เสนอกำหนดเพดานราคาSMSรายการข่าว
สบท.ประกาศภารกิจหลักปีหน้า ปราบโทรฯขายสินค้าโดยตรงผ่านมือถือ พร้อมกำหนดเพดานค่าส่งเอสเอ็มเอสเข้ารายการสูงสุด 6 บาท
นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินงานของ สบท.ในปีหน้า จะเสนอให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) ออกระเบียบหรือประกาศข้อตกลงร่วมกับบริษัทเอกชนผู้ให้บริการกิจการโทรคมนาคม กำหนดค่าบริการส่งเอสเอ็มเอสโทรศัพท์มือถือ เช่น ส่งเอสเอ็มเอสแสดงความเห็นในรายการข่าว อัตราสูงสุดครั้งละ 6 บาท เป็นต้น รวมทั้งเสนอให้มีการจดทะเบียนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อรับบริการเอสเอ็มเอส จากเจ้าของเนื้อหา เช่น การส่งคลิปวิดีโอวาบหวิวต้องส่งให้ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
รวมทั้งจะเสนอต่อ กทช. กำหนดให้เอสเอ็มเอสเป็นบริการพื้นฐานสำหรับคนหูหนวกและเป็นใบ้ โดยไม่กำหนดจำนวนตัวอักษรในการส่ง ปัจจุบันกำหนดตัวอักษรข้อความครั้งละ 75 ตัวอักษร ทำให้คนหูหนวกและเป็นใบ้ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก เพราะต้องส่งหลายครั้ง
ส่วนการขายสินค้าโดยโทรฯเข้าเลขหมายโทรศัพท์มือถือ เช่น ขายประกัน ขายสินค้าและบริการต่างๆ นั้น ผอ.สบร.ระบุว่า ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายควบคุมดูแล โดยจะเสนอต่อ กทช. เพื่อจัดทำกฎหมายกลางกำหนดมาตรการในการขายสินค้าโดยตรงผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ต้องหารือกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อหาผู้รับผิดชอบ ในต่างประเทศใช้วิธีลงทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ไม่ขอรับบริการขาย สินค้าโดยตรงทางโทรศัพท์มือถือ หากผู้ให้บริการสินค้าที่จะขายสินค้าผ่านโทรศัพท์มือถือต้องดูตรวจสอบข้อมูล ก่อนจะโทรศัพท์เสนอขายสินค้าและบริการ
“ไทยยังไม่มีกฎหมายกำกับและเอาผิดผู้ที่โทรศัพท์มาขายสินค้าทางมือถือ เจ้าของเลขหมายที่รำคาญทำได้เพียง โทรฯแจ้งผู้ให้บริการเครือข่ายเพื่อบล็อกเลขหมาย แต่ก็มีปัญหาว่าผู้ให้บริการขายสินค้าจะเปลี่ยนเบอร์ในการโทรฯมาหาเรื่อยๆ ทำให้ไม่สามารถบล็อกได้ ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดตอนนี้คือเจ้าของเลขหมายโทรศัพท์มือถือต้องจำเบอร์ ที่โทรมากวนใจเอง โดยไม่ต้องรับสาย หากเผลอรับสายก็ให้รีบตัดบทสนทนาและวางสาย” นพ.ประวิทย์ กล่าวและว่า กรณีนี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ผู้ให้บริการเครือข่ายนำข้อมูลเลขหมายโทรศัพท์ในเครือข่ายไปขายให้กับผู้ให้ บริการเนื้อหาอื่นๆ เนื่องจากเมื่อมีการสอบถามไปยังผู้ให้บริการเครือข่ายก็ได้รับการยืนยันว่า ไม่มีการขายข้อมูลเลขหมายโทรศัพท์ของลูกค้าแต่อย่างใด พร้อมอ้างว่าอาจเป็นเพราะเจ้าของเลขหมายไปลงทะเบียนเพื่อประชุม สัมมนา หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ทำให้ข้อมูลเผยแพร่จากส่วนนั้นก็เป็นได้
ข่าว : เดลินิวส์ (copy มาจาก http://www.adslthailand.com/board/showthread.php?t=14939)