น้องไอซ์ หรือ ใครที่อยู่ 3 จังหวัดชายแดนทางใต้ช่วยแสดงความเห็นหน่อยสิคะ

ไปอ่านเจอกระทู้เกี่ยวกับเรื่องการเดินทาง เปิดใจนายคิวรถตู้สายมรณะเบตง หาดใหญ่ แล้วยิ่งรู้สึกหดหู่

เอาเป็นว่า ได้คุยกับพี่ๆ ผู้หลักผู้ใหญ่ในแวงวงไอทีของประเทศหลายคน พวกเราคิดว่า น่าจะทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการช่วยเหลือคนที่อยู่ทางโน้น ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของไอที (อาจจะผ่านเว็บไซต์หรือ infrastructure อื่นๆ) หรือจะเป็นรูปแบบทางสังคมประเภทอื่น (แต่ก็ยังคงอยากให้เป็นรูปแบบไอทีอยู่ดี เพราะน่าจะถนัดกว่า) ทีนี้ จริงๆ ที่อยากรู้คือ อยากรู้ว่า คนที่อยู่ที่โน่น เขาอยากได้ความช่วยเหลือในรูปแบบอื่นใดอีกบ้างคะ (นอกเหนือแค่เอาตำรวจ ทหารไปคุ้มกัน) อยากได้ความเห็นในแนวทางไอที เพราะน่าจะผลักดันได้ง่ายกว่าในรูปแบบอื่นค่ะ

คนที่อยู่ตรงนี้
จริงๆ เค้าอยากได้แค่สิ่งที่เรียกว่า ความปลอดภัย ครับ

มีอย่างเดียวเลยจริงๆ ที่ขอ
เพราะฉะนั้น ผมว่างานนี้ ทหารโดนเต็มๆ ครับ

พื้นที่บ้านผมยังอยู่ zone เหลืองๆ อยู่เลยตอนนี้
สุไหงโก-ลก แดงๆ เหลืองๆ มาพักนึงแล้ว
สีตรงนี้หมายถึงสภาพสถานการณ์นะครับ (แดง = ร้ายแรง)
เพราะตัวเมืองสุไหงโก-ลกมันเมืองคนจีน ทำให้พุธเยอะมากๆ
เฉลี่ยแล้วครึ่ง หรืออาจจะเกิน
พวกนั้นก็เลยพยายามจะโจมตีกันให้ได้เหลือเกิน

แล้วก็ จะบอกว่า ทหารที่มีในพื้นที่ ไม่พอครับ
ทั้งเมือง ทหาร 50 คน มันจะไปพออะไร กับการเฝ้าระวังพื้นที่ขนาดหลายร้อยตารางกิโลเมตรล่ะครับ

จะขอให้รัฐช่วยเหลืออะไรบ้าง

พูดลำบาก ถ้าขอได้ก็ต้องขอทั้งหมด เพราะเหตุการณ์มันเกิดทั้ง 3 จังหวัด ถ้ารัฐจะช่วยเหลือสนับสนุนอะไร ก็ต้องให้ทุกแห่ง ส่วนในกลุ่มผู้ประกอบการรถตู้ด้วยกันนั้น ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาอย่างไร แต่เบื้องต้นก็คงดูแลของใครของมันไปก่อน

รู้มั้ยครับ ความช่วยเหลือ ตั้งแต่สมัยท่านอดีตนายกทักษิณ
ที่บอกว่าจะให้ จะให้
จนบัดนี้ หลายครอบครัว หลายคน ยังไม่ได้กันเลย
ประชาชนในพื้นที่เลิกหวังความช่วยเหลือหลังเกิดเหตุของรัฐไปเรียบร้อยแล้ว
ช้ามากๆ

ผมเป็นคนนึงที่ใช้บริการขนส่งเข้าๆ ออกๆ พื้นที่บ่อยมาก
เฉลี่ย 1 เดือนจะต้องมีอย่างน้อยสองสามครั้ง (ไป-กลับภูเก็ต)
ส่วนนึงก็พอจะวางใจได้หน่อย เพราะเป็นรถขนาดใหญ่ (ไปกับรถทัวร์ สุไหงโก-ลก ภูเก็ต)
แล้วก็อีกส่วนนึงเพราะเส้นทาง ไปทางหลวง ซึ่งมีทหารลาดตระเวนอยู่เรื่อยๆ
แต่วันนั้นครับวันนั้น
วันที่เกิดเหตุ คือวันที่ผมจะต้องเดินทางกลับเข้าสุไหงโก-ลก ออกจากภูเก็ต 20.00 น.
ซึ่งจะเข้าเขต 3 จังหวัดตอนเวลาประมาณ 04.00 น.

แม่โทรมาบอกว่า เลื่อนไปก่อนซักสองสามวันได้มั้ย สถานการณ์ไม่น่าไว้ใจ
(แต่ผมซื้อตั๋วไปแล้ว)

เห้อ…

ได้แต่หวังให้ทุกคนปลอดภัยครับ

ส่งทหารท่านนี้ไปฟันครับ
สองวินาที ฟันได้ 1 คน

เห็นมันฟันไม่เลิกมาหลายเดือนล่ะ… ข้าวก็ไม่ได้ น้ำก็ไม่กิน เงินก็ไม่จ่าย ไม่รู้เอาอะไรกิน?

การเมืองเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน

ก็เหมือนกับน้องไอช์นั้นแหละครับ
ต้องการเพียงความปลอดภัย
มหาลัยที่ผมทำงานอยู่ ถูกจัดใน zone สีแดง
ไม่อยากจะพูดอะไรอีก
ผมเองก็นั่งรถตู้ไปกลับปัตตานีหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ เพียงแค่สัปดาห์นี้ต้องไปตรัง ตั้งแต่วันพฤหัส พึงกลับถึงตานีเมื่อวานตอน 2ทุ่ม ระหว่างทาสงกลับก็เห็นทหารเดินลาดตะเวณอยู่ เป็นระยะๆ ดูๆแล้วก็น่าสงสาร เมื่อวานฝนก็ตกระหว่าง แต่ทหารก็ต้องเดินลาดตะเวณตากฝน

EDIT1. แก้คำผิด

สมมติว่า ระบบ gps ถูกนำมาติดตั้งบนรถทุกครั้ง เพื่อตรวจสอบการเดินทาง หรือระบบเตือนภัยอัตโนมัติ อะไรพวกนี้จะเป็นไปได้หรือไม่คะ

ไม่น่าจะมีผลอะไรซักเท่าไหร่ครับ
แถมประชาชนคงไม่ยินยอมกันด้วยแหละ
ยกเว้นเป็นรถขนส่ง อาจจะยอม(มั้ง)
แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น

อย่างมากก็แค่ช่วยให้รู้ตำแหน่ง หากไปหยุดในที่ที่ผิดปกติ
ต่อให้ติดต่อไปแล้วพบว่ามีเรื่อง แต่ถ้าไปไม่ทันก็เท่านั้น
(ไม่รู้มองโลกในแง่ร้ายเกินรึเปล่า)
อาจจะช่วยได้ในแง่เพิ่มความเร็วในการเข้าถึงพื้นที่
ทำให้คนร้ายยังไหวตัวไม่ทันก็ได้

พ่อแม่ที่มีลูกครั้งแรก และต้องปล่อยให้ลูกอยู่กับพี่เลี้ยงตามลำพัง หรือว่าต้องพาลูกไปข้างนอก แล้วกลัวลูกหาย ก็มักจะหาวิธีเตือนให้รู้ว่า เกิดเหตุการณ์ผิดปกติอย่างไรบ้าง อย่างเช่น จะมีอุปกรณ์ติดต่อกันระหว่างแม่ลูก ถ้าอยู่ห่างกันเกินกี่เมตรๆ ก็จะมีการร้องเตือนให้รู้ว่า ระยะห่างนั้น มันห่างเกินไปแล้ว จะต้องอยู่ใกล้กว่านั้น

ย้อยกลับมาเรื่อง gps ที่ติดตามตัว สมมติให้มีขนาดพอๆ กับ pager แล้วใครจะไปไหน ก็พกติดตัวไป (สำหรับคนที่สมัครใจระมัดระวังจริงก็พอ) แล้ว gps นั้นถูกติดตามดู update ได้ทุก 5 วินาที สามารถตรวจสอบได้ (แบบเดียวกับ gps แผนที่) มันจะสร้างความอุ่นใจได้ไหมคะ

น่าจะมีข้อมูลเชิงลึก (กว่านี้นะครับ) อาจจะช่วยให้มองภาพได้ชัดเจนขึ้น
ยังไงก็ขอให้ทุกท่านปลอดภัยครับ

ปุ๊ก

เฮ้อ… คำเดียว พูดอะไรไม่ออก

ขอพระเจ้าคุ้มครองทุกท่านที่นั่นค่ะ

ประชาชนที่นั่นผมว่า ต้องช่วยเหลือตัวเองก่อนอันดับแรก ต้องลุกขึ้นสู้ รวมพลัง ผมว่าน่าจะทำอะไรได้มาก
ผมช่วยได้ก็แค่ทำเว็บส่งกำลังใจให้ ให้คนภาคใต้รู้ว่าพวกเราก็ติดตามข่าว เอาใจช่วย เผื่อว่าบางคนอาจจะมีกำลังใจต่อสู้
สักวันปัญหาต้องเบาบางลง หรือหมดไป ผมเอาใจช่วยคนที่เกี่ยวข้องรวมถึงรัฐบาล และขอร้องคนที่วิจารณ์คนทำงาน ว่าเลิกเถอะครับ คนเขาเข้ามาทำงานแล้วก็ต้องเอาใจช่วย หรือแนะนำ อย่ามัวแต่ด่า

เรื่องร่วมใจกันสู้
ประชาชนตาดำๆ จะไปสู้กองโจรอะไรได้ครับ
ต่อให้มีคนเป็นหมื่นก็เหอะ

ขยายความนิดนึง
คือว่า ในขณะที่โจรมันพร้อมบุกได้ทุกเวลา
เราก็ต้องป้องกันตัวเองตลอด
แต่เราไม่ใช่ทหารโดยอาชีพ
มันจะบุกเวลาไหนเราก็ไม่รู้
นั่นล่ะครับจุดอ่อนที่สุด

ตอนนี้อยู่กันแบบผวาทุกวินาทีมีความหมาย ไม่ว่าจะช้าไป หรือเร็วไป ก็อาจจะเกิดเหตุกับตัวเราเองได้ ในแง่ของคนทำงานด้าน IT ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ เครื่องมืออำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีทันสมัยๆ นั้น ถ้าจะนำไปใช้ก็คงไม่สามารถป้องกันที่ต้นเหตุได้อย่างที่คุณไอซ์บอกไว้ รวมทั้งประชากรที่ได้รับความเดือดร้อนมีเป็นจำนวนมากถ้านำมาใช้จริงๆ สำหรับ GPS คงต้องมีหน่วยงานทีีลงไปรับผิดชอบ รวมทั้งให้ความรู้การใช้งาน ยิ่งพูดถึงระดับชาวบ้านตาดำๆ คงไม่ต้องให้พูดอะไรมากเขาเหล่านั้นคงไม่มีโอกาสได้รู้จักอุปกรณ์เทคโนโลยีทันสมัยๆ เลย เพราะตอนนี้ถือว่า ระดับความรุนแรงอยู่ในระดับที่รุนแรงมากถึงมากที่สด มีกองกำลังที่ถูกฝึกให้เข้าจู่โจมและทำลายแบบไม่สนใจเป้าหมายว่าจะเป็นใคร ต่อไปผมว่าถ้าเริ่มทำร้ายเจ้าหน้าที่ระดับสูง หรือคนสำคัญคงแย่ไปกว่านี้ สิ่งที่ทำได้ผมว่าการช่วยเหลือด้านขวัญกำลังใจสำคัญมาก รวมทั้งให้ความรู้ในการหลบหลีกสังเกตจดจำ สิ่งต่างๆรอบตัวเพื่อคอยระวังสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น … แต่สุดท้าย ผมก็อยากจะให้มีการลงไปช่วยเหลือด้านอุปกรณ์การเรียนสำหรับคนไทยด้วยกัน เพราะโรงเรียนที่ถูกเผามีเยอะมากครับ อันนี้สำคัญมากๆ เพราะเป็นเรื่องการศึกษาโดยตรง มีโรงเรียนที่ต้องปิดหรือหยุดการเรียนการสอนไปแล้วหลายต่อหลายโรงเรียนด้วยกัน อยากจะฝากไว้พิจารณาด้วยครับ ถ้ามีโครงการนี้เกิดขึ้น อาจจะดำเนินการโดยประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ เพราะในระดับนี้เราสามารถระดมทุนโดยผ่านทางโครงการกุศล หรือทำเป็นการรับบริจาคที่เป็นรูปธรรมได้ ท่านอื่นคิดว่าอย่างไรครับ

ที่คุณ jack เสนอมา ดิฉันว่าน่าสนใจมาก การศึกษาส่งผลต่อการคิดของมนุษย์ค่ะ

ดิฉันเคยคิดเล่นๆ ว่า น่าจะมีการจัดค่ายฤดูร้อน แบบ home stay คือ ครอบครัวไหนในจังหวัดอื่น มีความพร้อม ก็รับเด็กหรือเยาวชนจาก 3 จังหวัดนั้น มาพักที่บ้าน แล้วดูแลเหมือนเราดูแลลูกหลานน่ะค่ะ ใจดิฉันคิดว่า ถ้าทำได้ครอบครัว home stay เหล่านั้น จะส่งผลต่อวิธีคิดกับเด็กๆ ได้มากทีเดียว การแก้ปัญหา ก็คงต้องเริ่มที่การเปลี่ยนทัศนคติของเด็กตั้งแต่ยังอายุน้อยทีเดียว

ส่วนเรื่องที่คุณ jack แนะนำ ดิฉันจะเอาไปเล่าต่อในวงนะคะ

คนในพื้นที่ มีการใช้สื่อ internet กันมากน้อยแค่ไหนครับ ?
ขอเสนอคุณ promjit ให้จัดตั้งเว็บไซต์ เพื่อให้คนในพื้นที่มาลงความเห็นด้วยตัวเขาเองว่า เขาอยากได้อะไร หรือมีเบาะแสอะไรจะแจ้งให้ทหารทราบ เพราะเชื่อว่าการที่จะให้ชาวบ้านเดินไปบอกทหารด้วยตนเองว่า ได้เบาะแสที่โน่นที่นี่ คงจะไม่มีใครทำหรอกครับ เพราะมันไม่ปลอดภัย

หากใช้เว็บไซต์เป็นสื่อกลาง แล้วประชาสัมพันธุ์ให้คนในพื้นที่ทราบ
ผมว่ามันน่าจะเป็นช่องทางที่จะทำให้ชาวบ้านกล้าที่จะออกความเห็น หรือส่งข่าวได้มากกว่าที่เป็นอยู่

อีกประเด็นนึงคือการเปิดเว็บให้คนทั้งประเทศมาร่วมระดมพลังสมอง Brain strom
เพื่อหาแนวทางการแก้ไข ของใครดี ของใครเด็ด ก็รวบรวมเอาไปแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ลองเอาไปพิจารณาดู
ถ้าคนไทยร่วมมือร่วมใจกัน สักวันมันต้องสำเร็จครับ

ตอนแรกก็มีการคุยกันค่ะว่าจะทำเว็บ แต่ปัญหาคือ เราจะทำเว็บเกี่ยวกับอะไรดี จึงจะตรงกับความต้องการของคนในพื้นที่ เพราะเราบางคน ก็คงต้องยอมรับนะคะว่า ยังไม่เคยแม้จะไปเหยียบ 3 จังหวัดดังกล่าว (ตัวดิฉันเอง เคยไปก็แค่ สุไหงโกลก แถมข้ามมาจากฝั่งมาเลย์อีกต่างหาก) ยะลา นราธิวาส ก็ต้องยอมรับตามตรงเลยว่า ไม่รู้ว่า มันเป็นยังไง จินตนาการไม่ออกจริงๆ

เรื่องการทำเว็บดิฉันว่ามีความเป็นไปได้สูงค่ะ ดิฉันว่าแม้แต่พวกเราเอง ก็คงอยากช่วยเต็มที่ ตามความสามารถของแต่ละบุคคล ส่วนเรื่องทางภาครัฐ ดิฉันว่า ปล่อยให้เขาทำหน้าที่ของเขาไป แต่ในส่วนของพวกเราเอกชน ก็ทำไปตามที่เราทำได้ ต่างคนต่างทำหน้าที่ อย่างน้อยคนทางโน้นเค้าก็อาจจะรับรู้ได้ว่า ไม่ได้โดนคนในพื้นที่อื่นทอดทิ้ง

เอ่อ… การใช้เน็ตของที่นี่
ยังจำกัดแค่กลุ่มคนที่มีการศึกษาพอประมาณ
แล้วก็อยู่ในเมือง
แทบไม่ค่อยมีใครอยู่นอกเมืองแล้วเล่นเน็ตเลยครับ

รวมๆ แล้วไม่น่าถึง 5% ของประชากรทั้งพื้นที่ 3 จังหวัด
ปัตตานี กับ ยะลา คนเล่นเยอะหน่อย เพราะเมืองมันใหญ่
แต่นราธิวาสนี่ คนเล่นน้อยยิ่งกว่าน้อยครับ

ทำเวบ อย่างมากก็รับฟังความต้องการ แต่ก็ต้องมากรองอีกว่า จริงๆ ต้องการอะไรมากที่สุด

ดูรายการทีวีวันไหนจำไม่ได้ค่ะ เขาว่าชาวบ้านรวมตัวกันตั้งกองกำลังดูแลหมู่บ้านกันเอง เพราะมัวแต่ไปรอเจ้าหน้าที่นะไม่ได้หรอก คนแค่หยิบมือเดียว เขาจะพากันไปกรีดยาง ก็ไปพร้อมกัน มีกองกำลังหมู่บ้านพาไป ร่วมมือกันเต็มที่ เดี๋ยวนี้ถูกฆ่าตายลดลงเลย

แต่อะไรก็ตามครับ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมา หลายปีแล้วนะครับ แล้วมันส่งผลอะไรบ้าง … มากมายครับ อย่างไรก็ตามครับ [b]อยากบอกว่าขอบคุณครับ ที่ช่วยกันริเริ่ม มีคุณค่ามากๆ ครับ