ด่วน! สั่งบล็อกเว็บไซต์จีโอซิตี้ หลังพบมีหน้าเว็บไ

ด่วน! สั่งบล็อกเว็บไซต์จีโอซิตี้ หลังพบมีหน้าเว็บไม่เหมาะสม

จากกรณีที่มีการร้องเรียนว่า เว็บไซต์จีโอซิตี้ในเซิฟเวอร์สถาบันการศึกษาทั้งหมด ถูกบล็อกไม่ให้เข้าเยี่ยมชม ทำให้เกิดผลกระทบต่ออาจารย์ที่ใช้บริการฟรีเว็บเพจแห่งนี้ เพื่อเป็นการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการนั้น

สารวัตรอินเทอร์เน็ต สังกัดคณะกรรมการสืบสวน ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์หรือไซเบอร์ อินสเปกเตอร์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรือไอซีที ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการกระทำธุรกรรมทางคอมพิวเตอร์ ชี้แจงว่า ไซเบอร์อินสเปกเตอร์และสำนักข่าวกรองแห่งชาติได้ตรวจสอบพบว่า เว็บไซต์จีโอซิตี้ในต่างประเทศปล่อยให้มีการนพื้นที่ไปจัดทำเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาสาระ และการแสดงความคิดเห็นที่ไม่เหมาะสมต่อประเทศไทยและที่สำคัญ คือ การหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของพระบรมวงศานุวงศ์ไทยระดับสูง โดยตรวจสอบพบการเข้าเว็บไซต์ดังกล่าวจากสถาบันอุดมศึกษาหลายแห่ง รวมทั้งพบว่ามีนิสิต นักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัยบางแห่งเข้าเว็บไซต์ที่มีข้อความหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
พระบรมวงศานุวงศ์ของไทยระดับสูง และนำมาวิพากษ์วิจารณ์กันในเว็บบอร์ดรวมทั้งเผยแพร่ต่อ ดังนั้นไซเบอร์อินสเปกเตอร์ จึงขอความร่วมมือไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต(ISP) ในประเทศไทยและยูนิเน็ต ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่สถาบันการศึกษาเพื่อบล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์เหล่า
นั้นทั้งหมด

“การบล็อกเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมเป็นหน้าที่ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือไอเอสพี โดยไซเบอร์อินสเปกเตอร์มีหน้าที่เพียงคอยตรวจสอบและออกคำสั่งเท่านั้น ส่วนในกรณีนี้ที่มีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูงถือว่า เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและกระทบต่อความมั่นคงเป็นอย่างมาก ดังนั้นไซเบอร์อินสเปกเตอร์และสำนักข่าวกรองแห่งชาติจึงจำเป็นต้องสั่งให้ไอเอสพี ช่วยกันบล็อกเว็บไซต์เหล่านี้ให้ได้ไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ” สารวัตรอินเทอร์เน็ต กล่าว

สารวัตรอินเทอร์เน็ต กล่าวต่อว่า ปัจจุบันการบล็อกเว็บไซต์ยังไม่มีกฎหมายมารองรับโดยตรง นอกจากจะมีการนำเนื้อหามาเผยแพร่ในลักษณะต่างๆ เช่น การบอกต่อ ตีพิมพ์ การส่งต่อ เป็นต้น ดังนั้นจึงต้องขอความร่วมมือไปยังไอเอสพีรายต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลง ที่เคยทำไว้กับการสื่อสารแห่งประเทศไทยหรือ กสท.ในอดีตและนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม

“เว็บไซต์จีโอซิตี้เป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้บุคคลทั่วไปขอพื้นที่ฟรี เพื่อนำข้อมูลและเว็บไซต์ส่วนตัว ไปฝากไว้ โดยอาจมีทั้งเว็บไซต์ด้านวิชาการที่เป็นประโยชน์และเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม ส่วนเมื่อบล็อกเว็บไซต์จีโอซิตี้แล้วทำให้อาจารย์มหาวิทยา ลัยไม่สามารถเข้าเว็บไซต์ด้านวิชาการที่เป็นประโยชน์และเว็บไซต์ส่วนตัวได้นั้น หนทางแก้ไข คือ เมื่อได้ข้อมูลที่ต้องการแล้วควรนำมาเก็บไว้ในเซิฟเวอร์ของมหาวิทยาลัย รวมทั้งเว็บไซต์ส่วนตัวด้วย แต่ถ้าต้องการใช้พื้นที่จากเว็บไซต์จีโอซิตี้จริงๆ ก็ควรเป็นบริการเซิฟเวอร์ที่อยู่ในประเทศไทยเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว” สารวัตรอินเทอร์เน็ต กล่าว

ด้านแหล่งข่าวจากสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักข่าวกรองฯทราบตัวเจ้าของและผู้ดูแลเว็บไซต์ที่มีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ของพระบรมวงศานุวงศ์ไทยระดับสูงแล้ว โดยได้พยายามขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานระหว่างประเทศ เพื่อให้ดำเนินการลบออกโดยด่วนแต่ยังไม่ได้ผล ดังนั้น ขณะนี้หนทางที่ดีที่สุด คือ การบล็อกเว็บไซต์ดังกล่าวทั้งหมดเพื่อป้องกันการเข้าชม นอกจากนั้นในเร็วๆ นี้สำนักข่าวกรองฯจะทำหนังสือแจ้งไปยังอธิการบดีมหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่ง เพื่อให้ทราบถึงพฤติกรรมของนิสิตและทำการตักเตือนเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ในการเข้าชมเว็บไซต์ที่มีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของพระบรมวงศานุวงศ์ไทย ระดับสูงและนำมาวิพากษ์วิจารณ์กัน

แหล่งข่าวจากยูนิเน็ต กล่าวว่า ในฐานะที่ยูนิเน็ตเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่สถาบันการศึกษา ดังนั้นจึงต้องบล็อกการเข้าเว็บไซต์จีโอซิตี้ผ่านเซิฟเวอร์ของมหาวิทยาลัย ตามที่กระทรวงไอซีทีขอความร่วมมือมา ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและความเหมาะสม โดยการบล็อกเว็บไซต์ปกติ สามารถทำได้ 2 วิธี คือ บล็อกเฉพาะหน้าของเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม แต่วิธีดังกล่าวต้องใช้เครื่องมือเฉพาะ ราคาประมาณ 2,000,000 ล้านบาท ซึ่งยูนิเน็ตไม่มี จึงไม่สามารถทำได้ เพราะฉะนั้นจึงต้องใช้อีกวิธี คือ การบล็อกเซิฟเวอร์ของสถาบันการศึกษาเพื่อป้องกันการเข้าเว็บไซต์จีโอซิตี้ทั้งหมด ดังนั้นจึงส่งผลกระทบกับเว็บไซต์อื่นๆ ที่ใช้พื้นที่ของเว็บไซต์จีโอซิตี้ด้วย

พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน นายกสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย กล่าวว่า การบล็อกเว็บไซต์สามารถทำได้ โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพพระบรมวงศานุวงศ์ระดับสูง และเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม เพราะถึงแม้ไม่มีกฎหมายรองรับโดยตรง แต่สามารถใช้กฎหมายอื่นๆ มาบังคับใช้ได้ ซึ่งส่วนตัวมีความคิดเห็นว่าถ้ามีกฎหมายว่าด้วย การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาบังคับใช้ การดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวคงง่ายขึ้น

http://www.thairath.co.th/thairath1/2547/i…/19/update1.php

โดยการบล็อกเว็บไซต์ปกติ สามารถทำได้ 2 วิธี คือ บล็อกเฉพาะหน้าของเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม แต่วิธีดังกล่าวต้องใช้เครื่องมือเฉพาะ ราคาประมาณ 2,000,000 ล้านบาท ซึ่งยูนิเน็ตไม่มี จึงไม่สามารถทำได้ เพราะฉะนั้นจึงต้องใช้อีกวิธี คือ การบล็อกเซิฟเวอร์ของสถาบันการศึกษาเพื่อป้องกันการเข้าเว็บไซต์จีโอซิตี้ทั้งหมด ดังนั้นจึงส่งผลกระทบกับเว็บไซต์อื่นๆ ที่ใช้พื้นที่ของเว็บไซต์จีโอซิตี้ด้วย

บล๊อคเวบ geocities ไร้สาระจริงๆ
เครื่อง Block web ราคา 2 ล้าน ไร้สาระสุดๆ

ตั้งแต่กฏหมาย internet ออกมานี่ บ้าอำนาจกันใหญ่แล้ว เหอๆ

2 ล้านล้านบาท
ใช้ squidGuard คุ้มกว่าเยอะ

คิดว่า ล้าน เกินมาตัวนึง เขาคงพูดถึงพวก hardware ราคา 2 ล้าน :slight_smile:
แต่ก็ เฮ้อ ครับ

2ล้านล้าน บ้าไปแล้ว แค่บล๊อคเวบเนี่ยนะ
เหตุผลที่เอามาอ้างปัญญาอ่อนที่สุด ถ้า uninet ทำไม่ได้ ต้องให้มหาลัยทำแทน
ถามว่ามหาลัยต่างๆ block ได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย (น่าจะเป็นแบบนั้น)
ถามว่า block เฉพาะ url ที่ไม่เหมาะสมทำไม่ได้หรือ การที่บล๊อกทั้งหมดแสดงว่าเลือกใช้วิธีการ block ip ซึ่งทำได้ง่ายกว่า แต่การบล๊อคเฉพาะ url ที่ไม่เหมาะสมก็สามารถทำได้เช่นกัน และน่าจะทำที่ isp แต่ละแห่ง ไม่ใช่มหาลัยต่างๆ
ผมว่าถ้า isp แห่งใหนทำไม่ได้เปลี่ยน engineer ใหม่น่าจะช่วยได้

[quote]
ด่วน! สั่งห้ามออกนอกบ้าน หลังพบมีมลพิษบนท้องถนนมากเกินมาตรฐาน

สำนัก… ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบมลพิษในอากาศ ชี้แจงว่า สำนัก…ได้ตรวจสอบพบว่าบนท้องถนนบางสายมีมลพิษมากเกินกว่ามาตรฐาน อาจเป็นอันตรายกับผู้ที่สัญจรบนถนนเหล่านี้ โดยตรวจสอบพบการใช้ถนนสายดังกล่าวเดินทางไปสถาบันอุดมศึกษาหลายแห่ง รวมทั้งพบว่ามีนิสิต นักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัยบางแห่งใช้ถนนสายเหล่านี้ จนเป็นเหตุให้เกิดอาการเจ็บป่วยหลายราย

[quote]ด่วน! สั่งห้ามหายใจ หลังพบมีมลพิษบนท้องถนนมากเกินมาตรฐาน

สำนัก… ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบมลพิษในอากาศ ชี้แจงว่า สำนัก…ได้ตรวจสอบพบว่าบนท้องถนนบางสายมีมลพิษมากเกินกว่ามาตรฐาน อาจเป็นอันตรายกับผู้ที่สัญจรบนถนนเหล่านี้ โดยตรวจสอบพบการใช้ถนนสายดังกล่าวเดินทางไปสถาบันอุดมศึกษาหลายแห่ง รวมทั้งพบว่ามีนิสิต นักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัยบางแห่งใช้ถนนสายเหล่านี้ จนเป็นเหตุให้เกิดอาการเจ็บป่วยหลายราย

:smiley:

ถ้าวันนึงมีประกาศว่ามีไวรัสอยู่ในอินเตอร์เนตมากจนเกินควบคุมให้ปิดเครือข่ายอินเตอร์เนตทั้งหมดจะเป็นไงเนี่ย :o

จินตานาการแต่ละท่านเป็นเลิศ

เห้อ…

<_<

คือผมคิดว่าถ้าเค้า Block geocities.com เนี่ย

แล้วคนที่ทำเวปไซด์เนี่ย เค้าย้ายไป Free host ที่อื่นหล่ะ

ไม่ต้องตามไปบล๊อกที่อื่นด้วยเหรอ

ส่วนที่บอกว่าให้ที่มหาลัย Block มันแก้ปัญหาง่ายไปนิดนึง

เพราะถ้าเค้าเปลี่ยน username ที่ geocities ก็เข้าชมได้

น่าจะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือการจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ

โดยการนำมาประหารต่อหน้าสาธารณะชน

เหมือนประเทศจีน ที่ประหาร hacker เป็นตัวอย่าง เพื่อไม่

ให้มีคนกล้าทำอีกต่อไป

ผมว่าถ้า เอามาประหาร แบบให้สาธารณะชนได้เห็นก็จะดี

แบบนี้ ใครจะกล้าทำอีก

ใครทำแบบนี้ รับไม่ได้ ถ้าเป็นชาวต่างชาติ เราก็ต้อง ส่งหน่วยคอมมาโด

ไปลอบสังหาร เพื่อมิให้ชาติอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

ให้มันรู้ซะบ้างว่าไผ๋เป็นไผ๋

:angryfire:

น่าจะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือการจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ

โดยการนำมาประหารต่อหน้าสาธารณะชน

เหมือนประเทศจีน ที่ประหาร hacker เป็นตัวอย่าง เพื่อไม่

ให้มีคนกล้าทำอีกต่อไป

ผมว่าถ้า เอามาประหาร แบบให้สาธารณะชนได้เห็นก็จะดี

แบบนี้ ใครจะกล้าทำอีก

ใครทำแบบนี้ รับไม่ได้ ถ้าเป็นชาวต่างชาติ เราก็ต้อง ส่งหน่วยคอมมาโด

ไปลอบสังหาร เพื่อมิให้ชาติอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

ให้มันรู้ซะบ้างว่าไผ๋เป็นไผ๋

:angryfire:

ในความคิด น่าจะเป็นคนละกรณีกัน ไม่น่าจะนำมารวมกันได้

กล่าวคือ Hacker หรือ ผู้จัดทำเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมเหล่านั้น ล้วนต่างเป็นผู้ที่มีความ
รู้ ความสามารถ และมีการศึกษาที่ดีระดับหนึ่ง

น่าจะมีการแนะนำแนวทางที่ถูกต้อง ปลูกฝัง ให้ใช้ความรู้และความสามารถนั้น เพื่อให้
เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม มากกว่าที่จะนำมันมาใช้ในทางที่ผิดๆ อย่างที่ทำกันอยู่
ณ ปัจจุบัน เพราะส่วนตัวเชื่อว่า มนุษย์จะเจริญขึ้น ด้วยการศึกษา และการปลูกฝังจิตสำนึก
ที่ดี เป็นพื้นฐาน และความรู้ ความสามารถนั้นจะนำมาซึ่งความเจริญ มั่นคง ให้แก่สาธารณชน

ถึงแม้ส่วนตัวจะเชื่อมั่นในแนวทางนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันไม่สามารถบรรลุร้อยเปอร์เซ็นต์
ก็ได้แต่เพียงนึกฝากฝังผู้มีอำนาจในบ้านเมืองนี้ ให้เห็นแนวทางแก้ปัญหาที่ยั่งยืนตามสิ่ง
ที่กล่าวมา อย่า “คอรัปชั่น แนวนโยบายการบริหารประเทศ” อย่างที่เป็นอยู่เหมือนทุกวันนี้

อยากให้นึกถึงความเจริญผาสุกของคนในชาติ เจริญด้วยการศึกษาและปลูกจิตสำนึกการ
เป็นผู้ที่เจริญ มากกว่าการ “คอรัปชั่น แนวนโยบายการบริหารประเทศ” เพื่อเอื้ออำนวยผล
ประโยชน์ให้แก่ตนเอง และพวกพ้อง เพราะ เบื้องหลังการ “บล็อก” ครั้งนี้มีผลประโยชน์
ก้อนโตกองอยูข้างหลัง !!!

ส่วนกรณีการลอบสังหาร หรือ ประหาร น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ไม่สามารถเยียวยาเพื่อให้เป็น
คนดีที่เจริญแล้วเท่านั้น มีความผิดจนไม่น่าให้อภัย หยุดการกระทำที่บั่นทอนแก่สังคม
โดยส่วนรวม อย่างที่หลายยุค หลายสมัย ที่ทำกันในหลายประเทศ แม้กระทั่งบางสถานการณ์
ในประเทศไทยเอง ก็สมควรใช้วิธีการนี้ เพื่อหยุด! มากกว่าการเจรจาเพื่อประณีประนอม