ไม่สนซ้ำเติมอุทกภัย คลังลั่นขึ้นภาษีดีเซล เดินหน้ารถคันแรก (ไทยโพสต์)
ธีระชัย ลั่น ม.ค.2555 ขึ้นภาษีดีเซลแน่ ไม่สนซ้ำเติมวิกฤติน้ำท่วม อ้างรัฐต้องหารายได้เพิ่ม แต่ยังดันทุรังเดินหน้าคืนเงินรถยนต์คันแรก
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.การคลัง กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติงานและการจัดเก็บภาษีแก่คณะผู้บริหารของกรมสรรพสามิต ว่า ในเดือน ม.ค.2555 กระทรวงการคลังจะเริ่มปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลแน่นอน หลังจากมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลที่ขยายเวลาออกไปจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค.2554 แต่จะปรับขึ้นอย่างไร ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ส่วนจะเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่ถูกน้ำท่วมหรือไม่ ยืนยันว่ารัฐบาลมีความจำเป็นต้องหารายได้เข้ามา นอกจากนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างคิดสูตรการปรับโครงสร้างภาษีน้ำมันให้มีราคาแตกต่างกัน ระหว่างแก๊สโซฮอล์กับน้ำมันชนิดอื่น
นายธีระชัยกล่าวว่า ยังได้มอบให้กรมสรรพสามิต ศึกษาและเตรียมการปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตทั้งหมดใน 2-3 เดือนข้างหน้า เพราะประเทศที่มีการพัฒนาขึ้น ภาษีฐานการบริโภคจะมีสัดส่วนมากขึ้นมาแทนที่ภาษีฐานรายได้ โดยต้องมีการปรับอัตราจัดเก็บภาษีให้ภาระไปตกกับคนฐานะดีมากขึ้น
ส่วนจะต้องปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่หรือไม่ เป็นเรื่องที่กรมสรรพสามิตต้องไปคิดว่าการเก็บภาษีคาร์บอนจะต้องเก็บจากอะไรบ้าง ส่วนจะปรับปรุงมาตรการคืนเงินรถยนต์คันแรกเพื่อนำเงินภาษีมาช่วยรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมหรือไม่นั้น มองว่าปัจจุบันมาตรการดังกล่าวยังไม่ได้มีผลกระทบต่อภาษี และสำหรับผู้ที่รถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมก็ไม่ใช่ผู้ที่จะได้สิทธิ์รถยนต์คันแรก เพราะมีรถยนต์เป็นคันที่ 2 คันที่ 3 แล้ว
นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ได้ประเมินผลกระทบเบื้องต้นต่อภาษีสรรพสามิตจากอุทกภัยในสินค้าประเภทน้ำมัน รถยนต์ สุรา เบียร์ ยาสูบ เครื่องดื่ม และสินค้าอื่นๆ โดยคาดว่าภาษีสรรพสามิตจะหายไปประมาณ 1.23 หมื่นล้านบาทต่อเดือน ซึ่งผลกระทบส่วนใหญ่คงเป็นในรอบเดือน พ.ย. ส่วน ต.ค.ยังไม่ได้รับผลกระทบนัก และประเมินว่าผลกระทบน่าจะกินเวลาประมาณ 3 เดือน
ทั้งนี้ กรมเตรียมเสนอกระทรวงการคลังให้อนุมัติขยายเวลายื่นแบบเสียภาษี เพื่อช่วยผู้ประกอบการที่ถูกน้ำท่วม ทั้งในเขตนิคมอุตสาหกรรมและนอกเขตที่ประสบภัย