กูเกิลเลิกขาย"เน็กซัสวัน"ออนไลน์
กูเกิลปรับแผนขายเน็กซัสวัน ปิดร้านค้าออนไลน์หลังจากเปิดมา 4 เดือน ยอมรับยอดขายไม่พุ่งเท่าที่ควร เปลี่ยนแผนลุยตลาดหน้าร้านแทนหลังพบว่าผู้บริโภคอยากทดลองสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ
แอนดี รูบิน (Andy Rubin) รองประธานฝ่ายวิศวกรรมบริษัท กูเกิล ออกแถลงการณ์ประกาศทางบล็อกอย่างเป็นทางการของกูเกิลเมื่อวันศุกร์ (14) ที่ผ่านมาว่า กูเกิลจะยกเลิกการขายเน็กซัสวัน (Nexus One) สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เครื่องแรกซึ่งกูเกิลดูแลการผลิต พัฒนา และจัดจำหน่ายด้วยตัวเองผ่านเว็บไซต์กูเกิลแห่งเดียว แต่จะเปลี่ยนเป็นร่วมมือกับพันธมิตรในการจำหน่ายผ่านตลาดค้าปลีกแทน
กูเกิลให้เหตุผลการเปลี่ยนแผนจำหน่ายครั้งนี้ว่าเป็นเพราะพฤติกรรมผู้บริโภค โดยมองว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังต้องการประสบการณ์ในการทดลองใช้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟน
“เป็นที่ชัดเจนว่าตลาดออนไลน์เป็นช่องทางที่เหมาะกับตลาดผู้ใช้ที่ติดตามเทคโนโลยีใหม่เท่านั้น แต่กลุ่มผู้บริโภคทั่วไปยังต้องการทดลองและสัมผัสสินค้าผ่านหน้าร้านรีเทล”
กูเกิลจึงตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบการขายมาเป็นผ่านช่องทางค้าปลีกที่มีอยู่แล้ว แม้จะยังไม่มีการประกาศชื่ออย่างเป็นทางการ แต่เมื่อพิจารณาว่ากูเกิลมีพันธมิตรยักษ์ใหญ่เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายอย่างโวดาโฟน (Vodafone) และเวอไรซอน (Verizon) ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา จึงทำให้เป็นไปได้สูงที่กูเกิลจะจัดจำหน่ายเน็กซัสวันผ่านโอเปอเรเตอร์เหล่านี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเน็กซัสวันเริ่มวางขายในตลาดค้าปลีกแล้ว ประเด็นที่น่าสนใจคือโอเปอเรเตอร์จะให้ความสำคัญกับเน็กซัสวันมากแค่ไหน เนื่องจากทั้ง 2 เครือข่ายหลักในอเมริกาอย่างเวอไรซอนและสปรินท์ (Sprint) เองก็กำลังเตรียมที่จะวางจำหน่าย HTC Incredible และ HTC Evo 4G ด้วย ซึ่งทั้งหมดเป็นแอนดรอยด์โฟนอนาคตไกลเช่นกัน
หลังยุติการขายผ่านทางช่องทางออนไลน์ กูเกิลตัดสินใจแปรสภาพหน้าเว็บไซต์ให้กลายเป็น ช่องทางสำหรับแสดงแอนดรอยด์โฟนที่วางจำหน่ายในปัจจุบันจากผู้ผลิตทั่วโลก เพื่อประชาสัมพันธ์แอนดรอยด์โฟนทุกรุ่นอย่างเต็มตัว
แอนดรอยด์โฟนนั้นถือเป็นตลาดที่น่าสนใจมาก โดยก่อนหน้านี้ อีริก ชมิดท์ ซีอีโอกูเกิลเคยออกมากล่าวในงานประชุมผู้ถือหุ้นที่สำนักงานใหญ่กูเกิลในรัฐแคลิฟอร์เนีย ว่าปัจจุบันสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์หรือแอนดรอยด์โฟนนั้นถูกจัดส่งสู่ตลาดราว 65,000 เครื่องต่อวัน เบ็ดเสร็จคิดเป็นยอดจัดส่งเกือบ 2 ล้านเครื่องต่อเดือน
ชมิดท์ยังให้ข้อมูลว่าระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ถูกใช้บนโทรศัพท์มือถือแล้ว 34 รุ่น ใน 49 ประเทศทั่วโลก โดยมั่นใจว่าแอนดรอยด์โฟนกำลังจะขึ้นเป็นสมาร์ทโฟนเบอร์หนึ่งหรือเบอร์สองในตลาดได้ไม่ยาก สอดคล้องกับบริษัทวิจัยการตลาด"เอ็นพีดี กรุ๊ป" ที่เคยออกมาระบุว่ายอดขายสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ในสหรัฐฯนั้นเพิ่มขึ้นจนแซงหน้าแอปเปิลในไตรมาสแรกของปีนี้