หลายท่านในนี้คิดว่าต่อไปในอนาคต ผู้ประกอบการธุกิจโฮสติ้งที่เป็นบุคคลธรรมดาในประเทศไทยมีโอกาสจะหายไปจากธุรกิจนี้หรือไม่ ถ้ามี คิดว่าอะไรคือสาเหตุ ข้อกฎหมายในอนาคต เงินทุน เทคโนโลยี จะมีส่วนมั้ย อยากทราบความเห็นครับ.
แข่งกันขายกันถูกเน้นปริมาณ
มีโอกาสครับ
ต้องยอมรับว่า ต้นทุนทางเทคโนโลยีถูกลง และทางกลับ ต้นทุนการดูแลทั้งจากผู้ให้บริการโดเมน ค่าครองชีพสูงขึ้น ค่าเงิน หรืออื่นๆ ที่เป็นปัจจัยเพิ่มขึ้นอธิเช่น คนเริ่มหาฟรีโฮสมากขึ้น หรือเลิกทำเว็บไป เลือกที่จะใช้จ่ายเงินกันระมัดระวังมากขึ้น คนมีความรู้มากขึ้น หาผู้ให้บริการต่างประเทศมากขึ้นในหลายปัจจัยครับ เช่น ผลต่อ SEO
ถึงแม้เทคโนโลยีถูกลง แต่บ้านเราก็ยังหายากที่จะลงทุน ระบบขนาดใหญ่ครับ เพราะรวมกันแล้ว หลายล้านบาท หากจะให้ได้ระบบดังต่างประเทศ
ที่ขายในราคาถูกแต่เน้นปริมาณ แทน ทั้งนี้ หากเน้นปริมาณสิ่งที่จะตามมาเป็นเงาตามตัวคือ การ support ที่มากขึ้นครับ
รวมถึงปัจจัยจากผู้ให้บริการรายใหม่ ที่เพิ่มเข้ามาทำระบบ ตรงนี้ ในการลงทุนไม่ไม่มาก แต่ปล่อยปริมาณที่มาก
ในกรณีที่ระบบรับไม่ไหว หรือ ดูแลไม่ไหว ย่อมส่งผลให้ราคาทั้งระบบ ลดลงเล็กน้อยครับ และเกิดความลังเลต่อผู้ใช้มากขึ้น
หากรับไหว ก็สบายไปครับ หากรับไม่ไหว หรือไม่คุ้มทุนก็จะเกิด จุดขาดทุนครับ ซึ่งส่งผลให้ หลายท่าน ออกสู่ธุรกิจอื่นๆ แทน
หรือเลิกทำลงไป
แต่โดยรวมการตัดสินใจซื้อของผู้ซื้อ ใช่ว่าถูก จะเลือกซื้อเสมอไป และกลับกันใช่ว่าแพงจะซื้อเสมอไปครับ
สิ่งต่างๆ ที่ยังแข่งขันกันคือการดูแล เอาใจในทุกด้านงานบริการครับ ซึ้งเป็นจุดแข็ง ทำให้หลายๆ ผู้ให้บริการยังขายในราคาที่สูง
แต่ก็ยังมีลูกค้า สนับสนุนและอยู่ได้สบายๆ ครับ
สรุปง่ายๆ คือธุรกิจโฮสติ้งที่เป้นบุคคลธรรมดา อาจจะได้โตขึ้น เป็นนิติ หรือ หายไปครับ
ดังเช่นต่างประเทศ การลงทุนทำ ธุรกิจตัวนี้ต้องใช้เงินเยอะ และทำตลาด เน้นปริมาณแทนเพื่อหาจุดคุ้มทุนครับ
บุคคลทั่วไป ก็ไม่สามารถเข้ามาทำธุรกิจนี้ได้ เนื่องจากแข่งในราคาที่ Bid สู้ไม่ได้นั้นเองครับ
Good luck ครับ แชร์มุมมองนึง
ราคาที่ผมตั้งก็คิดจากต้นทุนนั่นแหละครับ ทุกวันนี้ผมยังขายโดเมนราคา 399 บาทเลย คนอื่นไป 2xx กันแล้วเหอะๆๆ
หากถามว่าด้วยเหตุมีกฎหมายเข้ามาเพิ่ม… หากเป็นเรื่องนี้ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีมากกว่าไม่ดีนะครับ เพียงแค่เราปรับตัวปรับรูปแบบระบบงานให้รองรับกับสิ่งใหม่ๆและกฎหมาย
ผมว่าจะเป็นเรื่องที่ลูกค้า…น่าจะสบายใจมากกว่าหนักใจนะครับ
หรือแค่คิดว่าหาสินค้าราคาถูกๆอันนั้นก็อีก segment หนึ่งครับ ก็คงจะได้รับผลกระทบอาทิเช่น…ใช้งานกันไปไม่ได้นาน หรือโดนปิด หรือมีภาระขาดทุนจนต้องปิดตัวเองไป
สำหรับลูกค้าที่ใช้งานกันอย่างจริงจังและระยะๆ มักจะเลือกที่จะใช้งานบริการมากกว่าเลือกด้านราคาครับ
สรุปแล้วขึ้นอยู่ว่า…ใครรับภาระได้ยาวนานกว่า มีการปรับปรุงโครงสร้างได้ยิดหยุ่นกว่า มีสภาพคล่องทางการเงินมากกว่า และมีประสบการณ์เชิงเทคนิคที่ชำนาญและแก้ปัญหาได้มากกว่า เรื่องที่พูดมานี้ก็จะทำยืนอยู่ในเวทีการค้าในธุรกิจนี้ได้…
แต่สิ่งหนึ่งที่คนทำธุรกิจนี้ (หรือนั้นๆ) มีหัวใจรักในงานบริการนี้อย่างล้นใจหรือเปล่า แค่เราไม่ถอดใจ… ก็คงจะผ่านความยากลำบากต่างๆนาๆไปได้ในที่สุดครับ.
ก็อยู่ได้เรื่อย ๆ นะครับ อยู่ที่คุณภาพมากกว่า ถ้าดี คนมาใช้ก็บอกต่อ
ของผม ไม่ได้ทำตลาดอะไรเลย แต่เดือน ๆ ก็มีลูกค้าใหม่ หลายราย
อยู่ได้ครับ ไม่ได้เยอะ แต่ก็เป็นรายได้เสริมอีกทางนึง
[quote author=212cafe.com link=topic=13598.msg132826#msg132826 date=1221763209]
ก็อยู่ได้เรื่อย ๆ นะครับ อยู่ที่คุณภาพมากกว่า ถ้าดี คนมาใช้ก็บอกต่อ
ของผม ไม่ได้ทำตลาดอะไรเลย แต่เดือน ๆ ก็มีลูกค้าใหม่ หลายราย
อยู่ได้ครับ ไม่ได้เยอะ แต่ก็เป็นรายได้เสริมอีกทางนึง
ผมก็อาศัยปากต่อปากเหมือนกัน
[quote author=adisorn link=topic=13598.msg132914#msg132914 date=1221805639]
ผมก็อาศัยปากต่อปากเหมือนกัน
[quote author=pizzaman link=topic=13598.msg132936#msg132936 date=1221814164]
mouth to mouth เหรอครับ
[quote author=Freedomlover link=topic=13598.msg132939#msg132939 date=1221814676]
เป็นวิธีหาลูกค้า ที่ สยิวกิ้ว น่าดู
ขอบคุณมากครับทุกท่านที่ร่วมแสดงความเห็น
ตอนนี้ตนทุนทุกอย่างเพิ่มขึ้น ผมเองก็เลือกแนวทางลดต้นทุนก่อน
จัดสรรค์พื้นที่ เครื่อง ตู้ใหม่ อะไรที่ไม่จำเป็นก็ตัดออกไป Cost
ที่น่าจะลดลงได้ก็เลือกที่จะลดก่อน
เช่นเดียวกับเพื่อนๆ หลายคนที่ตอนนี้เองก็โดนขึ้นค่าเช่า Rack
กันไปตามๆ กัน ทาง ISP เองก็น่าจะโดนมาเหมือนกัน แต่ในมุม
ของผมแล้ว การที่ไม่สามารถต่อรองอะไรได้เลย จากกรณีของ
PACNET / ISSP ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับการเช่า CAT-IDC
สำหรับ ISSP เองผมอยุ่มาด้วยต้นทุนต่ำ และอยุ่กันมานาน
ผ่าน(idc)ร้อน / หนาว มาจนถึงทุกวันนี้มันไม่ค่อยจะร้อนแล้ว
ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ ISSP ทุกคนที่คอยช่วยเหลือเป็นอย่างดี
สรุป. ตอนนี้หาลูกค้าเพิ่มได้น้อยสำหรับผม ทางเลือกก็เลยต้อง
ลดต้นทุนในส่วนนี้ไปครับ หนี้ค้างชำระของลุกค้าก็ตามเช็คให้รอบคอบขึ้น
ติดตามหนี้ และดำเนินการชัดเจน ช่วยได้เยอะมากครับ
ปล. ไม่ได้เกี่ยวกะกระทุ็เลย ฮ่ะๆ
ปุ๊ก
อนาคตเป็นไรไม่รู้เหมือนกันครับ… แต่จะไม่ขอกลับมาใช้งานบริการของ Pacnet เจ้านี้อีกต่อไปครับ เพราะทำผมเสียฐานลูกค้างานหลักๆไปด้วย Marketing อันห่วยแตกและปัญญานิ่มของเจ้าหน้าหน้าที่เทคนิค
ปล. เออ…ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกระทู้เลยเหมือนกันนะเนี้ย :blink:
มีเกิด ก็ต้องมีดับ
มีไปก็มีมา
[quote author=pizzaman link=topic=13598.msg132936#msg132936 date=1221814164]
mouth to mouth เหรอครับ