ช่วยอธิบายให้เข้าใจทีคับ :nuts:
เว็บไซต์ของกรมปศุศัตว์มีข้อมูลครับ
http://www.dld.go.th/ict/article/general/gen08.html
ที่มา: http://www.google.co.th/search?hl=th&q=ima…%E0%B8%AD&meta=
SMTP , POP3 , IMAP
เป็นเกี่ยว กับเมล์ Server ครับ
SMTP = ใช้ส่ง
POP3 = รับ
IMAP = ทำงานบนเว็บ
SMTP , POP3 , IMAP
เป็นเกี่ยว กับเมล์ Server ครับ
SMTP = ใช้ส่ง
POP3 = รับ
IMAP = ทำงานบนเว็บ
แก้ไขนิดนึงครับ และขออธิบายเป็นภาษาชาวบ้านนะครับ
SMTP = รับ-ส่งเมล์
POP3 = เปิดอ่านเมล์โดยดึงเมล์จากเครื่อง Server ออกมาเลย
IMAP = เปิดอ่านเมล์โดยเมล์ยังอยู่บน Server ครับ
คนเข้าใจผิดแบบข้างบนนี้เยอะครับ เลยต้องอธิบายหน่อย
เว็บไซต์ของกรมปศุศัตว์มีข้อมูลครับ
http://www.dld.go.th/ict/article/general/gen08.html
ที่มา: http://www.google.co.th/search?hl=th&q=ima…%E0%B8%AD&meta=
จะเห็นได้ว่า กระทรวงอื่นๆ นำหน้าด้านเทคโนโลยี ไปมากแล้ว ฮ่ะๆ เว้นแต่กระทรวงไอ…แค่กๆ … หน้า Block Web ยังใช้ Font Tahoma แบบ Size ใหญ่ๆ BG สี เทาเขียว อยู่เลย :lol:
แทนที่จะ Design ให้ดูดีกว่าเว็บที่ไปบล็อก ฮ่ะๆ
IMAP = เปิดอ่านเมล์โดยเมล์ยังอยู่บน Server
แล้วถ้าใช้ Squirrel Mail ถือว่าใช้ IMAP รึเปล่าครับ
อันข้างบนเป็น Web-based Email
IMAP คล้ายๆ POP3
แต่ว่า POP3 จะดูดเมลล์ จากเว็บเข้าเครื่องเรา
แต่ IMAP จะเป็นแบบเหมือน Remote ไรปามานเนี้ย
ถ้าผิดขอโทษด้วยนะคับ
E-Mail แบบ IMAP
IMAP : Internet Message Access Protocal (http://www.imap.org)
It is a method of accessing electronic mail or bulletin board messages that are kept on a (possibly shared) mail server. In other words, it permits a “client” email program to access remote message stores as if they were local. For example, email stored on an IMAP server can be manipulated from a desktop computer at home, a workstation at the office, and a notebook computer while traveling, without the need to transfer messages or files back and forth between these computers. IMAP’s ability to access messages (both new and saved) from more than one computer has become extremely important as reliance on electronic messaging and use of multiple computers increase, but this functionality cannot be taken for granted: the widely used Post Office Protocol (POP) works best when one has only a single computer, since it was designed to support “offline” message access, wherein messages are downloaded and then deleted from the mail server. This mode of access is not compatible with access from multiple computers since it tends to sprinkle messages across all of the computers used for mail access. Thus, unless all of those machines share a common file system, the offline mode of access that POP was designed to support effectively ties the user to one computer for message storage and manipulation.
Key goals for IMAP include:
- Be fully compatible with Internet messaging standards, e.g. MIME.
- Allow message access and management from more than one computer.
- Allow access without reliance on less efficient file access protocols.
- Provide support for “online”, “offline”, and “disconnected” access modes *
- Support for concurrent access to shared mailboxes
- Client software needs no knowledge about the server’s file store format.
เป็นบริการ Email ที่ทำให้การเปิด mail คล้ายกับ Web based mail คือต้องใช้โปรแกรมเฉพาะ เรียก mail มาอ่าน เมื่อปิดโปรแกรมแล้วจะไม่ ทิ้งอะไรไว้ในเครื่อง ให้ใครมาแอบเปิดดูได้เหมือน POP ผู้ใช้สามารถเปิด email จากที่ใดก็ได้ ด้วยโปรแกรมสำหรับอ่าน mail จาก imap server สำหรับโปรแกรมที่ใช้อ่าน mail จาก imap server ที่พอรู้จักเขียนโดยอาจารย์ Tommy Roberson แห่ง Baylor university เพราะผมเคยไปดูงานที่นั่นเดือนครึ่ง สามารถ download เวอร์ชั่นล่าสุดได้ที่ http://www.baylor.edu/~Tommy_Roberson/Mail_Drop_95.html
เท่าที่ทราบ ยังไม่เห็น server ใด ให้บริการ imap ฟรี กับคนทั่วไป แต่เห็นเฉพาะในบริษัท สถาบัน หรือองค์กรเท่านั้น และ IMAP server ก็มักที่จะเป็น UNIX หรือ LINUX เพราะไม่ต้องติดตั้งอะไรมาก ก็ใช้ให้บริการได้เลย เพราะเป็นคุณสมบัติพื้นฐานอยู่แล้ว
คัดลอกมาจาก thaiall.com
อีกโปรโตคอลหนึ่งที่ใช้ส่งอีเมล์ ซึ่งมีประสิทธิภาพและสามารถใช้งานได้หลากหลายแบบมากกว่า POP คือโปรโตคอล IMAP ซึ่งถูกพัฒนาโดยมหาวิทยาลัย Standford เมื่อปี ค.ศ. 1986 IMAP ได้รับการพัฒนามาหลายเวอร์ชัน จนถึงปัจจุบันเป็นเวอร์ชัน 4 หรือเรียกกันทั่วไปว่า IMAP 4 จุดเด่นของโปรโตคอล IMAP ก็คือ ผู้ใช้สามารถเลือกดาวน์โหลดเฉพาะอีเมล์ที่ต้องการได้ โดยไม่จำเป็นต้องโหลดมาทั้งหมดเหมือนโปรโตคอล POP3 นอกจากนี้ IMAP ยังสามารถรองรับการทำงานได้ทั้งแบบ Offline, Online และแบบ Disconnected อีกด้วย ดังนั้นประโยชน์ที่ได้จาก IMAP ก็คือ หากผู้ใช้มีอีเมล์แอดเดรสเพียงชื่อเดียว แต่มีเครื่องที่ใช้งานอยู่หลายเครื่องก็จะสามารถเลือกดาวน์โหลดเฉพาะอีเมล์ที่ต้องการมาเก็บไว้ที่เครื่องใดก็ได้ แต่ถ้าเป็น POP3 การดาวน์โหลดจะต้องทำพร้อมกันหมดทุกอีเมล์ ดังนั้น IMAP จึงเป็นโปรโตคอลที่สามารถทำงานกับสายสื่อสารที่มีความเร็วต่ำได้เป็นอย่างดี
การทำงานของ IMAP นี้เหมือนกับโปรโตคอลอื่น ๆ โดยทำงานร่วมกับ TCP ใช้พอร์ตหมายเลข 143 และแบ่งเป็นสถานะต่าง ๆ ออกเป็น 4 สถานะ โดยในแต่ละสถานะมีวัตถุประสงค์และคำสั่งที่ใช้งานแตกต่างกัน มีรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
1. สถานะก่อนอนุมัติ (Non-authenticated State) เป็นสถานะที่กำลังรอให้ไคลเอนต์ติดต่อเข้ามาเพื่อขออนุมัติใช้ ดังนั้นในด้านไคล์เอนต์จะต้องแจ้งชื่อ Login ของ Mail Server นั้นและ password ด้วยคำสั่ง LOGIN หรือ AUTHENTICATE ก่อนจึงจะเริ่มใช้งานได้ จากนั้นจึงเปลี่ยนไปเป็นสถานะได้รับการอนุมัติ
2. สถานะได้รับการอนุมัติ (Authenticated State) เป็นสถานะที่สามารถใช้คำสั่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเลือกและใช้งานเมล์บอกซ์ เช่น คำสั่ง SELECT เพื่อเลือกเมล์บอกซ์ หรือคำสั่ง CREATE เพื่อสร้างเมล์บอกซ์ เป็นต้น ในการเลือกเมล์บอกซ์ด้วยคำสั่ง SELECT หรือ EXAMINE นี้จะเปลี่ยนไปเป็นสถานะการเลือกเมล์บอกซ์
3. สถานะการเลือกเมล์บอกซ์ (Selected State) เป็นสถานะที่จะเข้าใช้งานอีเมล์ในแต่ละเมล์บอกซ์ หลังจากที่เลือกเมล์บอกซ์ไว้แล้วในสถานะก่อนหน้านี้
4. สถานะเลิกใช้งาน (Logout State) เมื่อต้องการเลิกใช้งาน หรือสิ้นสุดการทำงานของ IMAP จะเข้าสู่สถานะเลิกใช้งานโดยใช้คำสั่ง LOGOUT
จากสถานะทั้ง 4 นี้ไม่จำเป็นต้องทำงานเรียงต่อกันเสมอไปบางครั้งอาจจะมีการทำงาน ข้ามจากสถานะหนึ่งไปยังอีกสถานะหนึ่งได้ ตัวอย่างเช่น เมื่อเข้าสู่สถานะที่ได้รับการอนุมัติ (Authenticate State) และลบอีเมล์ที่ไม่ต้องการใช้งานทิ้งไปด้วยคำสั่ง DELETE แล้วและไม่ต้องการทำงานอื่น ๆ ต่อก็สามารถใช้คำสั่ง LOGOUT เพื่อเปลี่ยนสถานะเป็นเลิกการใช้งาน (Logout State) ได้โดยไม่จำเป็นต้องเข้าสู่สถานะการเลือกเมล์บอกซ์ (Selected State) ก่อน ซึ่งจะเรียกว่า Untagged response หรือ Asterisk tag (*) ส่วนคำตอบของเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นผลการทำงานตามคำสั่งต่าง ๆ ของไคลเอนต์นั้น จะประกอบด้วยคำสั่งทั้งหมด 5 แบบ คือ
OK แสดงว่าผลการทำงานของคำสั่งนั้น ๆสำเร็จและเรียบร้อยแล้ว
NO แสดงว่าการทำงานตามคำสั่งนั้นไม่สำเร็จ
BAD แสดงว่าคำสั่งที่ส่งไปไม่ถูกต้อง หรือมีพารามิเตอร์ไม่ถูกต้อง
PREAUTH แสดงว่าไม่จำเป็นต้องใช้คำสั่ง LOGIN เพราะเคยมีการสถานะที่ได้รับการอนุมัติ(Authenticated State) แล้ว
BYE แสดงว่าเซิร์ฟเวอร์ได้จบการทำงานไปแล้ว
คัดลอกมาจาก nextproject.net
หวังว่าคงพอเข้าใจนะครับ