ทีโอทีบู๊สุดตัวลุยบรอดแบนด์ 12 เมก
ผลประกอบการทีโอที 6 เดือนแรก ฟันกำไร 3,600 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่กำไร 2,000 ล้านบาท ถึงแม้รายได้พลาดเป้า 4.5% ประธานบอร์ดย้ำผลงานซีอีโอผ่านการประเมิน ถึงเฉียดฉิวไปบ้างก็ตาม ปรับยุทธศาสตร์ให้ความสำคัญบรอดแบนด์ กับ 3G ที่เปิดบริการแน่ 5 ธ.ค.นี้ พร้อมอัดแคมเปญเน็ต ท็อป สปีด 12 เมกราคาเย้ายวนใจ 1,500 บาทหวังดันลูกค้าทะลุหลักล้านราย
นายธีรวุฒิ บุณยโสภณ ประธานกรรมการ บริษัท ทีโอที กล่าวว่า ผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของทีโอทีมีรายได้ 27,000 ล้านบาทหรือปรับตัวลดลง 5.1 % โดยแบ่งเป็นรายได้จากการดำเนินงานของทีโอที 13,000 ล้านบาทปรับตัวลดลงประมาณ 4.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งสาเหตุที่ทำให้รายได้ของทีโอทีปรับตัวลง เป็นเพราะได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมืองไม่ปกติรวม ทั้งมีการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด แต่ทีโอทีมีกำไรสุทธิในงวด 6 เดือนแรก 3,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,000 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการลดต้นทุนในทุกๆด้าน เช่น ค่าใช้จ่ายจากการบริหารจัดการ งบการลงทุน และงบการตลาด แต่คาดว่าสิ้นปี 2552 ทีโอทีจะมีรายได้ประมาณ 5 หมื่นล้านบาทลดลงจากปีก่อนประมาณ 5% เนื่องจากรายได้จากสัญญาร่วมการงานลดลง ในขณะที่รายได้จากการดำเนินงานของทีโอทีเองยังรักษาระดับเดิมไว้ได้
สำหรับส่วนแบ่งรายได้จากสัญญาสัมปทานในช่วง 6 เดือนแรกพบว่ารายได้จากสัมปทานของบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส ปรับตัวลดลง 7.7% เพราะเอไอเอสมีรายได้จากการให้บริการทางเสียงลดลงและยังมีรายได้จากสัญญา สัมปทานจากธุรกิจฟิกซ์ไลน์ลดลง 10% โดยยังไม่สามารถเปิดเผยส่วนแบ่งรายได้จากสัมปทานได้เพราะผู้รับสัมปทานจะนำ จ่ายส่วนแบ่งรายได้ปีละ 1 ครั้ง
นายธีรวุฒิ กล่าวว่า การลดลงของรายได้ในช่วง 6 เดือนแรกส่งผลให้ในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่องการทบทวนแผนยุทธศาสตร์ของ ทีโอทีของคณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูงในการประชุมเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา มีความเห็นว่าจะให้ความสำคัญกับ 2 เรื่องหลักคือ 1.การทำการตลาดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือบรอดแบนด์รวมถึง 2.การเปิดให้บริการระบบโทรศัพท์มือถือ 3G โดยจะประเดิมให้บริการเฟสแรกจำนวน 533 สถานีฐานในกทม.โดยมั่นใจว่าจะเปิดให้บริการได้ในวันที่ 5 ธันวาคม ปีนี้และจะเริ่มสร้างรายได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2553 เป็นต้นไปจำนวน 280 ล้านบาท รวมทั้งการสร้างรายได้จากธุรกิจมีเดีย คอนเทนต์ และแอปพลิเคชัน โพรไวเดอร์
รุกบรอดแบนด์ 12 เมกะบิต
ในการรุกบริการบรอดแบนด์ ทีโอทีเปิดแคมเปญล่าสุดที่พัทยาด้วย ‘เน็ต ท็อป สปีด’ ให้บริการบรอดแบนด์ที่ความเร็ว 8 เมกะบิตต่อวินาที ในราคา 1,000 บาทต่อเดือน และความเร็ว 12 เมกะบิตต่อวินาที ในราคา 1,500 บาทต่อเดือน ฟรีค่าแรกเข้าพร้อมรับโมเด็มฟรีหรือแลกซื้อ Wireless Router Modem ในราคา 1,500 บาท
ทั้งนี้ แคมเปญเน็ต ท็อป สปีดสามารถใช้ Peer-to-Peer ทั้งภายในและต่างประเทศได้ในช่วงเวลา 00.01-06.00 น.โดยมีการจำกัดความเร็วในการดาวน์โหลดไว้ไม่เกิน 512 Kbps สำหรับ International bandwidth และไม่เกิน 1 Mbps สำหรับ Domestic Bandwidth โดยมีพื้นที่ให้บริการทั่วประเทศและระยะทางไม่เกิน 1 กิโลเมตรจากจุดให้บริการทีโอที
นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการที่ขอใช้บริการแคมเปญนี้ในเขตพื้นที่ศรีราชาและพัทยาจะได้รับ บริการ ทีโอที ไว-ไฟฟรีวันละ 10 ชม.เป็นเวลาถึง 3 เดือน ทั้งนี้แคมเปญเน็ต ท็อป สปีดมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าครัวเรือนที่เน้นการใช้งานประเภทดาวน์โหลด รับส่งอีเมล ตั้งเป้าจนถึงสิ้นปีจะมียอดลูกค้าบรอดแบนด์ 1 ล้านราย
ทีโอทียังมีแผนจะให้บริการบรอดแบนด์ เข้าไปยังกลุ่มหอพักนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ โดยเริ่มนำร่องไปแล้วที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือรวมถึงการ เข้าไปติดตั้งเครือข่ายไว-ไฟให้บริการตามเมืองท่องเที่ยวต่างๆ รวมทั้งยังได้รับความร่วมมือจากปลัดกระทรวงมหาดไทย นายวิชัย ศรีขวัญ ที่เป็นกรรมการบอร์ดทีโอทีจะให้ทีโอทีเข้าไปให้บริการอินเทอร์เน็ตร่วมกับ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น และทีโอทียังมีแผนเข้าไปให้บริการกับหน่วยงานราชการ กระทรวงต่างๆ
นอกจากนี้ ทีโอทียังปรับเปลี่ยนทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้นด้วยการส่งพนักงานเข้าไปเสนอ บริการให้ลูกค้าถึงหน้าบ้านเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งที่มีการทุ่มงบประชา สัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ เป็นจำนวนมาก แม้กระทั่งนายวรุธ สุวกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที ยังร่วมออกเดินตลาดกับพนักงาน ซึ่งหาได้ยากมากที่เบอร์หนึ่งของรัฐวิสาหกิจทุ่มสุดตัวขนาดนี้ โดยนายวรุธกล่าวว่า
‘ไม่ต้องกลัวว่าเสียหน้าหรือเสียภาพลักษณ์ ขอเพียงให้ขายบริการบรอดแบนด์ทีโอทีได้ก็พอใจแล้ว’
ทั้งนี้ บอร์ดทีโอทีเชื่อว่าในส่วนของธุรกิจบรอดแบนด์ จะกลายเป็นรายได้หลักของทีโอทีในอนาคต เนื่องจากมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยในครึ่งปีแรกมีอัตราเติบโตมากถึง 47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาหรือคิดเป็นรายได้ 2,700 ล้านบาท และทีโอทีเตรียมงบลงทุนสำหรับบรอดแบนด์ตั้งแต่ครึ่งปีหลังนี้ถึงสิงหาคม 2553 อีก 3,400 ล้านบาทโดยเป็นงบการลงทุนในบรอดแบนด์ 1 ล้านพอร์ต
‘ในการประชุมบอร์ดทีโอทีเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ยังได้ประเมินผลการทำงานของกรรมการผู้จัดการใหญ่ ซึ่งถือว่าผ่านการประเมิน ถึงแม้รายได้พลาดเป้า แต่เป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจกับการเมืองไม่นิ่ง ซึ่งการประเมินผลบอร์ดไม่ได้ดูแค่เรื่องรายได้อย่างเดียว เพราะหากมองในด้านกำไร ทีโอทียังกำไรถึง 3,600 ล้านบาท’ นายธีรวุฒิกล่าว
ข่าว : CyberBiz
ปล. ใครว่าป้า 2 คนนี้ แก่มั่ง