ขอบคุณครับ
SAS จะเป็นคำตอบไดไ้หมครับ + RAID 0 เอาดีก็ 10 แล้วแต่งบประมาณครับ ><"
ผมมองว่า ถ้าไป SSD ยอมรับความเสี่ยงตรงนั้นไม่ได้ ก็ไม่ได้มีทางเลือกอะไรมากครับ
[B]เน้นเพิ่มจำนวน HDD เพื่อเพิ่มความเร็ว และ หายไปครึ่งเพื่อลดความเสี่ยง[/B]
ยิ่งใส่ HDD เยอะ ก็ยิ่งดีครับ
เพราะฉะนั้น คำตอบตรงนี้ ส่วนตัวมองว่าอยู่ที่เงินในกระเป๋าครับ ฮ่าๆๆๆ
ส่วนเรื่องจ่ายเงิน อยากจ่ายหลายรอบ ก็ 1u ใส่ HDD 10 ลูก HDD ก็แพงหน่อย แต่ก็ได้ความเร็ว หรือ 4 ลูก SAS ขนาด 3.5 ความเร็วก็ลดไป (ส่วนตัวใส่ลูกเล็กมาหลายเครื่องก็ไม่ค่อยพังนะ(เพื่อไว้เป็นข้อมูล))
2 U HDD 12 ลูก ราคาก็เบาหน่อย แต่คาวางแพงขึ้นหน่อย หรือ 24 ลูก ก็เลือกเอา
ลืมไปอีกอย่าง : อย่าลืมตอนนี้คุณก็ใช้ SSD อยู่นะ และคนที่ใช้ SAS พังก็มีถมไป
จะว่าไปก่อนจะทำไรก็ไปทำบุญหน่อยนะครับ ฮ่าๆๆๆ เพื่อดวงที่ดี เอิ๊กๆๆ
แต่ทั้งหมดนี้ ราคาไม่น่าต่ำกว่า 100k นะ แหะๆๆ แต่ได้มาคิดว่าคุ้มนะครับ
ถ้างบประมาณไม่จำกัด ผมก็แนะนำ 2U แล้วค่อยๆ เพิ่ม HDD เอาก็ได้ครับ เพราะอย่างไง ถ้าครั้งแรก ใส่ 10 ลูก ก็เร็วกกว่าที่ใช้งานอยู่ละ (1 SSD)
เฉพาะฉะนั้น อยากจ่ายกี่ครั้งก็ตามนั้นเลยครับ ^ ^ ทำงานใหญ่ใจต้องกล้า ฮ่าๆๆ
ต้องบอกว่า prepare for worst ครับ ทุกอย่างมีโอกาสพังหมด ทั้ง HDD, SSD หรือแม้กระทั่งตัว Server เอง
แต่ว่าอุปกรณ์อื่นๆ แค่พังก็เปลี่ยน แต่สำหรับ Storage มันไม่ใช่ เพราะว่าข้อมูลข้างในเนี่ยแหละ มูลค่าสูงกว่าตัว HDD เองซะอีก
SSD RAID 1 ผมมองว่าไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ ส่วนตัวนะครับ เพราะว่าถ้าคิดตามหลักการแล้ว เวลาพัง มันน่าจะพังเกือบจะพร้อมกัน เพราะว่า SSD มันพังเพราะการเขียนอยู่ละ (P/E Cycle ตามที่เคยกล่าวไป เรื่อง endurance) แต่ผมยังไม่มีประสบการณ์ SSD พังนะครับ คือเท่าที่อ่านใน document ของ JEDEC มันจะมีข้อกำหนดอยู่ว่า SSD ต้องสามารถอ่านข้อมูลออกมาได้ หลังจากที่ P/E Cycle หมดไปแล้ว อย่างน้อย 1 ปี ดังนั้น ถ้า NAND พัง ก็มีเวลาอีก 1 ปีในการเอา SSD อีกลูกมาดึงข้อมูลออก แต่ถ้าบอร์ดพังนี่ไม่รู้ว่าแค่เปลี่ยนบอร์ดจะช่วยได้รึเปล่า 555
เรื่อง HDD เล็กๆ หลายๆลูกอันนี้เห็นด้วยนะครับ แต่มันติดอยู่ที่ว่าต้นทุนของเราไม่ได้มีแค่นี้ มันมีเรื่องของพื้นที่มาเกี่ยวข้องด้วยครับ
ครับผมขอบคุณมากครับผมสำหรับ ข้อมูล
แต่ตอนนี้เมื่อวันก่อนผม ติดตั่งไปแล้วครับ ใช้ raid 10 ด้วย SSD 4 ตัว (samsung 850 pro)
ยังไม่รู้ผลจะออกมาเป็นอย่างไร (ยังไม่ได้ไปวาง idc)
ถ้าปกติไม่ได้ใช้ RAID ลองใช้เป็น RAID 5 ก่อนกะได้นะครับ อย่างไงก็ไวกว่าเก่าอยุ่ 2 เท่าได้
หรือถ้าไม่ได้ใช้พื้นที่มากก็ RAID 10 นั้นแหละครับ ดีละ ^ ^
ขอบพระคุณครับ กับอีก 1 คำตอบ
ส่วนเนื้อที่นั้นผมใช้ไม่เกิน 100 GB ก็เลยลองเลือก raid 10 ssd 4 ตัวก่อนครับ
บางท่านอาจยังไม่ทราบ ว่าหากการ์ด Raid บน Server พัง หาการ์ดใหม่ยี่ห้อเดียวกันรุ่นเดียวกันมาใส่แทน สามารถวิ่งได้ต่อ (เปลี่ยนแต่การ์ด อย่าสลับตำแหน่งหรือยุ่งเกี่ยวกับ HDD) ทาง Engineer เขายืนยันกับผมนะ (ส่วนตัวผมยังไม่มีประสบการณ์ตรง) ถ้าท่านกลัวก็ซื้อ hot spare ใจถึงก็จัดไป 2 ก้อน ไม่ต้องห่วงใยหรือกังวล
****ของผมก็ค่อยขยายสเกลไปเช่นกัน ใจถึงแต่เงินหมด 5555+++
ปัจจุบัของผมใช้ Storage +FC+Server เบิดบริการสำหรับลูกค้า Enterprise (ชุดแรกถูกเหมาไปด้วยสัญญา 3 ปี)
สั่งชุดที่ 2 มี server IBM ไป 3 เครื่อง + Storage (FC) ยี่ห้อ Dell จะเอามาบริการสมาชิกใน THT (รับจำนวนจำกัด) บริการ Package แบบ Enterprise รองรับ HA เหมาะสำหรับลูกค้าองค์กร ให้บริการ Virtual mart (ร้านค้าออนไลน์) mail Hosting งดบริการ Web Hosting , วิจารณ์กลุ่มการเมือง เนื้อหาขัดต่อกฏหมายศีลธรรม ฯ เปิดบริการต้นมีนาคมครับ ราคาไม่แพงแม้ทรัพยากรณ์โดยรวมของระบบจะถูกควบคุมการใช้เพียงแค่ 50-60% (ทำ HA) ให้บริการจำกัด หมดแล้วหมดเลย (รอ Phase III เปลี่ยน Storage HP 24xSSD SAS-3 12Gbps FC 16G ครึงปีหลัง) รอคำชี้แนะด้วยเช่นกันครับ
ชุดใหญ่กันเลยทีเดียว รอฟังคำชี้แนะด้วยคนครับ
จากเคส panya crisis นั่นก็เหมือน raid controller พัง เหมือนกันนะครับ
สุดท้ายก็เอาข้อมูลกลับมาไม่ได้ ต้องไปเอาของที่ backup ไว้ 7 วันก่อนมีปัญหามาใช้แทน
ส่วนเรื่อง DB ที่เคยใช้งานกับ SQL server บน DB ระดับ 100GB จากเดิมที่ขึ้นระบบตอนแรกใช้ 76 GB x 4 ทำ raid 5 มีปัญหาบ่อยมากเวลาคิวรี่
ตอนหลังอัพเกรดไปใช้ 146GB x 6 raid 10 ชีวิตดีขึ้นเยอะเลยครับ
ขนาดตอน backup ของ raid 5 ยังได้ประมาณ 50MB/s พอมาใช้ raid 10 ทะลุ 120MB/s กันเลย:beautifu2:
ขอบคุณมากครับ เป็นประโชยน์มากถึงมากที่สุดเลยครับ