“ทรัพย์สมบัตินั้นเทียบได้เสมือนกับน้ำ”
อิมซังอ๊กเริ่มต้นจากการเป็นพ่อค้าเร่ที่ไม่มีทรัพย์ สินใดๆ แต่แล้วเขาก็กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่ง
ของโชซอน เขาทำการค้าไปทั่วทุกหนแห่ง ไม่เพียงแต่คาบสมุทรโชซอนเท่านั้น เขายังไปถึงเมืองจีน
ญี่ปุ่นอีกด้วย เขาได้นำทรัพย์สินที่หาได้ในหลายปีไปใช้เพื่อสาธารณะ ปรโยชน์ คืนกำไรสู่สังคม
เขาไม่ใช่พ่อค้าเหลี่ยมจัด ที่ใช้ทุกวิถีทางในการหาเงิน แต่เขาเป็นพ่อค้าคุณธรรม (ซังโด) ดังนั้นผู้คนทั้งหมด
ในโชซอนจึงได้เคารพ เลื่อมใสและรักเขา
7 วิธีที่ทำให้ อิมซังอ๊ก กลายเป็น มหาเศรษฐีของโชซอน
- จับทิศทางความต้องการของตลาดล่วงหน้า
ใน ปี 1800 จองซุนไทเฮาล้มป่วยลง และคาดว่าจะสิ้นพระชนม์ภายใน 1-2ปีข้างหน้าจึงได้เตรียมผลิตผ้าป่าน(สำหรับไว้ทุกข์) สำรองเอาไว้ล่วงหน้า ส่วนที่ไม่พอก็ขอซื้อมาจากเมืองจีน เมื่อไทเฮาสิ้นพระชนม์ลง ก็หาเงินได้เป้นจำนวนมาก
- วิเคราะห์นิสัยใจคอและความชอบของลูกค้าก่อนทำการค้า
ตอน ที่จะขายขนตัวนาก 1000ผืนไปยังเมือจีนนั้น ก็มีพ่อค้าชาวโชซอนที่เป็นคู่แข่งทางการค้ากำลังจะขา ยสินค้าตัวเดียวกัน อิมซังอ๊กสืบรู้ล่วงหน้าว่าลูกค้าที่จะติดต่อนั้นชื่ นชอบบทกวี
สมัยถัง (ราชวงค์ถัง)อยู่ ดังนั้นในยามที่ไปเจรจาการค้านั้น อิมซังอ๊กจึงได้เริ่มการสนทนาด้วยการถามเกี่ยวกับบทก วีถังที่ยากต่อการตี ความก่อน เพื่อแสดงให้เห็นว่าตนเองก็มีรสนิยมคล้ายกับลูกค้า ทำให้เจรจาการค้ารายนี้ได้สำเร็จ
- หัวใจสำคัญข้อแรกของการเป็นพ่อค้านั้นคือการรักษาเคร ดิตไว้ให้ดี
อิมซังอ๊กได้กู้เงิน มา 1000ตำลึงโดยเอาชีวิตเป็นหลักประกันกับพ่อค้าเงิน แต่หลังจากสูญเงินทั้งหมดไป เขาสามารถหนีเจ้าหนี้ได้อย่างสบายแต่ไม่ทำ เขาดั้นด้นไปหาเจ้าหนี้ด้วยตัวเอง และบอกว่ามาตามสัญญาที่ให้ไว้ เขาเห็นความสำคัญของการรักษาเครดิต ภายหลังเขาใช้หนี้ได้ครบและ2ปีให้หลัง อิมซังอ๊กสามารถกู้เงิน10000ตำลึงโดยไม่ต้องมีหลักปร ะกัน เขาได้ใช้เงินก้อนนั้นทำกำไรมหาศาลและได้เป็นเพื่อนร ่วมสาบานกับเจ้าหนี้ รายนั้น
- หากพ่อค้าไม่ขยันหมั่นเพีนรแล้วไซร้ ย่อมไม่อาจประสบความสำเร็จได้
อิมซังอ๊กไปเป็นคนงาน ในร้านขายภาชนะทองเหลืองของฮอซัมโบ เพื่อให้ตนเองเรียนรู้งานได้เร็ว เขาจึงได้เข้างานเร็วกว่าคนงานอื่น1ชั่วโมงและกลับหล ังคนงานอื่นๆ 1ชั่วโมง ต่อมาเขาก็ได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลบัญชีของร้านอีกด ้วยและได้พบจุดบอดใน บัญชีของร้าน นอกจากนั้น วันหนึ่งเขาได้เจอปัญหาข้าวในยุ้งฉางเปียกชื้นและแก้ ไขสถานการณ์ตามสภาพแวด ล้อมได้ดี จนหัวหน้างานเชื่อมั่นในตัวเขา
- ต่อให้ต้องขาดทุนก็ต้องยึดมั่นให้หลักคุณธรรม
ใน ตอนที่อิมซังอ๊กต้องการขายผ้าไหมให้กับทางการ โจของอิขุนนางผู้รับผิดชอบในการสั่งซื้อได้ขอส่วนแบ่ งเป็นค่าใต้โต๊ะ เพื่อจะได้รับซื้อสินค้าของอิมซังอ๊กแทนคู่แข่งอีกรา ย แต่อิมซังอ๊กได้ปฏิเสธไปเพราะเห็นว่าการจ่ายสินบนนั้ น แม้ตนจะได้กำไรจากการขายสินค้าแต่ประเทศชาติจะเป็นฝ่ ายเสียผลประโยชน์จาก การคอรัปชั่นของขุนนางกังฉิน ดังนั้นเขาจึงแบกยอมรับความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ไม่ยอมทำสิ่งที่ผิดคุณธรรม ในที่สุดขุนนางผู้ใหญ่ได้รู้ถึงการทุตจริตของโจจองอิ และได้ลงโทษขุนนางชั่ว รวมทั้งหันมาซื้อสินค้าของอิมซังอ๊ก
6.ผู้ที่ใจกล้าลงทุนย่อมหาเงินได้มากกว่า
ทุก ครั้งที่ฮงดึกจูปล่อยเงินกู้นั้น มักจะดูบุคคลิกของผู้กู้เสมอ เขาจะปล่อยเงินกู้ก้อนใหญ่ ให้กับคนที่ดูใจกล้า ใจนักเลง กล้าลงทุน มากกว่าจะปล่อยให้กับคนที่ดูเที่ยงตรง น่าเชื่อถือ ดูเรียบร้อย ยิ่งถ้าเป็นคนใจปลาซิวจะไม่ปล่อยเงินกู้ให้เลย
- ข่าวสารข้อมูลนั้นเป็นสิ่งที่พ่อค้าต้องติดตามให้ทัน อยู่เสมอ
อิมซังอ๊กรู้ข่าวสาร ว่าขุนนางคนหนึ่งสมคบกับพ่อค้าขายคิดจะกักตุนสินค้าก ระดาษไว้เพื่อกดราคา ซื้อและขึ้นราคาขาย เขาจึงได้แจ้งข่าวแก่พ่อค้ากระดาษและผู้ผลิตกระดาษแล ะได้ คว่านซื้อสินค้าเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดการกักตุนสินค้ าและเกิดการขาดตลาดขึ้น สุดท้ายพ่อค้าและขุนนางที่คิดชั่วได้รับความเสียหาย
Credit : ช่อง 3
//** ไปเจอมาครับ เลยเอามาฝาก เพราะเห็นว่าน่าให้ข้อคิดดีๆ สำหรับธุรกิจด้านเครือข่ายนี้ครับ เกี่ยวกันไหมเนี้ย ฮ่าๆ สำหรับผมอ่านเสร็จทั้ง 7 ข้อนี้ มีประโยชน์หมดเลยครับ อิอิ จะมากน้อยแต่ละข้อแล้วแต่คนครับ
Edit เครดิต ช่อง 3