มาร์คเขย่าล้มประมูล3จี

รัฐบาลส่อล้มประมูลโครงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3จี หวั่นรัฐและประชาชนเสียประโยชน์บาน

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจเป็นกรณีพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องการประมูลโครงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3จี โดยเฉพาะ ซึ่งจะนำเอาข้อเสนอของ รมว.คลัง และ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ที่เข้าพบนายกฯ เมื่อบ่ายวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้ถึงกรณีที่นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังและนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร เข้าพบเมื่อบ่ายวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้หารือกรณีที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) จะดำเนินการโครงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3จี ตามที่ประกาศจะมีผลกระทบต่อสภาพการแข่งขันในธุรกิจโทรคมนาคมและกระทบต่อ สัญญาสัมปทานที่มีอยู่อย่างไร จึงได้มีการหารือถกกันในเรื่องการรองรับ

นาย อภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า กติกาที่ประกาศอยู่ขณะนี้น่าจะส่งผลกระทบต่อการทำให้เกิดอำนาจผูกขาด การมีผลกระทบต่อสัญญาสัมปทานของเอกชนในปัจจุบัน ซึ่งรัฐต้องดูแลให้การแข่งขันเป็นธรรมและประชาชนได้ประโยชน์
ทั้งนี้ ข้อสรุปในการหารือเห็นว่าถ้าจะมีการประมูลระบบ 3จี อย่างที่มีการประกาศนั้น ต้องมีการแก้ไขปัญหาสัญญาสัมปทาน ซึ่งได้มอบให้กระทรวงการคลังและกระทรวงไอซีทีเร่งดำเนินการ

นาย อภิสิทธิ์ กล่าวว่า โดยอำนาจหน้าที่ของ กทช.สามารถดำเนินการเปิดประมูลได้ แต่ก็ถือว่าหน้าที่ของรัฐบาลก็ต้องมาปรับกติกาการแข่งขันของผู้ประกอบการที่ รับสัมปทานอยู่ เพื่อที่จะให้การแข่งขันของโทรคมนาคมเป็นธรรมและเกิดประโยชน์สูงสุด

แหล่ง ข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า สิ่งที่นายกฯ เป็นห่วงคือ เรื่องการโอนย้ายลูกค้าจากสัมปทานเดิมไปสู่สัมปทานใหม่ เพราะสัมปทานใหม่นั้นเอกชนเสียค่าใบอนุญาตต่ำกว่าค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่าย ให้กับภาครัฐในสัมปทานเก่า หากปล่อยไปรัฐจะเสียประโยชน์มหาศาล

“ค่าใบ อนุญาต 3จี กทช.กำหนดไว้ที่ 1.28 หมื่นล้านบาท ตลอดอายุสัมปทาน แต่ในสัญญาสัมปทานเดิมที่เอกชนมือถือต้องจ่ายรัฐในปัจจุบันตกปีละประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่เอกชนจะโอนย้ายลูกค้าจากสัมปทานเก่าไปสัมปทานใหม่” แหล่งข่าวเปิดเผย

posttoday.com/ข่าว/ข่าวทูเดย์/39215/มาร์คเขย่าล้มประมูล3จี

  • -" ถ้า 5Gออกไทยจะได้ใช้3G

ชาติหน้าคงได้ใช้แน่ๆ เน็ตความเร็วสูงไร้สาย

“ค่าใบ อนุญาต 3จี กทช.กำหนดไว้ที่ 1.28 หมื่นล้านบาท ตลอดอายุสัมปทาน แต่ในสัญญาสัมปทานเดิมที่เอกชนมือถือต้องจ่ายรัฐในปัจจุบันตกปีละประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่เอกชนจะโอนย้ายลูกค้าจากสัมปทานเก่าไปสัมปทานใหม่” แหล่งข่าวเปิดเผย

ก็เพิ่มเป็น 3 หมื่นเท่ากันดิ

นึกถึงแต่ตัวเงินด้านเดียว นึกถึงประโยชน์ ที่จะนำมาต่อยอดบ้างหรือปล่่าวเนี่ย รัฐเสียประโยชน์แต่ประชาชนได้ประโยชน์

ปีละ 3 หมืนล้าน
กับ
1.28 หมื่นล้าน ตลอดอายุสัมปทาน
มันต่างกันเยอะ
10 ปี อันแรกก็ 3 แสนล้าน
อันหลัง ไม่ต้องจ่ายซัีกบาท เพราะจ่ายไปแล้วในปีแรก

คงอีกนานกว่าจะได้ใช้

เรื่องเงินนั้น นอกจากค่าสัมปทานที่จ่ายรายปีหรือตลอดอายุแล้ว ยังมีส่วนแบ่งจากรายได้อีกด้วย

การที่เอกชนจะย้ายลูกค้าข้ามทั้งหมด ก็หมายถึงต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่ทั้งหมดด้วย
เพราะสัมปทานเก่าคือคลื่นอีกความถี่หนึ่ง ซึ่งถ้าจะใช้ใบอนุญาต 3G ก็ใช้อีกความถี่หนึ่ง

แล้วสมมุติคิดค่าสัมปทาน ห้าแสนล้านบาทตลอดอายุ คิดเหรอว่าเอกชน จะไม่เอามาเป็นต้นทุนคิดเงินกับลูกค้า?
ประชาชนต่างหากที่เสียผลประโยชน์ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย

แบบนี้แหละประเทศไทยถึงไม่ก้าวหน้า เพราะมี…หล้าหลัง จะทำอะไรก็สั่งเบรกไว้ก่อน

ไม่เห็นใจคนหัวใจ IT บ้างหรือไงตังที่จ่ายไปก็ไปให้ประเทศชาติอยุ่แล้วนิ

เบื่อภาษีก็เสีย
ประเทศคงตามประเทศอื่นทันหรอก อีกไม่นานเวียดนามก็แซง

ต้องแปรรูปสัมปทานก่อน 3G ประเทศไทยไม่ได้เกิดเพราะมันมีมหกรรมเหยียบตีนกันอยู่

  1. เปิด 3G ใหม่ แน่นอนว่าค่ายมือถือย้ายหนีหมดแน่ เพราะ
    1.1 ทำการตลาดง่ายกว่า(แน่นอนล่ะของใหม่)
    1.2 ถึงแม้จะลงทุนใหม่ทั้งหมดแต่อุปกรณ์เป็นของบริษัทนะครับ แต่สัญญาสัมปทานเดิม อุปกรณ์ต้องตกเป็นของรัฐหลังสัมปทานหมดอายุ
    1.3 สัมปทานเดิมแต่ละเจ้าจ่ายค่าส่วนแบ่งไม่เท่ากัน แข่งกันลำบาก ถ้าย้ายมาแข่งกันใน 3G รับรองสู้กันได้ทุกยกเพราะต้นทุนเท่ากัน

  2. ถ้าค่ายมือถือย้ายไปใช้ 3G licences หมดจะเกิดไรขึ้น
    2.1 TOT และ CAT ขาดทุนบักโกรก เพราะทุกวันนี้ทั้งสองเจ้า หากินกับรายรับจากสัมปทานอยู่เนืองๆ แน่นอนว่า สองเจ้านี้ดิ้นขวางสุดชีวิต
    2.2 เกิดการมั่วนิ่มของค่ายมือถือ เพราะคราวนี้ค่ายมือถือมี 2 สัญญาในบริษัทเดียว คือสัมปทานเดิม และ licences 3G งานนี้มีการตกแต่งบัญชีกันแน่นอน
    เพราะใครล่ะจะบอกได้ว่าลูกค้าที่โทรอยู่ โทรบน 3G หรือ 2G เพราะทั้งสองระบบตั้งอยู่บน Cell ตัวเดียวกัน ของบริษัทเดียวกัน และบันทึกข้อมูลโดยคนๆเดียวกัน
    (คือจะเกิดการแต่งบัญชีลงรายได้ไปยังตัวที่ต้นทุนต่ำสุด รับรองมั่วเละเทะ)

  3. ปัญหายิบย่อยอื่นๆ
    3.1 ค่า IC ล่ะคิดยังไง เพราะอุปกรณ์ 3G เป็นของบริษัท อุปกรณ์2Gเป็นสัญญาสัมปทาน ในระหว่างสัมปทานถือเป็นของที่บริษัทยืมใช้
    แล้วถ้าโทรจาก 2G เข้า 3G แต่เครือข่ายเดียวกัน คิดตังค์ไงล่ะเนี่ย
    3.2 เรื่องความถี่อีกคลื่น 2G มันใช้กะ 3G ได้นะ ถ้าเกิดได้ licences 3G แล้ว แบบเอาคลื่น 2G ตามสัมทานเดิม มาใช้กะ 3G บน licence ใหม่ จะทำยังไง
    3.3 คลื่นใหม่ที่เปิด 3G คือ 2100 MHz แต่ส่วนคลื่นเดิมที่ทับกับ 2G เปิดไม่ได้ เพราะติดสัญญาสัมปทาน
    แล้วทีนี้ถ้าทุกค่ายมารุมยำ ที่ 2100 MHz (ทิ้งคลื่นเดิมแล้วย้ายมาใช้ 3G เพราะค่าต๋งถูกกว่า) คิดดูว่าจะเป็น 3G ที่อลเวงกันขนาดไหน

ยังไงก็ควรแปรรูปสัมปทานก่อน

เรื่องความถี่ไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ
ไอ้ 2100 มันก็เป็นแค่ตัวเลขกลมๆ ธรรมดา แต่ที่ใช้จริงก็ไม่ได้ 2100 เป๊ะๆ ครับ

เพราะข้างในมันก็ซอยย่อยลงไปอีก ตั้งแต่ 2110 - 2170 MHz
แบ่งกันใช้ค่ายละ 15 MHz ก็ได้ 4 ค่ายเรียบร้อยพอดี ไม่แย่งไม่ตีกันแน่นอน

ผมคิดว่ารัฐบาลต้องการเยื้อเวลาให้ ais หมดสัญญาในปี 58 ก่อน แล้วก็เอาฐานลูกค้ามาทั้งหมด แล้วค่อยขาย license

ภาวนาให้ข้าม 3G ไป แล้วเปิด 4G ไปเล้ยยยย