คิดอย่างไรกับคำว่าลูกค้าคือ พระเจ้า
สำหรับผม ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า แต่เค้าเป็นผู้มีพระคุณที่ทำให้เราอยู่ได้ทุกวันนี้ เพราะธุรกิจแบบเรา แน่นอนอยู่ได้เพราะลูกค้า
ผมทำได้เท่าที่ผมระบุไว้ และเท่าที่เราเต็มใจที่จะทำได้ ถ้าเรียกร้องมากเกินไปเราก็จะบอกเค้า และผมไม่ได้ยอมทุกอย่าง
ถ้าเขาไม่ทราบ ไม่เข้าใจ หรือเค้าผิด เราก็อธิบาย แต่ถ้าเราผิดเราก็ขอโทษ
ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า
ผมยึดหลักการ จริงใจ ตรงไปตรงมา เอาใจเขามาใส่ใจเรา
การ support ลูกค้า ต้องมี service mind ที่ดี
ที่ผ่านมายังไม่เคยมีปัญหากับลูกค้า
กด like ได้ไหม
ผมไม่เชื่อในพระเจ้าครับ 
ผมเชื่อแค่ว่า ใครทำดีมา เราก็ดีตอบ แค่นั้นแหละ
แต่ละองค์แรงๆทั้งนั้น 
เพราะลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า
เข้ามาดูครับ
สำหรับ บางอาชีพ
ลูกค้าผิดเสมอ
จริงๆแล้วประโยคนี้โกหกครับ
ลูกค้าคือผู้มีอุปการคุณ ครับ ^^
ถ้ามองในแง่ผู้ให้บริการ คิดได้แบบนี้ก็จะดีครับ
เข้ามาดู 
[color="#0000FF"]คำนี้ได้ยินครั้งแรกตอนเข้าเรียนวิชาบริการธรุกิจปี 1 ตอนนั้นได้ยินแล้วรู้สึกเฉยๆ มองไม่เห็นความสำคัญว่าคืออะไร
ต่อมาเมื่อเข้ามาทำงานบริษัท
– ตอนแรก เป็นพนักงานตัวเล็กๆ ก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี ว่า คำว่าลูกค้าคือพระเจ้า มันสำคัญแค่ไหน เพราะเวลาเราทำอะไรผิด เจ้านายและผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่า จะทำหน้าที่คอยแก้ไขสถานะการณ์ให้ ทำให้ผลกระทบจากลูกค้าสะท้อนกลับมาหาตัวเองเราเองน้อยมาก จึงไม่ค่อยเห็นความสำคัญเท่าไหร่
– ต่อมาเมื่อได้รับตำแหน่งสูงขึ้น ถึงระดับผู้บริหาร - ผลสะท้อนจากลูกค้าจะกระทบมาที่เราตรงๆ ไม่มีใครมาคอยแก้ไขสถานะการณ์ให้ เราต้องแก้เองหมด พร้อมทั้งต้องเคยออกหน้าแทนลูกน้องเวลาลูกน้องทำผิดด้วย ดังนั้น คำว่า ลูกค้าคือพระเจ้า เริ่มมีความคำสัญ สูงมากขึ้นเรื่อยๆ ตามตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูงขึ้น (เพราะลูกค้า VIP สามารถปลดเราออกจากตำแหน่งหน้าที่การงานได้เลยทันที)
– พอมาทำธุรกิจเอง คำว่าลูกค้าคือพระเจ้า กลายเป็นคาถาประจำใจเลย การที่ธุรกิจจะเจริญเติบโต หรือสูญสลายไปขึ้นอยู่กับลูกค้าเท่านั้นจริงๆ
เมื่อรู้สึกอ่อนแอ ท้อแท้ กำลังจะหมดความอดทน อดกลั้น ดิฉันก็จะท่องคาถานี้และนึกถึงผลกระทบที่จะตามมาเสมอ ทำให้จะเริ่มใจเย็นลง และมีความอดทน อดกลั้นมากขึ้น ความรู้สึกโกรธ โมโห ต่างๆ นาๆ จะค่อยๆ ลดลง .ลดลง เรื่อยๆ จนสู่ระดับปกติ… ยกเว้นวันไหน ที่ลืมท่องคาถา อาจเผลอ…กลับไป 
*** ดังนั้นคำว่า ลูกค้าคือพระเจ้า จึงเป็นของจริงแท้แน่นอน ***[/color]
ลูกค้าดี คือเพื่อนซี้
ลูกค้ากวนตีน คือ…
บริการให้ดีที่สุดแต่ไม่มีคำว่าลูกค้าคือ พระเจ้า แน่นอน
ลูกค้าคือ หุ้นส่วนระยะยาว
ลูกค้าคือพระเจ้า … แต่ไม่ใช่ลูกค้าทุกคนที่เป็นพระเจ้า
มั่นใจอย่างอย่างนึงคือ ใครที่เคยทำงานอยู่เป็นลูกจ๊อกบริษัท หรือ องค์กรรัฐ เจอผู้ใหญ่ที่ไม่ให้เกียรติกัน และ เจอผู้ร่วมงานเลวๆ
แล้วจะรู้ว่าเมื่อออกมาทำธุรกิจส่วนตัวขึ้นมาเราจะรุ้สึกหลุดไปจากสนามแม่เหล็ก
ให้เรียงตามเกรดนจากดีไปแย่…
ลูกค้าว่านอนสอนง่าย
ลูกค้าธรรมดา
ลูกค้าเจ้าหนูจัมมัย
ลูกค้าเรื่องมาก ระดับปั่นหัวได้(สอนแบบโน้มน้าวให้เข้าใจ)
ลูกค้าเรื่องมาก ระดับเกินเยียวยานายไม่ดี
ผู้ร่วมงานเลวๆ
เครียดกับลูกค้าเลวๆ สู้ไม่เท่าเครียดกับผู้ร่วมงานที่คอยหาเรื่อง เงินก็ไม่ได้ ข้าวไม่มีให้กิน
หรือยู่กับนายไม่ดี รอเงินเดือนเหือดแห้ง ไม่พอใจนายเจอหักเงินเดือนอีก
ทำธุรกิจได้ใช้ฝีมือเต็มที่ผิดว่าไปตามผิด ปัญหามีให้แก้ด้วยมือตัวเอง ไม่มีข้อจำกัดว่าทำดีเท่าไหร่แล้วมีใครมาห้าม
ไม่ต้องมาชั่งคำว่า “ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน” กับ “ความถูกต้อง” อีกต่อไป
สัาหรับผมไม่ใช่ครับ บางที โดนเรียกร้องเกินกว่าจะทําได้ ผมก็ขอคืนเงิน
ผมมองว่าลูกค้า คือ พันธมิตรทางการค้า น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า
พอได้เมื่อกี้ได้ไปอ่านมาจาก Facebook ของ Biz Connection 96.5 ครับ
คาถาที่เหล่านักการตลาดพร่ำบ่นมาโดยตลอดคือ “ลูกค้าคือพระเจ้า” วันนี้ยังคงศักดิ์สิทธิ์อยู่อีกหรือ
ลูกค้าแต่ละคนมีคุณค่าไม่เท่ากัน
คุณค่าตลอดช่วงชีวิตของลูกค้าแต่ละคนก็ย่อมไม่เท่ากัน
ซึ่งก็หมายความว่านักการตลาดจำเป็นต้องจัดชั้นลูกค้าเสียใหม่
ไม่ใช่ลูกค้าทุกคนหรอกที่เป็นพระเจ้า