แนวทางการดำเนินการเมื่อผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งเสียชีวิต

สวัสดีครับ

ก่อนอื่นต้องขออภัยล่วงหน้าเลยครับ หัวข้อกระทู้อาจจะดูรุนแรง แต่ขออนุญาตสอบถามกันตรงๆ อย่างเนี้ยแหละครับ

หลายๆ ท่านทำโฮสคนเดียว มีแค่ทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (ซึ่งไม่ได้เป็นหลักประกันความมั่นคงอะไรมากนัก)

หลายๆ ท่านทำโฮสจดทะเบียนในนามบริษัท (หรือห้างหุ้นส่วน) ก็จริง แต่จริงๆ ก็ทำคนเดียว

หรือ หลายๆ ท่านอาจจะทำจนใหญ่โตมีพนักงานในบริษัทหลายๆ คน (อันนี้ไม่ค่อยน่าเป็นห่วง)

ถ้าอยู่ดีๆ ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้ง (เจ้าของ) เกิดอุบัติเหตุรุนแรงไม่สามารถมาทำงานได้เป็นระยะเวลานานๆ

หรือในกรณีรุนแรงคือเสียชีวิต (เชื่อว่าคงไม่ใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้)

พี่ๆ เคยวางแผนหรือตระเตรียมอะไรแบบนี้กันไหมครับ

ธุรกิจจะดำเนินไปต่อยังไง จะให้ใครเข้ามาดูแลลูกค้าต่อ จะให้ใครสืบทอดดูแลธุรกิจหรือกิจการ

หรือจะถ่ายโอนลูกค้าไปไหน แล้วเค้าจะดูแลลูกค้าเราได้ดีไหม รวมถึงใครจะเป็นประสานงานหรือดำเนินการ

ไปจนถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ต่างๆ เช่น

พี่ๆ ได้บอกข้อมูลความลับต่างๆ พาสเวิร์ดเข้าระบบต่างๆ กับครอบครัวหรือคนใกล้ชิดที่ไว้ใจได้กันบ้างหรือเปล่า

ถ้าไม่ได้เตรียมอะไรเลย เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นเชื่อว่าคงแย่กันทุกๆ ฝ่าย

ลูกค้าก็คงต้องประสบปัญหาบ้าง ครอบครัวเราเองก็คงไม่ยิ่งหย่อน เหมือนเราทิ้งภาระก้อนโตไว้กับทุกๆ ฝ่าย

ที่ถามนี่ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมเองก็มีแผนการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริการเว็บโฮสติ้ง

เลยลองคิดครับ ถ้าผมเกิดอุบัติเหตุไม่สามารถทำงานได้นานๆ หรือรุนแรงหน่อยก็คือชีวิตไปเลย

ลูกค้าจะทำยังไง สงสารลูกค้าครับ เค้าไม่ได้ผิดอะไรเลย

เบื้องต้นที่ผมคิดนะครับ (เพิ่งคิดเมื่อกี้ครับ เลยมาลองตั้งกระทู้สอบถามความเห็นพี่ๆ ดู)

  • ผมไม่ได้ประกอบธุรกิจคนเดียว (ร่วมกับเพื่อน 3 คน) ทั้ง 3 คน

จะต้องรู้และสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้้เหมือนๆ กัน (อาจแตกต่างกันบ้างเล็กหน่อยตามหน้าที่ความรับผิดชอบหลัก)

ทั้งหมดจะต้องร่วมกันรับผิดชอบดำเนินการเรื่องต่างๆ ให้เรียบร้อย (จะประกอบธุรกิจต่อหรือไม่ค่อยว่ากัน แต่จะต้องไม่ทิ้งลูกค้า)

  • การเงิน ธุรกิจจะต้องมีเงินพอที่จะสามารถดูแลลูกค้าได้จนครบอายุสัญญา

  • ข้อมูลที่เป็นความลับส่วนตัวของผม เช่นพาสเวิร์ดอีเมลทุกอีเมล หรือแอคเคาท์ต่างๆ ทุกแอคเคาท์

ผมคิดว่าจะเก็บไว้ในตู้เซฟ (manual มากๆ ฮ่าๆ) โดยรหัสตู้เซฟ มีเฉพาะครอบครัวเท่านั้นที่รู้

ตอนนี้ยังคิดออกแค่นี้ครับ

ของผมยังร่วมกันทำกับเพื่อน แต่ถ้าใครทำคนเดียว โดยเฉพาะช่วงเริ่มต้นธุรกิจ (อาศัยกระแสเงินสดแบบเดือนชนเดือน)

ถ้าไม่ได้วางแผนหรือเตรียมความพร้อม แล้วเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แย่แน่ๆ ครับ

รบกวนช่วยกันแชร์หน่อยนะครับ ว่าพี่ๆ แต่ละท่านได้วางแผนอะไรทำนองนี้กันบ้างรึป่าว

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ

/ นุเอง : )

edit: แก้ไขพิมพ์ผิดครับ

ลักษณะคล้ายๆกัน แต่ผมเขียนเป็นเอกสารไว้ เกี่ยวกับรายละเอียดเฉพาะที่จำเป็น คนที่จะดูแลต่อ และ Credential ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น. ส่วนอีเมล์ต่างๆ ที่เป็นของส่วนตัว ให้มันหายไปพร้อมกับการตาย.

และในกรณีที่ไม่ได้ทำอะไรไว้เลยล้ะครับ อย่างเช่นผมกำลังพิมข้อความนี่อยู่เงี่ย พิมพ์เสร็จ ถูกกระทืบตาย จะทำอย่างไร

กำลังเตรียมการณ์อยู่เหมือนกันครับ ให้บริษัทสามารถเดินเองได้หากไม่มีผม

ช่วงนี้เลยพักขยาย กลับไปสร้างรากฐานใหม่อยู่ สุดๆ เลยล่ะครับ

เจ้าของโฮส (จขฮ.) ตาย ก็แย่มากๆ แล้ว แต่ถ้า

เจ้าของตู้ (จขต.) ตาย นี่ เรื่องใหญ่ กระทบไม่รู้กี่โฮส กี่บริษัท

แทบไม่อยากจะคิดเลย ฮาๆ

ฟ้องร้องกันเป็นทอดๆ

เช่าโฮสก็แค่หาที่ใหม่แล้ว ย้ายไฟล์ ย้ายโดเมน ไป

ตอนเช่าก็แค่ให้มี login สำหรับจัดการทั้งโฮส และ โดเมน ก็ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว

สำหรับโดเมนก็เลือกหน่อยไม่ควรเป็น onlinenic เพราะระดับ user ทำอะไรแทบไม่ได้เลย

วาง colo น่าห่วงกว่าเยอะครับ เอาเครื่องทั้งเครื่องไปฝากไว้ บางเครื่องราคาเป็นแสน

เรื่องนี้ก็คิดมาหลายครั้งแล้วเหมือนกัน กำลังวางแผนอยู่ แต่ก็ยังไม่ได้ทำอะไร คงให้ครอบครัวเก็บข้อมูลสำคัญๆ ไว้

พิมพ์เสร็จ ถูกกระทืบตาย - -"

ของผมมีหุ้นส่วนใหญ่ 2 คน ถ้าไม่ตายพร้อมกัน 2 คนก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร

จะว่าไป ถ้าดันตาย 2 คนพร้อม ๆ ก็กำลังมีแผนสำรองไว้อยู่อีกครับ

ของผม กับภรรยาเนี่ย รู้ password รู้ข้อมูลลูกค้าเท่ากัน

password ของอีเมล notebook ของผม เขารู้หมด ดังนั้นถ้าไม่โชคดี ไปพร้อมกันก็กันไปได้ส่วนหนึ่ง

ต่อจากนั้นก็จะมีลูกที่รู้บ้าง บางส่วนแต่ก็เป็นส่วนใหญ่ ก็น่าจะเบาใจไปอีกเปลาะ

จะรีบตายไปไหนอ่ะ

รีบไปเปล่า

วางแผนไว้ค่ะ ส่งต่อเพื่อนที่เราไว้ใจค่ะ

เรื่องว่าเราเสียชีวิต… ก็คิด คิดไว้ล่วงหน้าแล้ว…

สำหรับผม ปีหน้า…ลูกสาวคนโตก็ขึ้น ม.1 แล้ว และก็เก่งคอมฯ เพราะผมสอน

ผมก็ตอบง่ายๆแค่ว่า กิจการและเทคนิคต่างๆ ผมสอนถ่ายโอนให้ลูกทั้งสามคน ปีหน้า คนโตก็เริ่มช่วยทำงานแล้ว

วางแผนอีก 5 ปีจะพักผ่อนแล้วครับ… แต่ยังไม่ได้วางแผนตายนะครับ

คงต้องขอทำ cloning ตัวเองไว้ก่อนครับ

แวะเข้ามาอ่านหลายรอบ แล้วก็เครียดทุกรอบ ยังไม่อยากตายตอนนี้ แต่ก็อย่างว่านะ การเตรียมการไว้ล่วงหน้า ย่อมดีกว่าไม่เตรียมการอะไรเลย ตอนนี้ ผมเบาใจแล้ว เพราะลูกน้องทำแทนได้ทุกอย่าง ถ้าต้องตายกระทันหัน ธุระกิจก็ยังเดินต่อไปได้ อาจจะขลุกขลักบ้างในช่วงแรก …

เป็นกระทู้ที่ดีมากนะครับ ถึงแม้จะเป็นเรื่องไกลตัว แต่ เป็นไปตาม ปัจฉิมโอวาท ของพระพุทธองค์ ที่ทรงตรัสไว้ว่า

“ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ เราขอเตือนท่านทั้งหลาย สังขารทั้งหลายมีความเสื่อม ความสิ้นไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลาย จงบำเพ็ญไตรสิกขา คือศีล สมาธิ ปัญญา ให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด”

ขอบคุณสำหรับทุกๆ ความเห็นครับ

ทำเอกสาร confidential ไว้สิครับ

ของผมเก็บเอาไว้ทุกอย่าง รวมทั้งรหัสต่างๆ ใส่เซฟอย่างดี ฮ่าๆ

ก็คงต้องสืบทอดตัวแทนไว้บ้าง เพื่อให้ได้ทั้งวิธีการและอุดมการณ์

กิจการเป็นสมบัติมรดกของครอบครัว จะเอาไปให้คนนอกสืบต่อก็กระไรอยู่

ก็ต้องให้ลูกเป็นผู้สืบทอดสิ ถ้ากลัวลูกคนแรกมีความเป็นตัวเองไม่ชอบพึ่งพาใคร

ก็มีลูกซัก 3-4 ต้องมีซักคนที่รักดีบ้างแหละน่า แต่ต้องระวังอย่าให้เกิดการแย่งชิงมรดก

ดีกว่าให้คนอื่นที่เป็นคนนอก ถ้ากิจการนั้นสร้างฐานะให้ครอบครัว แล้วให้คนอื่นไปใครจะสร้างฐานะให้ต่อ?

ลูกเมียจะอยู่ยังไง ถ้ากิจการยกไปให้คนอื่นแบบนั้น

สำหรับคนโสดแล้วเอาไปให้ใครก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจภายหลัง เพราะไม่มีใครสืบสกุลดูแลต่ออยู่แล้ว

แต่สำหรับคนที่แต่งงานมีลูกเมียแล้ว เรื่องพรรคนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนยิ่งนัก

ตอนนี้กำลังจัดทำแผนครับ เพื่อตัวเองอาจต้องมีอันเป็นไปตั้งแต่อายุยังน้อย