กสทปัดฝุ่นซื้อหุ้นลมไอเอสพี สร้างเฟรมประเมินราคาร่วมกัน
โดย ผู้จัดการออนไลน์
[b]กสทจับมือไอเอสพี หารือซื้อ[color=red]หุ้นลม[/color]คืน[/b] [b]โดยครั้งนี้จะสร้างเฟรมประเมินราคาร่วมกัน แทนรูปแบบเดิมที่รัฐเป็นผู้กำหนดขนาดและมูลค่าของผู้ให้บริการ เชื่อแนวโน้มการใช้งานเน็ตเหมือนมือถือที่มุ่งดิจิตอลบรอดแบนด์ ขณะที่ทรูเดินหน้าลุยบรอดแบนด์ จับมือเอ็นซีซอฟต์ตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ "เอ็นซี ทรู" ลุยธุรกิจเกมออนไลน์ในไทย ตั้งเป้าเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดเกมออนไลน์[/b]
นายวสุ คุณวาสี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอเชีย อินโฟเน็ท (Asia InfoNet)ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) ในนามเอเชียเน็ท เปิดเผยถึงกรณีที่กสท โทรคมนาคมให้ไอเอสพีซื้อหุ้นที่กสทและพนักงานถือรวมกันอยู่จำนวน [color=red]33%[/color] คืนว่า ขณะนี้รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของกสทได้นำเรื่องนี้กลับมาพิจารณาอีกครั้ง โดยวิธีการหารือรวมกันกับผู้ให้บริการ และสร้างเฟรมประเมินมูลค่าหุ้นร่วมกัน แทนรูปแบบเดิมที่รัฐเป็นผู้กำหนดว่าราคาอยู่ที่เท่าไหร่ และเป็นผู้ให้บริการขนาดไหน
"เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีการนำเรื่องการเจรจาซื้อหุ้นคืนมาหารือกันอีกรอบ โดยมีทีมประเมินแล้วสร้างเฟรมขึ้นมาว่าจะซื้อขายกันได้เท่าไหร่ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปเพราะเพิ่งเริ่ม"
[b]ธุรกิจเน็ตแนวโน้มเหมือนมือถือ[/b]
ในมุมมองของวสุเกี่ยวกับบริการอินเทอร์เน็ตเชื่อว่า แนวโน้มจะเป็นเหมือนการให้บริการมือถือที่ผู้ใช้จะเปลี่ยนจากอนาล็อกเป็นดิจิตอล เพราะขณะนี้ราคาของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือบรอดแบนด์ได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง และค่าบริการไม่ต่างจากแบบ Dial up มากนัก
"เราจะพยายามทำให้ลูกค้ามูฟจากแนโรแบนด์เป็นดิจิตอลโดยเร็ว โดยการกระตุ้นตลาดด้วยวิธีต่างๆ เช่น การลดค่าบริการ รวมถึงการหาคอนเทนต์เข้ามาให้บริการให้มาก เชื่อว่าเรื่องเหล่านี้ปีหน้าจะเห็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงมากขึ้น" นายวสุกล่าวและว่า
ส่วนการให้บริการแบบ Dial up ก็ยังมีการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นพื้นฐานของการใช้อินเทอร์เน็ต ก่อนที่จะมีการหันไปใช้บรอดแบนด์ แต่ตลาดส่วนนี้อัตราการโตไม่ค่อยชัดเจน เพราะกลุ่มผู้ใช้มีการเข้าออกตลอดเวลา อย่างปัจจุบันเอเชียเน็ทมีลูกค้า Dial up ประมาณ 8 แสนราย จากต้นปีที่มีอยู่ประมาณ 7 แสนกว่าราย และภายในสิ้นปีนี้คาดว่าจะถึงล้าน ส่วนลูกค้าบรอดแบนด์ขณะนี้มีประมาณ 5 หมื่นราย สิ้นปีคาดว่าจะมีประมาณ 1.5 แสนราย
[b]จับมือเอ็นซีซอฟต์ตั้งบริษัทร่วมทุน[/b]
[color=blue]วันนี้ (7 ก.ค.) กลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (True Corp.) ได้ลงนามในสัญญากับบริษัท เอ็นซีซอฟต์ (NcSoft)จากเกาหลี เพื่อร่วมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในชื่อเอ็นซี ทรู เพื่อให้บริการเกมออนไลน์ในประเทศไทย[/color] ประเดิมด้วย Lineage II ซึ่งเป็นเกม 3 มิติแนวแฟนตาซีที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเกาหลี โดยแต่ละเดือนมีผู้เข้าเล่นสูงถึง 4.6 ล้านคน เพราะเกมดังกล่าวที่มีความบันเทิงเต็มรูปแบบ มีลักษณะเหมือนจริงออก สนองความต้องการคอเกม ปลูกฝังการสร้างทักษะทางความคิด รู้จักการทำงานเป็นทีม และส่งเสริมสังคมการเรียนรู้ออนไลน์เชื่อมโยงสัมพันธ์ครอบครัวได้เป็นอย่างดี
[b]สำหรับเอ็นซี ทรูมีทุนจดทะเบียน 160 ล้านบาท [color=blue]โดยทรูถือหุ้น 51%[/color] [color=purple]เอ็นซีซอฟต์ 49%[/color] พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการภายในสิ้นปีนี้[/b]
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การร่วมทุนดังกล่าวเป็นการเปิดมิติใหม่ของวงการเกมออนไลน์ในไทย ที่มีเจ้าของลิขสิทธิ์เกมเข้ามาร่วมลงทุน โดยเอ็นซี ทรูจะมุ่งเน้นการให้บริการเกมออนไลน์จากเอ็ซีซอฟต์ และมีแผนที่จะร่วมพัฒนาเกมในไทย เพื่อตลาดเกมทั้งในและนอกประเทศ
"การร่วมมือครั้งนี้ทั้งทรูและเอ็นซีซอฟต์จะร่วมกันสร้างตลาดเกมออนไลน์ให้ขยายตัวมากขึ้น โดยจะนำเกมดีๆ เข้ามาให้บริการ รวมทั้งในอนาคต จะร่วมกันพัฒนาเกมใหม่ๆ และพัฒนารูปแบบการเล่นออกมาให้บริการ การร่วมมือกับเอ็นซีซอฟต์นับเป็นโอกาสดีที่ผู้บริโภคชาวไทยจะได้บริโภคคอนเทนต์ด้านเกมออนไลน์ที่มีคุณภาพ"
ความร่วมมือครั้งนี้นายศุภชัยย้ำว่า ทั้งทรูและเอ็นซีซอฟต์ต่างมีจุดแข็ง เมื่อนำมารวมกันในการให้บริการผ่านเอ็นซี ทรู จะทำให้มีข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่ง ที่ปัจจุบันมีผู้เล่นเกมออนไลน์ในไทยประมาณ 1 ล้านราย และคาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 2 ล้านราย มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่าประมาณ 200-300 ล้านบาท และปีหน้าคาดว่าจะโตประมาณ 50% จากมูลค่าดังกล่าวเอ็นซี ทรูมีเป้าหมายว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดเกมออนไลน์เป็นอันดับหนึ่ง