อึ้ง! หมอ 5 บาท รักษาทุกโรค

พุทธภาษิตกล่าวไว้ว่า “อโรคยา ปรมาลาภา” ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ แต่ใครเล่า จะหนีพ้น และเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา คนส่วนใหญ่ถ้าไม่เลือกซื้อยาเอง ก็คงต้องพึ่งหมอ เอ…ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า ควักออกมามีอยู่ 5 บาท ทำอย่างไรดี ???

แต่หากเดินเรื่อยๆ เข้าซอยระนอง 1 จากด้านถนนพระราม 5 กับห้องแถวไม้แบบเก่าหน้าตา คล้ายคลึงกัน เรียงรายไปตามความยาวของถนน เดินมายังไม่ทันถึงครึ่งซอยดี จะสังเกตเห็นห้องแถวไม้ที่ขึ้นป้ายว่า “สำนักงานแพทย์” ของ รศ.นพ.สภา ลิมพาณิชย์การ อาจารย์ประจำโรงเรียนเวชนิทัศน์ โรงพยาบาลศิริราช ผู้ซึ่งได้ฉายาว่า “หมอ 5 บาท” ก็รักษาได้

คุณหมอสภาเริ่มตั้งคลินิกสำนักงานแพทย์จากคำชักชวนของเพื่อนเมื่อ 39 ปีก่อน (พ.ศ.2507) แต่เมื่อทำไป ได้สักพัก เพื่อนของคุณหมอก็ขอถอนตัว คุณหมอจึงทำคลินิกนี้ต่อเพียงผู้เดียว โดยเช่าห้องแถว แห่งนี้จากเพื่อนเป็นรายเดือน ตลอดเวลาเกือบ 40 ปีนี้ คลินิกของคุณหมอสภารับรักษาโรค ทั่วไปโดยจะ คิดค่ารักษา เพียงค่ายา 5 - 70 บาท ไม่คิดค่าตรวจ แต่หากไม่มีเงินจริงๆ แม้แต่ค่ายาคุณหมอก็ไม่คิด หรือหากมีไม่พอ มีเท่าไรก็เท่านั้น

เหตุที่คุณหมอสามารถจ่ายยาให้ได้ในราคานี้ เพราะยาร้อยละ 90 จะสั่งซื้อยาจากโรงงาน ที่ได้ลิขสิทธิ์มาผลิตยาในไทย เวลาสั่งซื้อทีก็จะสั่งเยอะมากๆ จะช่วยให้ประหยัดเงินได้มาก

“เวลาคิดเงินก็จะดูจากยาว่ายาถูกหรือยาแพง แต่ถ้าคนไข้ไม่มีจริงๆ ก็ไม่คิด แต่คนไข้ที่มาหาเดี๋ยวนี้เขาก็สงสารเรา ไม่อยากให้รักษาฟรี หรือบางทีเขามีไม่พอก็บอกว่าไม่ต้องก็ได้ แต่พอเขามีเขาก็มาจ่ายทีหลัง คนไข้เป็นคนซื่อตรงมาก ถ้ารักษากับผมไม่ต้องเอามาเกินใบละร้อย แต่บางทีก็มีแหย่คนไข้บ้าง อย่างบางคนเขามีมา 20 บาท ก็แกล้งหลอกเล่นๆ ว่าค่ารักษา 30 บาท เขาก็หน้าซีด แต่จริงๆ ก็คิดไม่ถึงหรอก” คุณหมอเล่าอย่างอารมณ์ดี

เพราะคุณหมอสภาคิดแต่ค่ายาในราคาแสนประหยัด ในเรื่องรายได้นั้นคุณหมอว่า ได้เท่าไหร่ไม่รู้ แต่ก็จะจดเอาไว้ด้วยเผื่อสรรพากรตรวจ ค่ารักษาได้มาก็จะเก็บใส่กล่องไว้เป็นทุนซื้อยา แต่เวลาซื้อจริงๆ ไม่พอต้องถอนเงินตัวเองที่มีจากเงินเกษียณแล้วก็เงินจากการเป็นอาจารย์พิเศษ ที่โรงเรียนเวชนิทัศน์ออกมาซื้อ

เรื่องคิดค่ารักษาถูกนี้ คุณหมอว่าไม่ใช่เป็นเพราะอุดมการณ์ใดๆ แต่มาจากการที่ขณะที่คุณหมอยังเด็ก คุณหมอไม่สบายอยู่บ่อยๆ ตอน 3 - 4 ขวบเป็นโรคคอตีบ โตขึ้นมาหน่อยเป็นไทฟอยด์ ต่อมาก็เป็นปอดบวม คุณแม่จึงพาคุณหมอไปรักษาที่โรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ เวลาไปโรงพยาบาลเห็นคุณแม่เสียเงินเยอะ ก็คิดว่าเราป่วย ซึ่งก็แย่อยู่แล้ว เรายังต้องเสียเงินเยอะอีก ดังนั้นอะไรที่คิดถูกได้ก็คิดถูก

คุณหมอสภา เล่าว่า ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 5 โมงเย็น คุณหมอสภาจะขับรถจากศิริราช มาถึงสำนักงานแพทย์เมื่อใดก็เปิดคลินิกเมื่อนั้น และในวันอาทิตย์ (ปิดวันเสาร์) คุณหมอก็จะมาเปิดคลินิกเวลา 6 โมง และจะปิดในช่วง 2 ทุ่ม

เปิดคลินิก มาก็จะ 40 ปี ตัวคุณหมอเองอายุก็ร่วม 70 ปีเข้าไปแล้ว แต่คุณหมอบอกว่า “จะทำจนกว่าจะทำงานไม่ไหว เคยบอกคนไข้ไว้ถ้าร้านปิดแบบไม่มีสาเหตุละก็ แสดงว่าผมทำไม่ไหวแล้ว”

Ref : http://hilight.kapook.com/view/11017

ประเสริฐยิ่งนัก

การทำความดีให้คนอื่นเห็นประจักษ์ได้นั้น ใช้เวลานานในการพิสูจน์เหลือเกิน แต่คนดีก็ยังเป็นคนดี ไม่ต้องป่าวประกาศหน้าหนังสือพิมพ์ ก็จะอยู่ในใจของคนอื่นนานเท่านาน

รัฐบาลดูแล้วควรเอาไปเป็นตัวอย่าง

ทุกวันนี้ ผมไปโรงพยาบาล ใช้บัตรสีเหลือง ที่เขาเรียกว่าบัตรทอง
รักษาฟรีครับ ยกเว้นยานอกโครงการ ทางโรงพยาบาลจะเก็บเพิ่ม

อยากให้หมอทุกคนเป็นแบบนี้จัง เป็นกำลังใจให้คุณหมอครับ

:slight_smile:

ได้เห็นอย่างนี้แล้ว รู้สึกว่าสังคมไทยน่าอยู่ เพราะยังมีคนดีอีกเยอะเลยครับ

เพิ่งไปรับบัตรทองรอบสองค่ะ

รอบแรก 30 บาท ส่งมา แม่เก็บของทุกคน เห็นอยู่แค่ 2-3 หน แล้วก็ไม่เคยเจอมันอีกเลย
ต้องไปขอออกใหม่

ก็เขาทำงบมาให้ใช้แล้ว ก็ช่วยไปใช้ๆ กันเถอะค่ะ พี่ชายเล่าว่า เพื่อนที่เป็นหมอเขาบอกว่างบสาธารณะสุขในกทม ฯ เยอะค่ะ ไปใช้เถอะ

พ่อเกือยตายเพราะ 30 บาท

[quote author=thaihostzeed link=topic=6488.msg60775#msg60775 date=1179580392]
พ่อเกือยตายเพราะ 30 บาท

[quote author=Kids link=topic=6488.msg60780#msg60780 date=1179582469]
สงสัยเป็นโรคเดียวกับผมแน่เลย

[quote author=thaihostzeed link=topic=6488.msg60781#msg60781 date=1179583046]
ความดัน

ขอให้ท่านและครอบครัวจงมีแต่ความสุข ความเจริญ ยิ่งขึ้นไปครับ ขอปรบมือ

[quote author=thaihostzeed link=topic=6488.msg60781#msg60781 date=1179583046]
ความดัน