ค่ายไอทีหน้าชื่นอกตรม งดจัดคอมเวิลด์ ปิดราชประสงค์

ค่ายไอทีหน้าชื่นอกตรม งดจัดคอมเวิลด์ ปิดราชประสงค์

ค่ายไอทียิ้มทั้งน้ำตา กรณี ‘คอมเวิลด์’ มหกรรมงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอทีก่อนเปิดเทอมซึ่งมียอดขายกว่าพันล้านบาทและจัดเป็นประจำในห้างสยามพารากอนตัดสินใจงดไป และวิกฤติห้างดังย่านราชประสงค์ที่ต้องปิดยาวชั่วคราวเพราะม็อบแดง หนึ่งในนั้นคือเอเซอร์ที่การันตีว่า 2 วิกฤตนี้กระทบยอดขายบริษัทน้อยมากไม่ถึง 10% เตรียมลุยทำแคมเปญการตลาดทั่วประเทศเหมือนเดิมไม่ว่าจะมีม็อบหรือไม่มี ด้านผู้จัดคอมมาร์ตมองตัวเองไม่ได้รับประโยชน์จากการอั้นกำลังซื้อ แย้มเตรียมต่อยอดงานด้วยการจับมือห้างปล่อยโปรโมชันคอมมาร์ตต่อเนื่องทันทีที่งานจบ เชื่อมุกใหม่นี้ค่ายไอทีและผู้บริโภคที่ไม่สะดวกเดินทางได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย

นายอลัน เจียง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่าพิษการเมืองที่ทำให้งานคอมเวิลด์ต้องงดไปและห้างไอทีย่านราชประสงค์ปิดทำการชั่วคราวนั้นมีผลกระทบต่อธุรกิจค้าปลีกเท่านั้น แต่ความต้องการในตลาดโดยรวมยังมีทำให้สถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากสัดส่วนตลาดย่านราชประสงค์รวมพันธ์ทิพย์แล้ว คิดเป็นยอดจำหน่ายเพียง 5% ของเอเซอร์เท่านั้น

“มันมีผลกับรีเทล แต่ดีมานด์ยังมี เราจึงไปทำแคมเปญในพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบ เป็นแคมเปญการตลาดทั่วประเทศแบบเดิมที่เคยทำมาตลอดทั้งในไอทีพลาซ่าและดิสเคานต์สโตร์อย่างโลตัส บิ๊กซี งานไอทีที่ยุบไปก็ไม่มีผลเพราะจะมีงานใหญ่ในเดือนมิถุนายนอยู่แล้ว เชื่อว่าไตรมาสนี้เอเซอร์จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 25% ได้ตามเป้า อัตราเติบโต 30% ต่อปีตามปกติ”

งานไอทีที่ยุบไปซึ่งเจียงพูดถึงคืองาน Comworld 2010 ที่เคยประกาศเลื่อนจากเดิม 29 เมษายน - 2 พฤษภาคม 53 ไปเป็นวันที่ 20-23 พฤษภาคม 53 ก่อนจะตัดสินใจงดงานไปจัดอีกครั้งในวันที่ 30 กันยายนถึง 3 ตุลาคมแทน

นายวิโรจน์ อัศวรังสี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิแอสไพเรอร์สกรุ๊ป จำกัด ผู้จัดงาน “คอมเวิลด์ 2010” ออกแถลงการณ์ระบุว่าความไม่แน่นอนทางการเมือง และความไม่ปลอดภัยในการจัดงาน ทำให้คอมเวิลด์ต้องเลื่อนงานออกไปอีกครั้ง โดยกำหนดจัดงานใหม่ต้นเดือนตุลาคมจะเป็นช่วงปิดเทอมกลางปี ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ต่างๆน่าจะกลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว และหวังว่ากระแสสินค้าใหม่ในไตรมาส 3 จะอุดมด้วยนวัตกรรมไอทีและคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ที่คึกคักกว่าไตรมาส 2

จุดนี้ผู้บริหารเอเซอร์ยืนยันว่าคอมเวิลด์เป็นเพียงอีเวนต์ 1 งานซึ่งหากงดไปก็ไม่กระทบยอดขายรวมของเอเซอร์มากนัก ขณะเดียวกัน แม้ยอดขายเอเซอร์ในพันธ์ทิพย์จะตกต่ำลงจริงแต่ดีลเลอร์ในพันธ์ทิพย์ก็ยังสามารถกระจายสินค้าไปสาขาอื่นนอกพื้นที่ได้อีก

“วิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อเอเซอร์ไม่ถึง 10% ซึ่งอาจจะกระทบต่อภาพรวมยอดขายทั้งปีหากวิกฤติเกิดขึ้นนานกว่านี้”

ทั้งหมดนี้ผู้บริหารเอเซอร์ให้สัมภาษณ์ไว้ในงานเปิดตัวโน้ตบุ๊ก “แอสไปร์ ไทม์ไลน์ เอ็กซ์” ซึ่งถูกการันตีว่าเป็นโน้ตบุ๊กบาง 0.8 มิลลิเมตร เบาที่สุดในกลุ่มบางพิเศษ ดีไซน์หรูฝาปิดอะลูมิเนียม มีให้เลือกตั้งแต่หน้าจอ 13 นิ้วขึ้นไป ชิปพันธุ์ Core i จากอินเทลพร้อมการ์ดจอแรง ATI Mobility Radeon HD 5650 และ VRAM 1GB จอแอลอีดี 16:9 แบตเตอรี่ 9 เซลล์ ติดตั้งระบบปฏิบัติการวินโดวส์เซเว่นล่าสุด อายุแบตเตอรี่ต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง สนนราคาเริ่มที่ 26,900 บาทไม่รวมภาษี

นอกจากเอเซอร์ ค่ายไอทีไทยรายอื่นๆก็ยังคงยิ้มได้เพราะยังมีช่องทางทำตลาดกับผู้จัดงานอีเวนต์รายใหญ่อย่างคอมมาร์ต (Commart) อยู่ โดยนายปฐม อินทโรดม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานคอมมาร์ตเปิดเผยว่า ไม่ได้มองว่าจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการอั้นซื้อในงานคอมเวิลด์และการปิดห้างย่านราชประสงค์ การเตรียมการเบื้องต้นในสถานการณ์นี้คือการเพิ่มทีม รปภ. และการลุยกลยุทธ์ต่อยอดคอมมาร์ต

“คอมเวิลด์กลุ่มตลาดไม่ตรงกันอยู่แล้วเพราะเขาเน้นไปตลาด D.I.Y (ตลาดเครื่องประกอบ) และตลาดไอทีในต่างจังหวัดก็ยังไปได้ดี ปิดห้างก็มีผลกับยอดขายในกรุงเทพฯเท่านั้น การรับมือเบื้องต้นในงานคอมมาร์ตที่เตรียมไว้คือการรักษาความปลอดภัยในศูนย์สิริกิติ์ที่เพิ่มขึ้น และเรามีแผนร่วมกับเวนเดอร์และเจ้าของห้างเพื่อจัดงานแสดงสินค้าโปรโมชันเดียวกับคอมมาร์ตทันทีที่งานจบ ตรงนี้ทำเพื่อต่อยอดงานและสนองดีมานด์ในตลาด โดยเฉพาะคนที่ไม่สะดวกเดินทาง รายละเอียดจะแถลงช่วงก่อนจัดงานในปลายเดือนหน้า”

คอมมาร์ตครั้งต่อไปนั้นมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 24-27 มิถุนายน 2553 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ผลกระทบแผ่ไปในมุมกว้าง… หลายฝ่ายฯ เข้าใจสถานการณ์… เราคนไทยทำได้อย่างใดก็ช่วยกัน แม้แต่บอร์ดการเมืองพันทิพเองก็งดการใช้งาน…

ก็เขาครั่งไปแล้วนี่นา เรื่องแค่ีนี้เขาไม่สนใจหรอก