โทรจันแอนดรอยด์ตัวแรกโผล่
ผู้เชี่ยวชาญการรักษาความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์จากบริษัท Kaspersky Lab สัญชาติรัสเซีย ประกาศพบโปรแกรมประสงค์ร้ายตัวแรกที่มุ่งโจมตีระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) เบื้องต้นพบว่าเครื่องที่ติดเชื้อจะส่งข้อความสั้นหรือ SMS โดยที่เจ้าของเครื่องไม่รู้ตัว
Kaspersky ตั้งชื่อโปรแกรมประสงค์ร้ายนี้ว่า SMS.AndroidOS.FakePlayer.a ตบตาผู้ใช้ว่าเป็นไฟล์มัลติมีเดียธรรมดาทั่วไป ซึ่งจะแสดงข้อความเตือนให้เจ้าของเครื่องติดตั้งแอปพลิเคชันเล่นไฟล์หรือ media player หากผู้ใช้หลงกลติดตั้ง เครื่องจะส่ง SMS หรือทำการโทรออกโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้เสียค่าใช้จ่ายโดยไม่ตั้งใจในที่สุด
Kaspersky เชื่อว่า Trojan-SMS.AndroidOS.FakePlayer.a คือโปรแกรมมัลแวร์ตัวแรกที่มุ่งเจาะช่องโหว่ในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาที่กูเกิลพัฒนาขึ้น ทั้งหมดนี้ Kaspersky Lab แนะนำให้ผู้ใช้ระมัดระวังการใช้บริการข้อมูลที่จะต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆ เนื่องจากหากไม่ติดตั้ง โปรแกรมร้ายดังกล่าวก็จะไม่สามารถทำงานได้
ไม่ใช่ Kaspersky รายเดียว แต่บริษัท Lookout ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยบนโทรศัพท์มือถือก็ออกประกาศในเว็บล็อกบริษัท เพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้แอนดรอยด์ด้วย โดยระบุว่า โปรแกรมเล่นไฟล์มัลติมีเดียที่โทรจันนี้แจ้งให้ผู้ใช้แอนดรอยด์ติดตั้งนั้นมีชื่อว่า Movie Player และระบุว่าเหยื่อมีโอกาสสูญเงินหลายเหรียญไปเพราะโทรจันตัวนี้
Lookout แนะนำให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟน Android ทุกคนตรวจตราการติดตั้งแอปพลิเคชันเล่นไฟล์มัลติมีเดียทุกรูปแบบให้ดี เพื่อให้ไม่ต้องเสียใจกับค่าส่ง SMS ที่ไม่พึงปรารถนา นอกจากนี้ Lookout ระบุด้วยว่าผู้เสียหายจากโทรจันดังกล่าวยังจำกัดวงอยู่เฉพาะในประเทศรัสเซียเท่านั้น และโทรจันนี้สามารถทำงานได้เฉพาะบนเครือข่ายของรัสเซียเท่านั้น จึงทำให้โทรจันดังกล่าวไม่แพร่กระจายตัวในวงกว้าง
ล่าสุด กูเกิลออกแถลงการณ์ขอให้ผู้ใช้ระมัดระวังการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่ Android Market และหลังการดาวน์โหลด ผู้ใช้จะสามารถเรียกดูข้อมูลและทรัพยากรของแอปพลิเคชันที่ดาวน์โหลดได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็สามารถเรียกดูข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ที่ส่งข้อความออกไป ซึ่งทั้งหมด ผู้ใช้จะยกเลิกการติดตั้งแอปพลิเคชันได้ตามต้องการ
ก่อนหน้านี้ กูเกิลเคยเปิดเผยตัวเลขน่าทึ่งว่าสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์นั้นสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 160,000 เครื่องต่อวันตลอดไตรมาส 2 ของปีที่ผ่านมา เป็นสัดส่วนตัวเลขที่มากกว่า 65,000 เครื่องต่อวันในไตรมาส 1 มากกว่า 3 เท่าตัว