงานว่า Windows OneCare คือก้าวแรกที่ชัดเจนของไมโครซอฟท์ในธุรกิจแอนตี้ไวรัสที่ปัจจุบันมีผู้เล่นชั้นนำ ได้แก่ บริษัทซิมแมนเทค (Symantec), บริษัทแมคอะฟี (McAfee) และบริษัทเทรนด์ไมโคร (Trend Micro)

Windows OneCare มีความสามารถมากมาย ทั้งการป้องกันและกำจัดไวรัสและหนอนคอมพิวเตอร์, การป้องกันและกำจัดสปายแวร์, ไฟร์วอลล์ประสิทธิภาพสูง, การแบ็คอัพและกู้ระบบ และการบำรุงรักษาระบบโดยอาศัยเครื่องมือต่างๆที่อยู่แล้วในวินโดว์ส

“แนวคิดคือนำสิ่งที่มีอยู่แล้ว มาผูกรวมกับสิ่งที่ได้พัฒนาขึ้นใหม่ ปรับปรุงในเรื่องความสะดวกและความง่ายในการใช้งาน แล้วนำเสนอแก่ผู้บริโภค” เดนนิส บอนซอลล์ (Dennis Bonsall) ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัทไมโครซอฟท์ กล่าว

ไอดีจีรายงานว่า Windows OneCare มีเป้าหมายที่กลุ่มคอนซูเมอร์ ไม่ใช่บิซิเนส และคาดหวังว่า 70% ของผู้ใช้วินโดว์สพีซีจะใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้จากความสะดวกและความง่ายในการใช้งานซึ่งถือเป็นจุดขาย ตรงกันข้ามกับผลิตภัณฑ์คู่แข่งที่มีอยู่ในตลาดที่ยุ่งยากซับซ้อนและใช้เวลาค่อนข้างมากในการบริหารจัดการ

สิ่งที่น่าสนใจอันหนึ่งในตัวของ Windows OneCare คือสิ่งที่เรียกว่า “Health Meter” หรือหน้าปัดวัดสุขภาพของพีซี คล้ายกับ Windows Security Center ใน Windows XP Service Pack 2 โดยแสดงผลเป็นสีเขียว สีเหลือง และสีแดง พร้อมทั้งคำแนะนำขั้นตอนที่ควรกระทำเพื่อให้ระบบสมบูรณ์

นักวิเคราะห์ว่า การมาของ Windows OneCare จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้เล่นในปัจจุบัน “OneCare จะเป็นผู้ชนะ ขณะที่บริษัทแอนตี้ไวรัสในปัจจุบันจะเป็นผู้แพ้” แวน เบเกอร์ (Van Baker) นักวิเคราะห์ของการ์ตเนอร์ กล่าว

ผลิตภัณฑ์ซีเคียวริตี้ที่มีอยู่ในปัจจุบันยุ่งยากและซับซ้อนเกินไปสำหรับผู้บริโภคทั่วไป การแสดงผลเป็นสีเขียว เหลือง แดง ใน Windows OneCare เป็นบางอย่างที่น่าสนใจอย่างยิ่ง “มันเข้าใจง่าย พร้อมคำแนะนำว่าควรทำอะไรต่อไป” เบเกอร์กล่าว

เบเกอร์เชื่อว่า ผู้บริโภคจะให้ความไว้วางใจไมโครซอฟท์

“สิ่งที่ผู้บริโภคคิดก็คือ ไมโครซอฟท์คือผู้พัฒนาวินโดว์ส ไมโครซอฟท์จึงเป็นผู้ที่รู้จักวินโดว์สดีที่สุด รู้จุดอ่อนจุดแข็ง และรู้ว่าจะปกป้องมันได้อย่างไร พวกเขาจะไว้ใจไมโครซอฟท์” เบเกอร์กล่าว

ไมโครซอฟท์ยังคงปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับราคาค่าผลิตภัณฑ์และค่าบริการ รวมถึงกำหนดการสำหรับเวอร์ชั่นจริง

หุ้นไมโครซอฟท์ปิดที่ 25.30 ดอลลาร์ เพิ่ม 0.30 ดอลลาร์หรือ +1.20% หุ้นซิมแมนเทคปิดที่ 19.27 ดอลลาร์ เพิ่ม 0.72 ดอลลาร์หรือ +3.88% และหุ้นเทรนด์ไมโครปิดที่ 33.77 ดอลลาร์ ลด 0.79 ดอลลาร์หรือ -2.29% ที่ตลาดแนสแดค ส่วนหุ้นแมคอะฟีปิดที่ 24.91 ดอลลาร์ ลด 0.35 ดอลลาร์หรือ -1.39% ที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก เมื่อวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2005

ข่าว : ผู้จัดการ

ขอบคุณๆ