อยากขอความรู้เรื่อง vps ครับ

อยากขอความรู้เรื่อง VPS ครับ
ว่าตอนนี้ OS ไหนที่นิยมครับ
Program VPS ไหนที่ใช้กันอยู่ครับ(Vmware หรือ Xen) ครับ
แล้วก็ Feature ที่พื้นฐานที่จะต้องมีให้บริการครับ

ตกยุคไปนานตามไม่ค่อยทันครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ

VPS ปัจจุบันส่วนใหญ่ Linux ก็จะใช้ Centos 5 นะครับ
ความแตกต่างระหว่าง Xenserv , VMware , Virtuozzo
VMware จะแบ่งออกอิสระสามารถมี OS ได้เช่น windows 2003 และ linux อยู่ร่วมกัน
ข้อเสียคือ กินทรัพยากรมาก และต้องมี CPU / Memory ขนาดที่ใหญ่พอสมควร
ข้อดีคือแยกกันอิสระ ลงได้หลาย OS ควบคู่กัน

Virtuozzo ใช้ Kernel ตัวเดียวกันคือ Windows ก็จะเป็น Windows หมด Linux เป็น Linux หมด
ข้อดีคือ ใช้ทรัพยากรเครื่องน้อยทำให้รองรับ VPS ได้มากกว่าหลายเท่าตัว เพราะเพียง Ram 64 MB ก็สามารถใช้งานได้
ประสิทธิภาพใช้งานดีกว่า มีการรองรับการทำ template OS ที่ใช้งานง่ายรวมไปถึง application ซึ่งน่าจะเหมาะกับการใช้เพื่อ Hosting , Applicationมี control panel ที่จัดการได้ง่ายมากขึ้น backup สะดวก

แล้วราคา virtuozzo นี่ขายกันอย่างไรครับ เห็นคุณ thaibizhost เป็นตัวแทนจำหน่าย ไม่ทราบว่าราคาอยู่ที่เท่าใหร่ครับต่อ license ครับ

pm ราคาให้ผมหน่อยครับ

ขอบคุณครับ

หากใช้ virtuozzo ก็ไปใช้ของฟรีก็ได้ครับ http://openvz.org ผมใช้งานทำเครื่อง vps ให้ลูกค้ามาหลายเครื่อง นิ่งวางใจได้ครับ

ถ้าเรื่องราคาของแท้ VMware ESX สอบตกแน่ๆครับ

ให้เป็นความรู้นะครับ จะได้เป็นข้อมูลในการค้นหา VPS ที่เหมาะกับงานและคุ้มค่าที่สุด

10 เหตุผลสำคัญที่คนเลือกใช้ Server Virtualization Technology

ปัจจุบันนี้ Server Virtualization เริ่มเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา การแข่งขันที่มากขึ้นเรื่อยๆนี้ถือได้ว่า เป็นส่วนผลักดันให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์, ระบบปฏิบัติการ, และไปจนถึงเวนเดอร์ผู้พัฒนาเครื่องมือและผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ดีกว่าเดิมออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และมีราคาที่สามารถแข่งขันในตลาดได้ จึงทำให้ในตลาดมีตัวเลือกของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพิ่มขึ้นมากหน้าหลายตา ดังนั้นจึงเป็นการยากและต้องใช้เวลาสำหรับองค์กรในการเลือกสิ่งที่เหมาะที่สุด จากข้อมูลการตลาดที่มีอยู่มากมายในหลายๆผู้ขาย รายการต่อไปนี้จะแจกแจงเหตุผลสำคัญและความแตกต่าง เพื่อใช้ประเมินเทคโนโลยีแต่ละชนิด ซึ่งชนิดของเทคโนโลยีดั้งที่จะกล่าวในการวิเคราะห์ต่อไปนี้ ได้แก่ Hardware Virtualization, Para-Virtualization และ OS Virtualization

ภาพรวมของเทคโนโลยี

HARDWARE VIRTUALIZATION
Hardware Virtualization เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่คนทั่วไปรู้จักกันดี ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์จาก VMware, Parallels และ Microsoft เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้ฮาร์ดแวร์รู้จักระบบปฏิบัติการ(OS)ที่กลากหลาย และให้ผู้ใช้สามารถรันOS หรือซอฟต์แวร์หลายๆระบบบนเซิร์ฟเวอร์ตัวเดียวได้ นอกจากนี้ ยังทำให้ฮาร์ดแวร์นั้นรองรับการแบ่งปันทรัพยากร เพื่อที่จะสามารถทำงานเป็น Virtual Machine อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ได้

PARA-VIRTUALIZATION
ตามแนวคิดแล้วการทำ Virtualization โดยใช้เทคนิค Para-Virtualization นั้น ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้กับ OS ที่หลากหลายบนเซิร์ฟเวอร์ตัวเดียวได้ ซึ่งคล้ายกับ Hardware Emulation แต่ดีกว่า เพราะเน้นพุ่งเป้าไปที่การแก้ไข OS ที่มาใหม่และมีความเร็วมากกว่า ซึ่งในปัจจุบันโปรแกรมเดียวที่นำเทคโนโลยีนี้เข้ามาใช้คือ Xen โดยซอฟต์แวร์ตัวนี้จะทำงานอยู่บนลำดับชั้นเดียวกันกับ OS หลักตามความเหมาะสม จึงทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ

OS VIRTUALIZATION
OS Virtualization นั้นเป็นอีกขั้นหนึ่งของ Virtualization ที่ถูกนำมาใช้โดย Parallels Virtuozzo และ Sun’s Solaris Containers โดยมีแนวความคิดเริ่มต้นจากครั้งที่ OS เพียงแค่ระบบเดียวนั้นจะถูกใช้ในการจัดการและอัพเดทเซิร์ฟเวอร์หนึ่งตัว โดยมีข้อจำกัดหลักที่ว่า เซิร์ฟเวอร์ตัวเดียวกันนี้จะไม่สามารถรองรับการใช้งานOSหลายๆระบบได้ ดังนั้นทำให้องค์กรมีความต้องการที่จะรวมหรือติดตั้ง Virtual Server หลายๆตัวบนเซิร์ฟเวอร์เดี่ยวของ Linux, Windows หรือ Sun เห็นได้ชัดว่า Solaris Containers นั้นรองรับการใช้งานกับ Solaris ในขณะที่ Virtuozzo นั้นรองรับการใช้งานทั้ง Linux และ Windows ส่วน Parallels Virtuozzo ของผลิตภัณฑ์ Linux นั้นรองรับการแบ่งการใช้งานของ Linux ใน Virtual Server หลายๆตัว

ข้อที่ควรพิจารณาทั้ง10

  1. MANAGEMENT TOOLS
    หลายๆองค์กรให้การยอมรับ Virtualization เพราะสามารถระบุต้นทุนที่มองเห็นในการติดตั้งฮาร์ดแวร์ในศูนย์ข้อมูลที่อัตราการใช้งาน 15-20% ขณะที่ส่วนประกอบของต้นทุนฮาร์ดแวร์และต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมนั้นมีอยู่ แต่ต้นทุนการบริหารจัดการของเซิร์ฟเวอร์นั้นถือว่าเป็นส่วนที่แพงที่สุด งานในการบริหารจัดการนั้นได้แก่ การอัพเดท, แก้ไข, เก็บสำรองข้อมูล, ติดตั้ง รวมถึงการดูแล OS และแอพพลิเคชัน

เครื่องมือที่ใช้ในการจัดการในแต่ละโซลูชั่นนั้นมีอยู่มากมายหลากหลาย บางโซลูชั่นก็มีเครื่องมือให้ใช้ได้ค่อนข้างน้อยหรือบ้างก็จำกัด ดังนั้นในผลิตภัณฑ์ที่ดีสมบูรณ์ ย่อมมี Toolset ที่ดีเยี่ยมอยู่หลากหลาย

ขั้นตอนการเปลี่ยนจากเซิร์ฟเวอร์กายภาพ (Physical Server) มาเป็นเซิร์ฟเวอร์เสมือน (Virtual Server) นั้น ฟังดูค่อนข้างวุ่นวายและน่าท้อแท้สำหรับหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเซิร์ฟเวอร์นั้นมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจอย่างมาก อันที่จริงเวนเดอร์ส่วนใหญ่นั้นได้พัฒนาเครื่องมือที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายนี้ไว้อยู่แล้ว และยังมีเวนเดอร์อื่นๆภายนอกที่ไม่ได้แค่พัฒนาเครื่องมือในการเคลื่อนย้ายข้อมูลจาก Physical มายัง Virtual Server เท่านั้น แต่ยังสามารถเคลื่อนย้ายข้อมูลในสภาพแวดล้อมแบบเสมือนทั้งหมด หรือแม้กระทั้งย้ายจาก Virtual กลับไปยัง Physical Server ก็สามารถทำได้เช่นกัน ด้วยความสามารถในการประเมิน Physical Server สำหรับการใช้ประโยชน์ของทรัพยากรที่มีอยู่นั้น จึงสามารถคาดการณ์และออกแบบ Virtual Server ที่เหมาะสมได้ ซึ่งความสามารถเหล่านี้ถูกจัดลำดับให้เป็นส่วนประกอบที่มีความสำคัญมากที่สุด และสำคัญยิ่งกว่าสิ่งจำเป็นทั่วไปในการเคลื่อนย้ายข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์แบบ Physical ไปยัง Virtual (P2V) ส่วนแนวโน้มการจัดเก็บทรัพยากรนี้พบได้ในเครื่องมือ P2V คุณภาพสูงเพียงไม่มากนัก

  1. Virtualization Level
    วิธี Para-Virtual และ Hardware Virtualization นั้นใช้หลักการของการแสดงและจัดการเทคโนโลยีแบบเสมือนในฮาร์ดแวร์ไปจนถึง OS ตำแน่งการทำงานของ OS Virtualization นั้นจะอยู่เหนือOSอีกที ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีเสมือนในหนึ่งเซิร์ฟเวอร์เพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของฮาร์ดแวร์ที่มีอยู่ Hardware Virtualization นั้นเหมือนกับDedicated Serverตรงที่ เซิร์ฟเวอร์นับสิบที่แยกกันอยู่หรือเพียงเซิร์ฟเวอร์เล็กๆและถูกผูกรวมเข้ามาอยู่กลายเป็นเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่เพียงตัวเดียวนั้น ก็ยังคงทำงานภายใต้ OS

OS Virtualization นั้นต้องการ OS เพียงแค่ระบบเดียวในการทำงาน แต่ก็สามารถรองรับการใช้งาน OS ที่ต่างกันได้ การติดตั้งที่ง่ายดายของเซิร์ฟเวอร์เสมือนนั้น Hardware Virtualization ที่มีอยู่จะทำให้เห็นว่าจำนวนเซิร์ฟเวอร์เสมือนนั้นมีมากขึ้น กว่าที่เคยมีในเซิร์ฟเวอร์ธรรมดาหนึ่งตัว หากมี OS และแอพพลิเคชันที่สมบูรณ์ในเซิร์ฟเวอร์เสมือนแต่ละตัว ปริมาณงานที่ผู้ดูแลระบบไอทีต้องจัดการนั้นจะมีมากขึ้น OS Virtualization ที่ติดตั้งใน OS หนึ่งระบบต่อเซิร์ฟเวอร์หนึ่งตัวนั้น จะจำกัด OS แค่หนึ่งชนิด แต่อย่างไรก็ตามก็ค่อนข้างเป็นผลดีและเป็นประโยชน์ในแง่ของการจัดการ

  1. PERFORMANCE
    ทำไม Processing Overhead นั้นถึงสำคัญ? เพราะมันส่งผลต่อการดำเนินการของแอพพลิเคชันและท้ายสุดคือความพึงพอใจของผู้ใช้โดยตรง แอพพลิเคชันแบบ Non-production หรือ Non-critical เท่านั้นที่จะถูกบรรจุไว้ในระบบพื้นฐานแบบ Virtualization ซึ่งมี Processing Overhead ที่สูงในอัตราระหว่าง 1% ถึง 60% ตามความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ แอพพลิเคชันเสมือนนั้นอาจสามารถทำงานได้ใกล้เคียงหรือช้ากว่าประสิทธิภาพที่แท้จริง ทำให้ผู้ใช้งานจริงไม่สามารถยอมรับในจุดนี้ได้ ผลิตภัณฑ์ในเทคโนโลยีแบบ Virtualization แต่ละประเภทนั้นจะมีสมรรถภาพที่แตกต่างกันอย่างมาก แต่โดยทั่วไปแล้ว Hardware Virtualization นั้นจะมีการลดถอยของประสิทธิภาพการทํางานมากที่สุด ส่วน OS Virtualization นั้นจะสามารถทํางานตามประสิทธิภาพที่แท้จริงได้ใกล้เคียงที่สุด

  2. DENSITY
    ลูกค้าหลายคนให้การยอมรับ Virtualization เพราะจากผลการทดสอบอัตราการใช้งานเซิร์ฟเวอร์ (Server Utilization) นั้นต่ำถึง 5-15% เพราะยิ่งอัตรา Server Utilization นั้นเพิ่มขึ้นเท่าใด ต้นทุนของการเป็นเจ้าของทรัพยากรในศูนย์ข้อมูลจะยิ่งเพิ่มขึ้น บ่อยครั้งที่เซิร์ฟเวอร์ใหม่ๆนั้นเป็นที่อยู่ของเซิร์ฟเวอร์ที่ถูกรวมเข้าด้วยกันนั้น ทำให้ประสิทธิภาพและความสามารถในการทำงานของเซิร์ฟเวอร์สูงขึ้น และหากเพิ่มเซิร์ฟเวอร์เสมือนขึ้นอีกหนึ่งตัว ก็จะยิ่งส่งผลให้ผลตอบแทนการลงทุน (ROI) นั้นเร็วขึ้น Virtualization ในบางโซลูชั่นนั้นก็จำกัดจำนวนเซิร์ฟเวอร์เสมือนในหนึ่งเซิร์ฟเวอร์ และเพราะโครงสร้างหรือ Overhead ที่สูงนั้น บางโซลูชั่นก็ไม่สามารถรองรับการใช้งานเซิร์ฟเวอร์เสมือนได้หลายตัวเช่นกัน

เทคโนโลยีของ OS Virtualization นั้นมีความสามรถพิเศษเฉพาะในการจัดการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ เพราะไม่มีการจำกัดจำนวนของเซิร์ฟเวอร์เสมือนในหนึ่ง Physical Server และด้วยประสิทธิภาพของโครงสร้างนี้ทำให้เซิร์ฟเวอร์เสมือนหลายตัวสามารถรองรับการทำงานได้ตามความเหมาะสมของPhysical Serverเดียวได้ ที่สำคัญคือทำให้การใช้ประโยชน์ที่ไม่รวมOverheadนั้นเกิดขึ้นสูงสุด และยังมีผลทำให้ประสิทธิภาพการทำงานต่อค่าใช้จ่ายและ ROI นั้น มีค่ามากที่สุด

  1. PLATFORM SUPPORT
    แม้ว่าเทคโนโลยีแบบ Virtualization นั้นนำข้อมูลและการดำเนินการพื้นฐานของเทคโนโลยีเสมือนมาจากฮาร์ดแวร์รากฐานจริง แต่โครงสร้างพื้นฐานเสมือนนั้นก็ไม่ได้รองรับการทำงานใดๆในฮาร์ดแวร์ โดยเฉพาะ Hardware Virtualization และ Para-Virtualization นั้นต้องรองรับการทำงานของฮาร์ดแวร์ในแต่ละชิ้น ตั้งแต่ส่วนที่โดดเด่นอย่าง CPU ที่ไปจนถึงส่วนอย่างการ์ดวีดีโอ ตามคำจำกัดความแล้วเทคโนโลยีของ OS Virtualization นั้นถูกสร้างมาเพื่อให้ทำงานอยู่บนลำดับชั้นที่เหนือกว่า OS ดั้งนั้นมันจึงสามารถรองรับการทำงานของฮาร์ดแวร์ทุกตัวที่ OS รองรับอยู่แล้วได้อัตโนมัติ จึงไม่ทำให้เกิดความยุ่งยากเวลาที่ติดตั้งฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม ยิ่งไปกว่านั้นเทคโนโลยีบางประเภทสามารถดึงประสิทธิภาพและความสามารถที่แท้จริงของฮาร์ดแวร์ออกมาได้อย่างเต็มที่ภายใต้ Virtual Machine ซึ่งรวมถึง SMP ซับพอด, 64-bit โพรเซสซิ่ง, 16 CPU และ RAM 64GB

  2. MIGRATION
    หนึ่งในประโยชน์ที่ดีที่สุดของเซิร์ฟเวอร์เสมือนคือการที่ถูกนำข้อมูลและการดำเนินการพื้นฐานจากลำดับชั้นฮาร์ดแวร์ออกมา และสามารถทำการเคลื่อนย้ายข้อมูลระหว่างเซิร์ฟเวอร์หลายตัวได้ ด้วยประสิทธิภาพในการเคลื่อนย้ายนี้ทำให้สามารถคัดลอกและเคลื่อนย้ายเซิร์ฟเวอร์เสมือนจากPhysical Serverไปยังที่อื่นได้ ประโยชน์อื่นๆของการเคลื่อนย้ายนี้รวมถึง:

[b]- กำจัดช่วงเวลาที่เครื่องคอมพิวเตอร์หยุดทำงาน (Downtime) ที่อาจเกิดจากความผิดพลาดหรือการอัพเกรดฮาร์ดแวร์

  • หลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่เครื่องคอมพิวเตอร์หยุดทำงาน (Downtime) ที่อาจเกิดจากแก้ไขซอฟต์แวร์ เพื่อให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้การทำงานแล้วเสร็จสมบูรณ์
  • เคลื่อนย้ายเซิร์ฟเวอร์เสมือนไปยังเซิร์ฟเวอร์อื่นๆที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือน้อยลงตามข้อกำหนด[/b]

โซลูชั่นต่างๆใน Virtualization นั้นมีทั้งความสามารถในการคัดลอกหรือการเคลื่อนย้าย แต่ก็หันมาให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพ, เงื่อนไขและต้นทุน โซลูชั่นที่ดีมากนั้นจะไม่มีDowntimeระหว่างการเคลื่อนย้ายเลย ดังนั้นโซลูชั่นแบบนี้ราคาค่อนข้างสูงมาก และจำเป็นจะต้องใช้ SAN (Storage Area Network—ซึ่งเป็นระบบเครือข่ายของที่เก็บข้อมูล โดยนำอุปกรณ์ที่จัดเก็บข้อมูลมาติดตั้งรวมกันเป็นเครือข่าย มีระบบจัดการข้อมูลบนเครือข่ายที่ทำให้รับส่งข้อมูลได้รวดเร็ว ทำให้ข้อมูลที่เก็บเสมือนเป็นส่วนกลางที่แบ่งให้กับซีพียูหลายเครื่องได้) ในขณะที่ซอฟต์แวร์ทำให้โซลูชั่นอีกแบบนึงนั้นแทบจะไม่มีDowntimeในเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์เลย การพิจารณาและประเมินความสำคัญของการเคลื่อนย้ายนั้นค่อนข้างจำเป็น เพราะจะช่วยตัดสินว่าจะใช้การเคลื่อนย้ายอย่างไรให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่สุด

  1. RESOURCE MANAGEMENT
    เทคโนโลยีทั้ง 3 ประเภทนี้ต่างก็มีวิธีการจัดสรรทรัพยากรที่ต่างกัน สำหรับทรัพยากรของฮาร์ดแวร์ใน Hardware Virtualization และ Para-Virtualization นั้น จะถูกใช้งานแบบเสมือนกระจายไปในเซิร์ฟเวอร์เสมือน ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีความสามารถในการแบ่งใช้และปรับเปลี่ยนทรัพยากรได้ยืดหยุ่นต่างกัน ทรัพยากรบางอย่างนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเสมอและสามารถสามารถแก้ไขได้ทันที แต่ทรัพากรบางอย่างนั้นจำเป็นจะต้องทำการรีบูตเซิร์ฟเวอร์ใหม่หรือแค่อินเทอรัพเซิร์ฟเวอร์เสมือนเสียก่อน ที่จริงแล้วเทคโนโลยีทั้ง2แบบนี้กำหนดทรัพยากรในฮาร์ดแวร์เสมือนไปยังเซิร์ฟเวอร์เสมือน ทรัพยากรเสมือนอาจมีจุดอ่อนในข้อจำกัดของ CPU และหน่วยความจำที่จะถูกใช้งานโดย Virtual Machine

OS Virtualization นั้นมีความสามารถในการจัดการทรัพยากรได้ยืดหยุ่น และการแก้ไขทรัพยากรนั้นก็สามารถทำได้ทันทีโดยไม่หยุดชะงักการทำงานของแอพพลิเคชันหรือเซิร์ฟเวอร์เสมือน โดยเฉพาะ Parallels นั้นสามารถเปลี่ยนระดับการใช้ทรัพยากรได้ เพราะเซิร์ฟเวอร์เสมือนสามารถเรียกใช้ทรัพยากรตามที่ต้องการบนเซิร์ฟเวอร์ได้

  1. ISOLATION & SECURITY
    เทคโนโลยีแต่ละแบบนั้นมีความแตกต่างกันในการทำงานแบบอิสระและความปลอดภัย ส่วนประกอบพื้นฐานสำคัญที่สุดของวิธีการ Virtualization นั้นคือการแบ่งพื้นที่ทรัพยากรที่มีอยู่ Virtual Machine แต่ละตัวนั้นจะต้องถูกแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง เพื่อให้การประมวลผล, DLL และแอพพลิเคชันต่างๆไม่ส่งผลต่อกันระหว่างการทำงานบนเซิร์ฟเวอร์เดียวกัน

ปัจจุบันเทคโนโลยีใหม่ๆทำให้ชุดอุปกรณ์สำรับเข้าใช้งานเครือข่ายและส่วนประกอบของเซิร์ฟเวอร์ปกตินั้นเปลี่ยนแปลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ค่อยเป็นปัญหากับการทำงานของเซิร์ฟเวอร์เสมือนเท่าไหร่ ความปลอดภัยระหว่าง Virtual Machine บนเซิร์ฟเวอร์เดียวกันนั้นก็ถือว่าสำคัญมากเช่นกัน เทคโนโลยีแต่ละแบบก็จะมีวิธีการที่ต่างกัน และเป็นกรณีพิเศษสำหรับ XEN และ Solaris Containers ที่ได้รับการทดสอบจากกลุ่มลูกค้าอย่างกว้างขวางเพื่อให้การทำงานแบบอิสระและความปลอดภัยนั้นสมบูรณ์ที่สุด

  1. INTENDED VIRTUALIZATION DEPLOYMENT
    การติดตั้งใช้งานระบบเซิร์ฟเวอร์แบบ Virtualization ที่เห็นได้บ่อยนั้นมีอยู่3แบบ คือ การทดสอบและพัฒนา, การรวมเซิร์ฟเวอร์ (migration) และ การกู้ระบบหรือข้อมูล

ขั้นตอนแรกสำหรับองค์กรในการติดตั้ง Virtualization เทคโนโลยีนั้นคือการทดสอบและพัฒนา เพราะความต้องการของผู้พัฒนาที่จะใช้ OS ต่างกันนั้นทำให้ค่อนข้างลำบากในเรื่องจัดการค่าใช้จ่าย สำหรับองค์กรการพัฒนาที่ต้องการใช้ OS ที่ต่างกัน ทางเลือกที่ดีที่สุดคือ Hardware Virtualization ส่วน Para-Virtualization นั้นถูกออกแบบให้รองรับการทำงาน OS หลายๆระบบได้แต่ก็ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร Virtuozzo ของ Parallels สำหรับระบบ Linux นั้นสามารถรองรับการทำงาน Linux ไม่ว่าจะเป็น CentOS, Ubuntu, Fedora, RedHat, Suse, Debian อยู่ในเซิร์ฟเวอร์เดียวกัน

การรวมเซิร์ฟเวอร์(ซึ่งเกี่ยวข้องกับแอพพลิเคชันที่มีอยู่ หรือแอพพลิเคชันใหม่) นั้นสำเร็จเป็นแบบฉบับมาตั้งแต่ในขั้นตอนสนับสนุน Live Data และแอพพลิเคชันของการผลิต Processing Overhead และ Server Utilization เป็น 2 สิ่งสำคัญที่สุดที่ควรคำนึงถึงในการรวมเซิร์ฟเวอร์ ด้วยข้อดีของการมี Overhead ที่ต่ำและมี Server Utilization ที่สูง จึงทำให้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดสำหรับการรวมเซิร์ฟเวอร์คือ OS virtualization

วิธีการกู้ระบบหรือข้อมูลนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาของการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์เสมือน องค์กรหลายแห่งพบว่าระบบที่สมบูรณ์และซ้ำซ้อนนั้นจะมีค่าใช้จ่ายในการกู้ระบบหรือข้อมูลค่อนข้างสูง เซิร์ฟเวอร์เสมือนที่สามารถ Activate, Boot และสร้างเซิร์ฟเวอร์พื้นฐาน (Primary Server) ในเวลาที่จำกัดนั้นจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นและสามารถจัดการกู้ระบบหรือข้อมูลเพิ่มขึ้นตามแต่ละทางเลือกได้ ข้อแตกต่างนั้นมีอยู่ในเวลาที่ใช้Bootของเทคโนโลยี ดังนั้ยส่วนประกอบกับเครื่องมืออื่นๆนั้นอาจจะซื้อมาใส่ในเซิร์ฟเวอร์ที่มีอยู่เพิ่มเติมได้

  1. CAPABILITIES AND PERFORMANCE COMPARISON
    สิ่งสุดท้ายในการพิจารณาคือ การเปรียบเทียบประสิทธิภาพการทำงาน โซลูชั่นที่หลากหลายก็ต่างมีส่วนได้ส่วนเสียของเทคโนโลยีที่ต่างกัน ดังนั้นจะอยู่ที่การใช้งานมากกว่า แต่หากนำมาเปรียบเทียบกับ Physical Server แล้วนั้น Virtualization นั้นให้ความสะดวกและปลอดภัยในการทำงานมากกว่าเซิร์ฟเวอร์จริงเสียด้วยซ้ำ

บทสรุป

เทคโนโลยี Server Virtualization นั้นมีอยู่3ประเภทหลัก ด้วยการออกแบบโครงสร้างที่ต่างการทำให้เทคโนโลยีแต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียต่างกัน เทคโนโลยีหนึ่งแบบก็จะเหมาะสมกับการทำงานของเซิร์ฟเวอร์เสมือนแบบหนึ่ง และเทคโนโลยีแต่ละประเภทก็ต่างมีโซลูชั่นและเครื่องมือที่เวนเดอร์คิดค้นขึ้นมาอย่างหลากหลาย หวังว่ารายการประเมินผลนี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกใช้โซลูชั่นที่เหมาะที่สุดสำหรับสิ่งที่คุณต้องการ

หวังความคงมีความเข้าใจเพิ่มขึ้นนะครับ เห้อ…เมื่อย

เยียมๆ

ลองดู Ubuntu 8 นะครับ ติดตั้ง KVM มาด้วย โดยเทียบกันแล้ว KVM ทำงานได้เร็วกว่า Xen เขาว่างั้นนะครับ
ที่สำญ config ง่ายด้วย ลง windows ได้ด้วย
วันนี้ผมเพิ่ง load Ubuntu มาว่าจะอเมาลองเล่นดู ได้ความอย่งไรจะมาเล่านะครับ