สวัสดีปีใหม่ค่า ไปทำบุญตจว. มาละ เอาภาพบรรยากาศในงานและที่พักมาอวด

ไปวัดโบสถ์ค่ะ หลวงปู่ น่าจะเรียกแบบนี้ครบรอบ 92 หรือ 96 ปีนี่แหละค่ะ จำไม่ได้
เพราะไปช่วยแบบไม่ได้รู้ล่วงหน้า ไปพักสมองบ้านเพื่อน แล้วก็รู้วันพฤหัสฯ ว่าจะต้องมีไปร่วมกันทำอาหารไปช่วยงานนี้

บ้านเพื่อน เขาขึ้นชื่อ เรื่องอาหาร ยำใหญ่ กับหมี่กรอบ (ขนมนี่ทำเสร็จก่อนวันพุธ ไปทันได้กิน กินจนอ้วนเลย ฮ่าๆ ) หลวงปู่เลยขอให้เอามาเลี้ยงแขกในงาน

จริงๆ เขาเริ่มเตรียมของตั้งแต่วันพฤหัสฯ หรือศุกร์นี่แหละค่ะ ไม่ทราบหรอกว่าอะไรบ้าง

แต่ของที่ใช้ยำใหญ่ มี 23 รายการ ขอสุตรมาได้ด้วย ฮ่าๆ

เริ่มช่วยเอาเมื่อวันเสาร์ค่ะ แต่ 10 โมงกว่าได้ ยัน 4

คลุกกันเป็นกะละมังเลย

กินแล้วเหมือนจะผอมนะ แต่ไม่หรอก เพราะมีกะทิด้วย

เอาหลักๆ ก่อนนะ มีอะไรบ้าง

หมูต้มฉีก ไก่ต้มฉีก ปลาหมึกแห้งฉีก กุ้งแห้ง ถั่วลิสงบด นี่ไม่บดธรรมดานะ ต้องเอาขวดน้ำปลากลิ้งบดเท่านั้น ฮ่าๆ
แครอท แตงกวา ไชเท้า กะทิเอาแต่หัวด้วย ไข่ต้ม ต้นหอม ผักชี ผักกาดหอม เห็ดหูหนูแห้ง
มะนาวนี่บีบเป็นกะละมังเลย รู้สึกจะได้สัก 3 - 4 ลิตรได้
นอกจากจะไปช่วยเตรียมเครื่องยำแล้ว ยังต้องไปทำอาหารให้ญาติๆ กินด้วย เพราะมัวแต่ทำของทำบุญกับข้าวไม่ได้ทำกัน ฮ่าๆ

ลูกค้าโทรตามยิกๆ แต่ไม่ได้สักบาท เจอแต่ละคน อย่างหลอก ฮ่าๆ

สมองไม่ป่วน แต่เมื่อย แต่ไม่มากเท่าไร เพราะไม่ได้ออกแรงมาก ออกแนวรักษาพลัง ฮ่าๆ

บีบมะนาวเสร็จไปตำกุ้งแห้งกว่าจะเสร็จ ล่อไป เกือบ 6 โมงเย็น ระหว่างนั้นมีสับรางไป ทำกับข้าว และ ฉีกปลาหมึกแห้ง สลับไปทำนี่นั่น

แถมมียายที่หลงด้วย ต้องพาไปกล่อมนอนด้วยนะ ไม่ได้เที่ยวไหนเลย ทั้งปี ฮ่าๆ

แต่คราวนี้ถือว่าคุ้มนะ ได้ทำบุญด้วย

เพี๊ยงปีนี้ขอให้รวยลูกค้าดีๆ และเงินไหลมาเทมาอั๊กๆ

นี่เป็นเจ้าของสูตร หัวเรือใหญ่ ไม่มีลูกหลาน ยายเลยตั้งหน้าตั้งตาทำบุญสารพัด

นี่เป้นแม่น้ำหน้าบ้าน ติดแม่น้ำอ่ะ แต่ก่อนอาบน้ำกันตรงนี้ เคยเล่นอยู่หนเดียว ไม่กล้าเล่นอีก
กลัวอะไรตอด เล่นไปหลอนไป ร้องลั่นแม่น้ำ ฮ่าๆ

นี่เป็นบ้าน ไม่กล้าถ่ายมาก กลัวเขาด่า ฮ่าๆ

อันนี้ครัวที่นั่งทำงานค่ะ

เซ้ง เขียนไปหายหมด กำลังเขียนดันแฮงค์

เอาภาพหมาดุมาฝาก ไอ้เน่า กัดหมาบ้านอื่นตาย

ไอ้นี่รุ่นเล็กล่าสุด เพิ่งโต หล่อมะ อิอิ เห็นมันนั่งสวยดี เลยเอามาอวด

นี่เป็นที่นาบ้านเพื่อน ถ่ายมุมขวา ตอน 5 โมงเย็นกว่าๆ กำลังรอรถตู้มารับกลับ มันผ่านถนนหน้าบ้าน จริงๆ เขาเรียกหลังบ้าน เพราะสมัยก่อน หน้าบ้านคือติดแม่น้ำ

ส่วนนี่ หันกล้องมาตรงกลางนาเลย เวลาหลังภาพแรก ดูสีท้องฟ้าสิ ต่างกันลิบ แค่ตรงกลางกับตรงขวามือ

อันนี้บ้านโบราณของแท้ มีหัวกระดานแบบนี้ บ้านผมมีสามชั้นเลย
เพื่อนไปบ้านไม่ต้องห่วง เตะทุกคน แม้กระทั่งเจ้าของบ้านเองก็ยังพลาดบ่อย ๆ
เขาจะทำมาเพื่ออะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน ห้า ๆ

นี่ก็ 3 ชั้นนะ

เค้าเรียกว่าบ้านลั่นครับ ปกติครับ แล้วบางบ้านจะมีเสาตกน้ำมันจะลั่นบ่อยมากครับ

จริง ๆ แล้วมันลั่นทั้งวันละแต่กลางคืนจะชัดกว่าเพราะมันเงียบ

ต้องมี…ก่อไผ่ใกล้ๆบ้านด้วย เวลาบ้านลั่น…จะได้ยินเสียงใบใผ่ นอนฟังไปแล้วขนรุก อิ้นฉี่ไว้ยันเช้า :dgrin:

แต่เพื่อนกลับบอกว่า ญาติเขาเดิน ฮ่าๆ เพราะเพื่อนอย่างกลัวเลย
บ้านตัวเองแท้ๆ แต่ถ้าจะเข้าห้องน้ำ ต้องไปเป็นเพื่อน
ดันกลัวกว่าแขกเสียอีก

ปกตินอนตี 1 ตี2 พอไปตจว. โห กลิ้งไปกลิ้งมาหลายตลบก็ไม่หลับ บางคนหลับก่อน 3 ทุ่มอีก

หลับช้าหน่อย 5 ทุ่ม
นอนตาโพลงทุกคืนเลย
แล้วตื่นกันแต่เช้า

7 โมงเช้านี่สมอง ร่างกาย ตื่นหมดแล้วนะ เหลือแต่ตา เปิดไม่ได้ ฮ่าๆ ปิดสนิทเลย

กว่าจะแซะร่างลุกไปตลาด แทบวาย ฮ่าๆ

ถ้ามีลมพัดโชยมาเบา ๆ จะได้ยินเสียงกอไผ่สีกันดัง ออด ๆ มันวังเวงเหลือเกิน แต่ผมก็อยู่มา 20 ปีละ

อย่างอื่นไม่กลัว กลัวแต่โจร ไปครั้งแรก นึกถึง ไอ้เสือบุกเลยทีเดียว นอนไม่หลับเลย
บ้านมืดมาก มองไม่เห้นอะไรเลย

ถ้าเขาปิดไฟนอนกันแล้ว จะเดินไปเข้าห้องน้ำหรือไปครัว นี่ต้องพกไฟฉาย เหยียบดึกๆ นี่อ๊อดๆๆ

พลิกตัวบนที่นอนแต่ละที ดังลั่นเลย ทั้งขี้ร้อน ทั้งนอนไม่หลับ พลิกไปพลิกมา ดังไปหมด

แถมนอนติดหมอนข้าง แม่เจ้า หลับยากสุดๆ

คนแก่ ๆ เค้าบอกว่า ผีหม้อหรือตายาย(ที่สุพรรณเค้าเรียกอย่างงั้น) เดินกันในบ้าน

มาอยู่กรุงเทพนอนตี 1 ตี 2 กลับบ้านไปก็เหมือนกันกลิ้งอยู่หลายตลบ แล้วพ่อดันตื่นมาตั้งแต่ตี 4

มานั้่งเปิดไฟจิบกาแฟสูบบุหรี่แล้วตี5 ถึงจะไปนา โอ!!ง่วงสุด เวลานั้นจะคิดถึงหอมากที่สุดเลย

และที่สำคัญบ้านแบบนี้จะมีช่องว่างทั้งหลัง โจรมาไม่ต้องแงะให้เสียเวลาเข้ามาได้เลย

งานที่เบื่อที่สุดแต่ก็ต้องทำมาตลอดทุกวันคือฝาดใบไผ่เพราะบ้านจะมีช่องทั้งหลัง

และใครอย่าพิเลนเดินไปเข้าห้องน้ำมืด ๆ นะถ้าไม่ไช่เจ้าของบ้านเพราะท่านจะตกหัวกระดาน

ใช่ๆๆ ปิดประตูไปก็ปล่าวประโยชน์ ยังบอกเพื่อนเลยว่า ปิดทำไมเนี่ย แหม มีประตูหน้าหลัง
แถมล็อคก็ไม่ได้จะแน่นหนานะ

ตรงเกือบกลางบ้าน ดันมีระเบียงให้โจรบุก ฮ่าๆ

แต่มันไม่มีอะไร แต่ก็นะ เขาสร้างทำไมกันแบบนี้ เข้าใจว่าให้ลมพัดผ่าน ระบาย เย็นดี
แต่มันกันโจรตรงไหนเนี่ย

สนทนางานบุญ กลายเป็นเรื่องสยองไปฉิบ เง้อออ กลัว

เง้อ เค้าก็ไม่รู้

มาสาธุ รับบุญอีกงาน ช้าไปไหมเนี่ย เมื่อเช้ายุ่งๆเลยไม่ได้ rep.

บ้านโบราณสร้างไว้ได้ลักษณะของทางเดินลมครับ พื้นโปร่ง มีขั้นระหว่างชั้นของพื้นบ้าน เพื่อแยกส่วนของตัวบ้าน พื้นโถง พื้นครัว พื้นห้องนอน คนละระดับ หลังคามีจั้วสูง ระบายความร้อนใต้หลังคา ไม่ลงมาถึงห้องด้านล่าง แต่บ้านในภาพหลังคาต่ำ ไม่แน่ใจว่าต่อเติมหรือเปล่า

เสาบ้านไม้ทั้งต้น กลม เรียบ ไม่ต้องใสเป็นเหลี่ยม ทำก็ง่ายถึงจะดูไม่สวยเท่าเสาเหลี่ยม แต่ปลอดภัยสำหรับเด็กเล็ก ไม่ต้องกล้วเอาหัวไปโหม่งเหลี่ยมเสาให้หัวแตก

ธรรมชาติของบ้านไม้ อากาศเปลี่ยน ชื้นบ้าง ร้อนบ้าง ไม้มีการยืด หดตัว ส่งเสียงอี้ดอ้าด คนไม่คุ้นกลัวหัวหด คนเมืองไปเดินพื้นกระดานบ้านแบบนั้น เขาได้ยินเสียงเดินทั้งบ้าน แต่ถ้าลูกบ้านนั้นเดิน จะเหมือนย่อง เพราะเงียบกริบ

ในอดีตบ้านเมืองเรา โจร ผู้ร้ายแทบไม่มี บ้านก็เลยสร้างได้แบบง่ายๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องโดนปล้น ไม่เหมือนสมัยนี้

หวัดดีครับ ปรกติทางต่างจังหวัดไม่ค่อยมีโจร ขโมยหลอกครับ ไม่เหมือนคนในกรุงเทพ อย่างเพียบ ต่างจังหวัดเขารู้จักกันทั้งตำบล ทุกคนเหมือนญาติกันเลยไม่มีอันตรายครับ แต่ดูจากบ้านผมกลัวเดินตกใต้ถุนมากกว่าอาจขาหักได้ อิอิ

ถูกต้องเลยครับโดยเฉพาะคนที่เคยอยู่บ้านปูนไปเดินล่ะก็รู้กันทั้งบ้านอ่ะครับ ที่ต้องเดินแบบย่อง ๆ ก็เพราะตอนเด็กโดนหวดหน้าแข้งบ่อย อิอิ

ดีนะเนี่ย ที่บ้านยังสอนแบบเก่าอยู่ ตีหน้าแข้ง อิอิ

ที่บ้านไม่ตี แต่ด่า

เดินทีรุ้กันหมด ว่าคนเดิน
เดินบ้านปูนมาเป็น 10 ปี เดินบ้านไม้เบาๆ อย่างเก่าไม่ได้แล้ว ตอนมีแมว ได้ฝึกวิทยายุทธกับแมว
ทั้งตีนเบา ทั้งมือไว อิอิ

ถ้าจะแกล้งแมว ต้องย่องไปแกล้ง ถ้าจะสู้กับแมว ต้องไวกว่าแมว ไม่งั๊น มันเอาเล็บข่วน
กว่าจะชนะแมวนี่โดนข่วนหลายแผลเลย

คิดถึงแมวอ่ะ

เมื่อวานเดินผ่าน ตะวันนาบางกะปิ

ใช่วัดโบสถ์ โพธาราม ราชบุรีอะเปล่าครับ
วัดคุ้น ๆ