การนอนในรถ..ทำไมถึงตายได้ ? และข้อแนะนำ

[size=“4”]ข่าวการเสียชีวิตของพ่อนางเอก ขวัญ อุษามณี ทำให้หลายๆคนสงสัยว่า การนอนในรถ…ทำไมถึงเสียชีวิตได้ ?

จาก ข่าวการเสียชีวิตของ บิดานางเอกสาวช่อง7 สี “ขวัญ อุษามณี” ที่มีคนพบร่างไร้วิญญาณของพ่อของเธอ ติดเครื่องยนต์นอนในรถจากไปอย่างคาดไม่ถึง นี่เป็นเรื่องที่น่าเศร้าโศกเสียใจอย่างมาก และนี่ก็เป็นอุทาหรณ์อีกว่า “การนอนในรถ” เป็นเรื่องที่หลายคนมักรู้เท่าไม่ถึงอันตรายและอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้

การ จอดรถนอนนั้นเป็นเรื่องที่เราแนะนำให้คนจำนวนมากทำ โดยเฉพาะในหมู่นักเดินทางที่เหนื่อยล้าจากการขับรถทางไกลเป็นเวลานานๆ อาการดังกล่าวนั้น อาจส่งผลให้เกิดการหลับในและก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือการจอดรถหลับพักผ่อนสักหน่อยก่อนจะเดินทางต่อไปยัง จุดหมายปลายทาง

ดูผิวเผินการจอดรถนอน คงไม่ใช่เรื่องที่น่าจะมีอะไรซับซ้อน จนอาจเป็นอันตรายถึงขนาดทำให้เราสามารถเสียชีวิตคารถสุดที่รัก อย่างกรณีของคุณพ่อของนางเอกวิก 7 สี แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า หากเรานอนในรถโดยไม่เข้าใจอย่างถูกต้องแท้จริง นี่อาจเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายในชีวิตก็เป็นได้

อันตรายจากการจอด รถนอนหลับนั้นความจริงแล้ว ภัยใกล้ตัวที่สร้างความวิตกให้เรานั้นไม่ได้อยู่ที่พื้นที่ ลักษณะท่านอน หรืออากาศภายในห้องโดยสารที่เราผนึกกระจกทั้ง 4บาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยจากโจรที่อาจมาตอนไหนก็ไม่ทราบ

[color="#8B0000"]ความ จริงแล้วอันตรายที่เกิดจากการนอนในรถนั้น เป็นปัจจัยที่เกิดจากภายใน และโดยมากเราจะพบว่าคนที่เสียชีวิตจากการนอนในรถส่วนใหญ่นั้น จะมีสาเหตุมาจากการสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วเปิดระบบปรับอากาศทิ้งไว้แล้วนอน หลับจนไม่ฟื้น

[/color]

สิ่งที่ผิดที่สุดของแนวคิดการนอนในรถนั้นไม่ใช่ระบบปรับอากาศแต่มันคือ การสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งเอาไว้ เพื่อให้ระบบปรับอากาศนั้นสร้างความเย็นสบายตลอดเวลา เช่นเดียวกับการเดินทางในยามขับขี่ ความคิดที่รักสบายนี่เอง ที่ทำให้หลายคนกลายเป็นร่างไร้วิญญาณอย่างไม่รู้ตัว เพราะ แม้เครื่องยนต์และระบบอากาศดูจะไม่เกี่ยวข้องกันเลย ทว่าความจริงมันเชื่อมโยงกันอยู่อย่างไม่น่าเชื่อ

โดยปกติแล้วระบบ ปรับอากาศภายในรถยนต์นั้น จะทำงานคล้ายๆกับระบบแอร์ทั่วๆไป คือ แลกเปลี่ยนอุณภูมิผ่านน้ำยาที่เป็นตัวนำ และนำไประบายความร้อนออกเพื่อกลับมาวนปรับอุณภูมิต่อไปแบบนี้เรื่อยๆ อันที่จริงการปรับอุณหภูมิโดยน้ำยาแอร์ที่ไหลเวียนในระบบไม่ได้เป็นอันตราย กับมนุษย์เลย หากแต่สิ่งที่ทำให้คนนอนในรถเสียชีวิตได้นั้น กลับมาจากการสูดดมไอเสียเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว

แม้เราจะทราบกัน ดีอยู่แล้วว่าระบบปรับอากาศจำเป็นต้องทำงานในพื้นที่ปิด ซึ่งในรถยนต์นั้นมันก็หมายถึงห้องโดยสาร ทว่าถึงห้องโดยสารจะเป็นพื้นที่ปิดตามที่เราทราบ แต่พัดลมแอร์นั้นก็ยังต้องดูดอากาศบางส่วนจากภายนอกมาสู่ห้องโดยสาร

นี่เองที่เป็นสาเหตุหลักที่อาจทำให้คุณตายได้โดยไม่รู้ตัว เพราะ เมื่อคุณติดเครื่องยนต์รถทิ้งไว้ไอเสียบางส่วนก็จะถูกพัดลมแอร์ดูดเข้ามาในห้อง โดยสาร ซึ่งถ้าหากมันมาเป็นจำนวนมากคุณจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงและตื่นขึ้นเหมือน สัญญาณเตือนของร่างกาย ซึ่งในรถยนต์บางรุ่นจะติดตั้งตัวดักไอเสียสู่ห้องโดยสาร เพื่อป้องกันคนนอนในรถเป้นเวลานานๆ แต่เมื่อเจ้าก๊าซพิษค่อยๆย่างกรายเข้ามาทีละนิด ในขณะที่กำลังฝันหวานก็ไม่ทางรู้สึกเลยว่าชะตากำลังจะถึงคาดในขณะพักผ่อน

คุณ เคยรู้สึกปวดหัวเวลาขับรถไปเจอการจิดขัดติดเป็นชั่วโมงไหม หลายคนคงนึกว่าเรากำลังผจญภาวะความเครียด ซึ่งนั้นก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่ความจริงแล้วในอีกด้านเรากำลังสูดดมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปโดยไม่รู้ ตัว และจากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลวัตถุอันตรายและเคมีภัณฑ์ ได้กล่าวถึง อันตรายของการสูดดมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ว่า อาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง ปวดศีรษะ เซื่อมซึม เคลิบเคลิ้ม สั่นกระตุก หายใจติดขัด หมดสติไม่รู้สึกตัว หัวใจเต้นปิดปกติ เนื่องจาก มีฮีโมโกลบินน้อยกว่าปกติ มีผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลางจนอาจถึงขั้นเสียชีวิต

มันจึงไม่ใช่ เรื่องแปลกหากพบว่าการที่เราค่อยๆดมไอเสียทีละน้อยเป็นเวลากว่า 5-6 ชั่วโมง อาจส่งเราสู่สวรรค์ได้ โดยไม่รู้ตัว ซึ่งความจริงหากคุณมีความจำเป็นในการนอนในรถระหว่างเดินทางเราก็ มีวิธีที่ถูกต้องมาแนะนำกัน

1.หาที่เหมาะสม เมื่อเริ่มรู้สึกง่วงพยายามหาที่เหมาะสมในการจอดรถ เราแนะนำให้จอดในสถานีบริการ ถ้าเป็นไปได้ หรือถ้าไม่มีก็พยายามหาจุดที่เป็นชุมชน ป้อมตำรวจทางหลวง หรือ ไม่ก็มีแสงไฟสลัวๆดีกว่า เพื่อป้องกันโจรไปด้วยในตัว

2.ดับเครื่องยนต์ เมื่อจอดแล้วดับเครื่องยนต์ทันทีแม้อาจจะเริ่มรู้สึกอึดอัดบ้าง หากคิดว่าไม่สบายตัวก็แง้มกระจกลงสักนิด 2-3 เพื่อระบายอากาศและรับลมจากภายนอก

3.ปรับเบาะเอนเบาะนอนให้เหมาะสม การนอนในรถไม่ใช่การที่คุณเอนนอนทั้งหมด เพราะ แต่ละคนมีท่านอนที่ชอบไม่เหมือนกัน ให้คุณปรับเอนนอนให้พอดีเพียงพอ เพราะการเอนนอนมากไปจะทำให้คุณเมื่อล้าได้ภายหลัง

4.ใช้พัดลมแอร์ช่วยให้หลับ เมื่อพร้อมจะหลับก็ให้บิดกุญแจไปที่จังหวะออนเพื่อให้ระบบไฟฟ้าทำงาน แล้วจึงบิดเปิดสวิทช์แอร์ เมื่อเปิดแล้วให้หาปุ่มที่เขียนว่า A/C หรืออาจะเป็นรูปรถที่มีลูกศรชี้เข้ามาในตัวรถจากภายนอกใ ห้เลือกกดปุ่มดังกล่าว ซึ่งพัดลมแอร์จะดูดอากาศมาหมุนเวียนในห้องโดยสารแม้จะไม่เย็นเหมือนแอร์แต่ ก็พอให้คุณเคลิ้มหลับได้สบาย

นี่เป็นวิธีการนอนในรถที่ถูกต้องและเรา ไม่แนะนำให้ใช้รถเป็นโรงแรมคลื่อนที่ เนื่องจากแม้จะนอนได้แบบพอทน แต่มันก็ไม่ดีต่อสุขภาพกระดูกสันหลัง เช่นเดียวกับความไม่ปลอดภัยในชีวิต หากจำเป็นควรนอนพอให้หายอ่อนเพลียประมาณ 30-40 นาที เมื่อพร้อมแล้วจึงเดินทางต่อให้ถึงจุดหมายปลายทางครับ

ข้อมูล

http://new.goosiam.com/variety/html/0021976.html

http://4club-hk.com/index.php


**** จริงๆ แล้วการเปิดพัดลม นอนอาจทำให้แบตหมดได้นะครับ เปิดกระจกแง้มๆ ดีกว่า***

**** ที่สำคัญ อย่าลืมล๊อค ประตูโดยเด็ดขาด

**** อย่าเสียบ กุญแจ คาไว้ที่พวงมาลัย นะครับ

อาจโดนลากลงจากรถ/หรือโดนโปะยา แล้วถูกขโมยรถได้ครับ

[/size]

ขอบคุณน้องมีนครับ ที่ทำเป็นประจำเลยครับ

  • ขับไป หลับไป แต่เดี๋ยวนี้หยุดแล้วครับรู้ตัวไม่ไหวจอดงีบเลย เพราะอายุมากขึ้น หลับลึกขึ้น วันนั้นเกือบตกข้างทาง

  • จอดนอน ถ้ากลางคืนอากาศเย็นจะดับเครื่อง เปิดพัดลมเอา แบตดีๆ เปิดพัดลมแอร์ทิ้งไว้ได้ 2-3 ชั่วโมงยัง สตาร์ทติดครับ

    แต่ถ้ากลางวัน ขอติดเครื่องเปิดแอร์ดีกว่า กดนาฬิกาในโทรศัพท์ให้ปลุกทุก 20 นาทีครับ ได้งีบแค่ั้นั้นก็พอแล้ว

ขอบคุณครับ

ผมเองก็ เป็นคนนึง ที่บางครั้งต้องอาศัย ปั๊ม นอน เหมือนกัน ก็อาศัย งีบ สัก นิด นึง มีครั้งนึง คิดว่าจะงีบ สัก 15 นาที แต่ก็ เผลอ เป็นชั่วโมงครับ

โชคดี ที่ตั้งนาฬิหลาปลุกไว้

อย่าจอดรถ นอนกลางแดด แบบปิด ประตู ปิดกระจก

เด็ดขาด เช่นกันนะครับ อันตรายสูงมากเช่นกันครับ!!!

ดูมุมแสงดีดีด้วยครับ

ฉนั้น จริงๆ ไม่ควรเปิดเครื่อง ยนต์ขณะจอดรถพัก

เปิดกระจก เหลือไว้พอประมาณ ป้องกันอันตราย

ฉนั้น หาเพื่อนร่วมทาง เปลี่ยนกัน พัก ปลอดภัยมากขึ้น

เลือกจอด ในที่ๆ ปลอดภัยครับ

ขับไม่ไหวอย่าทนขับ พักผ่อนครับ

๊รู้สึกว่าบทความนี้จะมั่วหน่อยๆครับ

ที่จริงการนอนในรถ ขณะที่ติดเครื่องนต์ ตายได้จริงๆครับ แต่เหตผลที่ต่างมามันมั่วๆหน่อย

อันดับแรกเลย เราจะตายเพราะควันไอเสียรถจริงๆ

เพราะว่ามันจะมี ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ (หรือ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์)ไม่ใช้ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ก๊าช นี้มคุณสมบัติอย่างหนึ่งคือ สามารถ รวมตัวกับ ฮีโมโกลบิน ได้ดีกว่า อ๊อกซิเจน ประมาณ 200-300 เท่า (คนเราสูดเอา อ๊อกซิเจน เข้าในร่างกาย แล้ว ตัว ฮีโมโกลบิน จะเป็นตัวรับ อ๊อกซิเจน)

ซึ่งตัว ฮีโมโกลบิน มันมีสีแดงและดังนั้นจึงทำให้เลือดคนเรามีสีแดง ดังนั้น มันจึงไม่น้อยลงไปกว่าเดิมหรอกแบบที่กล่าวอ้างครับ

ดังนั้นเมื่อ ฮีโมโกลบิน ไม่ได้จับ อ๊อกซิเจน จึงทำให้ขาดอกซิเจน จนถึงแก่ความตาย

แต่ว่า ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ มีน้ำหนักโมเลกุลที่เบา ดังนั้นมันจึงจะลอยขึ้นข้างลน ดังนั้นเพียง เปิด กระจก แง้มๆเอาไวก็ไม่เป็นไรแล้วครับ เพื่อระบายอากาศก็พอครับ หรือถ้าให้ดีก็ดับเครื่องไปเลยครับ

ปล.เขียนจากความจำนะครับ

อยากได้ข้อมูลที่ถูกก็ search เอาเองครับ

อ้าวเหรอ แหมถ้าไม่ทักไม่รู้นะเนี่ย

เพิ่งไปกินนอนในรถมาเกือบอาทิตย์อ่ะครับ กลางวันขับรถเที่ยว

กลางคืนแวะปั๊ม … จอดมันหน้าประตูทางเข้าร้านค้าเค้าเลย

หรือใกล้ที่สุด // แสงไฟให้พอเหมาะ

ช่วงกลางวันหากแดดแรงมากๆ ให้หาที่หลบให้ดีครับ เพราะมันจะร้อน 555+

ปุ๊ก

มาแชร์นิดๆหน่อย…กับการนอนหลับในรถมาหลายครั้งหลายครา

พกยากันยุงชนิดน้ำไว้ในรถ เป็นอันดับแรก

เปิดหน้าต่างทั้งสี่บานเล็กน้อย

หากเบาะรถปรับนอนแนวราบได้ ก็ปรับนอนแนวราบ (กรณีจะนอนทั้งคืน)

เครื่องไม่ต้องสตาร์ท

กรณีจำเป็นต้องสตาร์ทเครื่องยนต์เพื่อเปิดแอร์ให้ทำดังนี้

เปิดฝากระโปร่งรถเอาไว้ เพื่อให้อากาศเสียและไอร้อนไอเสียถ่ายเทออกจากด้านหน้าเครื่องด้านหน้ารถ

เพราะช่องอากาศภายนอกจะเข้าภายในห้องโดยสารได้จะอยู่ด้านหน้า

เปิดแอร์ปกติ เปิดลมแรงสักหน่อย และปรับการเดินทางลมแอร์แบบให้หมุนวนเอาอากาศจากภายนอกเข้ามา

โดยปกติ เราจะปรับทางเดินอากาศหมุนวน ให้หมุนวนภายในรถ (ในกรณีปกติ)

แต่เราเปิดให้อากาศหมุนวน เอาอากาศจากภายนอกเข้ามาจากด้านหน้า คือห้องเครื่อง และห้องเครื่องก็เปิดฝากระโปร่งรถแล้ว

ที่สำคัญ อย่าจอดรถในที่มุมอับ หรือไม่มีอากาศถ่ายเท ตรงนี้สำคัญมาก เพราะไอเสียรถจะวนมาด้านหน้าห้องเครื่องได้ และอากาศเสียในห้องเครื่องก็ไม่ได้ถ่ายเทออกไปได้สักเท่าไร

อีกกรณีคือ เราจอดนอนพักแต่ไม่คิดว่าจะนาน ก็ไม่ต้องเปิดฝากระโปร่งรถก็ได้ครับ แต่เปิดกระจกตรงด้านคนขับเล็กน้อย (แต่อย่าให้มือคนล้วงเข้ามาได้)

และก็เปิดแอร์ เปิดทางเดินอากาศจากภายนอก (ปกติเราจะปรับแบบอากาศหมุนวนภายใน)

สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ รถและเครื่องยนต์เอง ก็ต้องผ่านมารตฐานในเรื่องการกำจัดไอเสียด้วยนะครับ (พวกรถยุโรปจะมี CAT ในการกำจัดไอเสียเรื่องนี้ได้มากกว่ารถยี่ปุ่น)

เครื่องยนต์เบนซิน หรือใช้ก๊าซ ให้ไอเสียออกมาน้อยกว่าเครื่องยนต์ดีเซล

เออ… หากจะจอดนอนค้างคืน… อย่าลืมผ้าห่มและหมอนใบเล็กๆสักใบนะ จะหลับสบาย…เลยล่ะ

เท่าที่หลับนอนในรถมาก็หลายครั้ง ก็ไม่มีปัญหานะครับ ไม่เพลี่ย หากเบาะนอนสบาย

แต่ทุกครั้งเลย ผมก็เปิดฝากระโปร่งรถเกือบจะทุกครั้งครับ และปรับระบบหมุนวนอากาศภายนอกใช้แทนครับ

แต่บทความความนี้ก็มีส่วนถูกอยู่เยอะเหมือนกันนะครับ

แต่ก็เชื่อถือได้

ควรทำตามคำแนะนำที่เค้าให้มา

บทความดีครับ แต่ถ้าเป็นไปได้เราควรหาที่พักก็จะปลอดภัยมากกว่านะครับ หรือง่วงนอนมากจริงๆก็หาสถานีตำรวจ หรือปั๊มก็ได้

แค่เจอควันบนรถเมล์ก็จะตายแล้วละคะ เคยรถติดๆ นั่งรถจากมองบางกะปิ รถติดๆ ถึงบ้านแค่ลาดพร้าว 87 หลับเลย เจอควันเข้าไป แพ้อย่างแรง รถไม่ติด 10-15 นาทีก็ถึงแล้ว

ติดน้อยๆ ก็ 30 นาที ติดมากๆ แม่เจ้า มากกว่า 30 นาที

ช่วงทำงานแถวลาดพร้าว 101 ห่างจากบ้าน ลาดพร้าว 87 นิดเดียว รถติดตอนเช้า ทำให้ระบบการหายใจติดขัดไปเลย ต้องนั่งแท็กซี่ไปทำงานแทน

เพราะแพ้ขนาดหายใจติดขัดไม่เต็มปอด ร่างกายป้องกันตัวเอง หายใจได้ทีละนิดๆๆ ทีละเฮือกๆ

คนที่ทำงานเขาคิดว่าเป็นโรคอะไร หรือเปล่า เพราะตลอดเวลาจะหายใจไม่ค่อยได้ มันครึ่งๆ กลางๆ ทั้งวัน คุยๆ อากาศหมด ก็จะเหมือนฮึดฮัด ขัดใจไรแบบนี้

เพราะหายใจไม่ได้นี่แหละ เป็นอยู่หลายเดือน จนเกือบตีกับแท้กซี่เพราะเราหายใจไม่ได้ แท็กซี่คิดว่าไม่พอใจ ทำเสียงฮึดฮัดใส่เขา ฮ่าๆ

เพราะหายใจปุ๊บ มันหยุดกลางคันเฉยเลย ไม่ถึง แล้วสักพักถึงจะหายใจได้เต็มๆ รำคาญมาก