ไมโครซอฟท์ประกาศแนวทาง วงจรชีวิตวินโดวส์

ไมโครซอฟท์ประกาศแนวทาง วงจรชีวิตวินโดวส์

โดย ผู้จัดการออนไลน์

  [b]ผู้บริหารไมโครซอฟท์เผย วางแผนปล่อยลองฮอร์นปี 2006 จากนั้นจะออกระบบปฏิบัติการเจเนอเรชันใหม่ทุกๆ 4 ปี ระหว่างนั้นจะออกชุดอัพเดททุกๆ 2 ปี[/b] พร้อมกันนี้ ยังมีการเปิดเผยถึงฟีเจอร์เด่นใน R2 ชุดอัพเดทตัวแรกของ Windows Server 2003 และลองฮอร์น ระบบปฏิบัติการสายพันธุ์ต่อไปของไมโครซอฟท์
   
   ท่ามกลางกระแสข่าวลือมากมายในเรื่องกำหนดการวางจำหน่ายและฟีเจอร์พิเศษๆของลองฮอร์น (Longhorn) ผู้บริหารของไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับพีซีเวิร์ล โดยพูดถึงรายละเอียดกำหนดการของการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการต่างๆและรายละเอียดบางส่วนของฟีเจอร์ในลองฮอร์น
   
   บ็อบ มูเกลีย (Bob Muglia) รองประธานกลุ่ม Windows Server Group กล่าวว่าไมโครซอฟท์ได้วางกำหนดการแผนใหม่ [b]โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะออกผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการตัวหลักให้ได้ทุกๆ 4 ปี โดยระหว่างที่เว้นว่างไปนั้นจะออกชุดอัพเดทออกมาคั่นกลางทุกๆ 2 ปี[/b]
   
   [b]ส่วนความคืบหน้าของชุดอัพเดทตัวแรกของ Windows Server 2003 ที่ถูกเรียกว่า R2 จะพร้อมออกสู่ตลาดในปี 2005 (2 ปี พอดิบพอดี)[/b]
   
   “R2 นั้นยังคงต้องพึ่งพาฟีเจอร์เด่นๆใน Windows Server 2003 อยู่และ R2 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากมายจนไม่เห็นเค้าของ Windows Server 2003 ตัวเก่า” มูเกลียกล่าวถึง R2 ซึ่งหมายความว่า R2 จะต้อง compatible (ความสามารถในการทำงานร่วมกัน)กับ Windows Server 2003 อย่างเต็มตัว
   
   แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้แปลว่า R2 จะไม่มีฟีเจอร์ใหม่ๆเลย แต่จะมีฟีเจอร์สุดเดิ้นที่มูเกลียเรียกว่า network protection หรือ network quarantine ซึ่งจะช่วยในเรื่องของซีเคียวริตี้ของระบบได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่นถ้าหากยูสเซอร์เข้าสู่เครือข่ายจากระบบทางไกล ผู้ดูแลระบบสามารถจะแน่ใจได้ว่า ระบบทางไกลระบบนั้นได้มีการอัพเดทระบบและชุดแพตช์สำหรับป้องกันไวรัสตัวล่าสุดแล้ว ซึ่งถ้าหากไม่ได้อัพเดท ผู้ดูแลระบบสามารถ ”เตะ” ไล่ยูสเซอร์ผู้นั้นออกจากระบบไปได้เลย
   
   [b]เจาะประเด็น R2 และลองฮอร์น[/b]
   
   ดไวท์ ดาวิส (Dwight Davis) รองประธานบริษัท Summit Strategies กล่าวว่าฟีเจอร์เน็ตเวิร์กการันตีที่ว่านื้ จะเป็นฟีเจอร์ที่โดดเด่น เพราะจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์จากค่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซัน (Sun Microsystems) โนเวล (Novell) หรือไอบีเอ็ม (IBM)
   
   R2 นั้นเหมาะอย่างยิ่งในการซัพพอร์ตระบบงานออฟฟิศที่แตกเป็นสาขาย่อย เพราะจะทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการระบบของสาขาย่อยๆทางไกลได้ในราคาต่ำลงแต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น ด้วยระบบ ไฟล์แชร์ริง ทรงพลังของ R2 และความสามารถในการจำลองระบบระหว่างระบบสาขาย่อยและระบบสาขาหลัก โดยที่ข้อมูลทั้งหมดที่ถูกจำลองจะถูกสำรองข้อมูลไว้ที่ระบบศูยน์กลาง
   
   ฝ่ายลองฮอร์นที่ถูกมองว่ากว่าจะสามารถเดินหน้าทำการตลาดได้เต็มตัวก็ปี 2007 นั้น ฟีเจอร์หลักที่โดดเด่นที่สุด เห็นจะเป็นการรวมเอาโปรแกรมมิ่งโมเดลแบบใหม่ “WinFX แพลตฟอร์ม”, ทูลที่ใช้ออกแบบกราฟิกสุดสวยในเครื่องไคลเอนต์ “Avalon”, ระบบจัดการไฟล์เจเนอเรชันต่อไปของไมโครซอฟท์ “WinFs แพลตฟอร์ม”, และยังมีระบบบริการส่งข้อความผ่านอินเทอร์เน็ต “Indigo” 
   
   [b]จุดเด่นของ WinFs คือจะทำให้แอปพลิเคชันสามารถเก็บข้อมูลและสืบค้นข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ[/b] 
   
   “ไม่ว่าข้อมูลที่ว่านั้นจะเป็นข้อมูลที่ถูกจัดโครงสร้างแล้วหรือไม่ก็ตาม ก็สามารถเก็บไว้เพื่อใช้งานร่วมกันได้” มูเกลียกล่าว
   
   ดาวิสแห่ง Summit Strategies กล่าวถึงระบบไฟล์ตัวใหม่ในลองฮอร์นจะเป็นฟีเจอร์หลักที่จะช่วยให้การรวบรวมข้อมูลและโฟลว์ในการสืบค้นข้อมูลสารสนเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา
   
   “มันเหมิอนกับคุณนำดาต้าซอร์สต่างชนิดกัน ให้มาทำงานบนฟอร์แมตมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้การทำงานของคอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะสามารถประมวลผลข้อมูลที่ใช้ทรัพยากรคนละชนิดกันได้ โดยการสร้างความสัมพันธ์ให้กับข้อมูลเหล่านั้น” ดาวิสกล่าว
   
   [b]ฟีเจอร์ใหม่อื่นๆ[/b]
   
   มูเกลียกล่าวถึงฟีเจอร์ใหม่ๆตัวอื่นอย่าง แพลตฟอร์มการจัดการตัวใหม่ ที่จะให้ยูสเซอร์สามารถเขียนสคริปต์คำสั่งได้ดีขึ้นกว่าเดิม [b]แน่นอนว่าจะซัพพอร์ต Ipv6 และเด่นด้วยคุณสมบัติ dynamic partitioning ที่จะทำให้ผู้ดูแลระบบหลายคน สามารถสแวป (swap) ไปมาระหว่างโปรเซสเซอร์หลายๆตัว[/b] โดยไม่ต้องเสียเวลา interrupt ในขณะรันแอปพลิเคชัน
   
   มูเกลียยังเกริ่นถึงลองฮอร์นเวอร์ชันเซิร์ฟเวอร์ ว่าจะมาในอีก 6 เดือนข้างหน้าหลังจากออกลองฮอร์นเวอร์ชันไคลเอนด์ไปแล้ว 
   
   แต่แม้ว่าลองฮอร์นจะเปี่ยมไปด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ หลายตัว แต่ดาวิสก็ยังมองเห็นความผิดพลาดในลองฮอร์นอยู่ดี
   
   “ไมโครซอฟท์จะต้องเร่งออกลองฮอร์นออกมาให้เร็วกว่านี้”
   
   ไมโครซอฟท์กำลังอยู่ในช่วงพยุงตัวในน้ำท่ามกลางแรงกดดันมากมาย ต้องพยายามทรงตัวในขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไป ดาวิสมองว่า การแถลงข่าวครั้งล่าสุดของไอบีเอ็มที่จะให้เครื่องไคลเอนด์สามารถดึงเอามิดเดิลแวร์ลงมาใช้ในเดสก์ท็อปได้ตามใจชอบ แถมยังรองรับระบบปฏิบัติการลินุกซ์ยอดนิยมนั้น จะสร้างความเดือนร้อนให้กับไมโครซอฟท์อย่างแน่นอน