ก่อนที่คุณจะกลายเป็นผู้กระทำผิด โทษสูงสุดปรับ 500,000 บาท

ผู้ให้บริการรายใดไม่รีบติดตั้งระบบนี้ ไม่ว่าจะเป็น
ร้านอินเทอร์เน็ต, ร้านอาหาร, โรงแรม, บริษัทห้างร้าน และ โรงเรียน
ท่านจะ เสี่ยงต่อการถูกตรวจค้นและมีโทษปรับสูงสุดถึง 500,000 บาทตามกฎหมาย

มาตรา ๒๖ ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูล จราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ ระบบ คอมพิวเตอร์ แต่ในกรณีจำเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผู้ให้บริการ ผู้ใดเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้เกินเก้าสิบ วันแต่ไม่เกินหนึ่งปีเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้

ผู้ให้บริการจะต้องเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้บริการ เท่าที่จำเป็นเพื่อให้สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการนับตั้งแต่เริ่มใช้บริการ และต้อง เก็บรักษาไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับตั้งแต่การใช้บริการสิ้นสุดลง ความในวรรคหนึ่งจะใช้กับผู้ให้บริการประเภทใด อย่างไร และเมื่อใด ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ผู้ให้บริการผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรานี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท

ข้อมูลสำคัญจาก
ประกาศกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
เรื่อง หลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ พ.ศ. ๒๕๕๐

“ผู้ให้บริการ” หมายความว่า
(๑) ผู้ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในนามของตนเองหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น

(๒) ผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น

“ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์” หมาย ความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงถึงแหล่งกำเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลา ชนิดของบริการ หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารของระบบ คอมพิวเตอร์นั้น

“ระบบคอมพิวเตอร์” หมาย ความว่า อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ที่เชื่อมการทำงานเข้าด้วยกันโดยได้มีการกำหนด คำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใด และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดย อัตโนมัติ
“ผู้ใช้บริการ” หมายความว่า ผู้ใช้บริการของผู้ให้บริการไม่ว่าต้องเสียค่าใช้บริการหรือไม่ก็ตาม

ข้อ ๘ การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ผู้ให้บริการต้องใช้วิธีการที่มั่นคงปลอดภัย ดังต่อไปนี้

(๑) เก็บในสื่อ (Media) ที่สามารถรักษาความครบถ้วนถูกต้องแท้จริง (Integrity) และระบุตัวบุคคล (Identification) ที่เข้าถึงสื่อดัง กล่าวได้

(๒) มีระบบการเก็บรักษาความลับของข้อมูลที่จัดเก็บ และ กำหนดชั้นความลับในการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว เพื่อรักษาความน่าเชื่อ ถือของข้อมูล และไม่ให้ผู้ดูแลระบบสามารถแก้ไขข้อมูลที่เก็บรักษาไว้

เช่น การเก็บไว้ใน Centralized Log Server หรือการทำ Data Archiving หรือทำ Data Hashing เป็นต้น เว้นแต่ ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องที่เจ้าของหรือผู้บริหารองค์กร กำหนดให้สามารถเข้า ถึงข้อมูลดังกล่าวได้
เช่น ผู้ตรวจสอบระบบสารสนเทศขององค์กร (IT Auditor) หรือบุคคลที่องค์กรมอบหมาย เป็นต้น รวมทั้ง พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้

(๓) จัดให้มีผู้มีหน้าที่ประสานงานและให้ข้อมูลกับพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่ง ได้รับการแต่งตั้งตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำ ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ เพื่อให้การส่งมอบข้อมูลนั้น เป็นไปด้วยความรวดเร็ว

(๔) ในการเก็บข้อมูลจราจรนั้น ต้องสามารถระบุรายละเอียดผู้ใช้บริการเป็นรายบุคคลได้(Identification and Authentication) เช่น ลักษณะ การใช้บริการ Proxy Server, Network AddressTranslation (NAT) หรือ Proxy Cache หรือ Cache Engine หรือบริการ Free Internet หรือ บริการ 1222 หรือ Wi-Fi Hotspot ต้องสามารถระบุตัวตนของผู้ใช้บริการเป็นรายบุคคลได้จริง

(๕) ในกรณีที่ผู้ให้บริการประเภทหนึ่งประเภทใด ในข้อ ๑ ถึงข้อ ๔ ข้างต้น ได้ ให้บริการในนามตนเอง แต่บริการดังกล่าวเป็น บริการที่ใช้ระบบของผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม เป็นเหตุให้ผู้ให้บริการในข้อ ๑ ถึงข้อ ๔ ไม่สามารถรู้ได้ว่า ผู้ใช้บริการที่เข้า มาในระบบนั้นเป็นใคร ผู้ให้บริการ เช่นว่านั้นต้องดำเนินการให้มี วิธีการระบุและยืนยันตัวบุคคล (Identification and Authentication)ของผู้ใช้บริการผ่านบริการของตนเองด้วย ข้อ ๙ เพื่อให้ข้อมูลจราจรมีความถูกต้องและนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง

ผู้ให้บริการต้องตั้งนาฬิกาของอุปกรณ์บริการทุกชนิดให้ตรงกับเวลาอ้างอิงสากล (Stratum 0) โดยผิดพลาดไม่เกิน ๑๐ มิลลิวินาที

http://203.149.32.15/iso/plawan-8.04tls-beta1.iso

http://www.plawan.com/

:slight_smile:

ก็เลยกลายเป็นว่า เป็น Software บังคับให้ใช้
ไม่เข้าใจจริงๆ

ปล.เอานาฬิกาข้อมือให้ตรงด้วยใหม

อ๋อ

ถ้าหน่วยงานผมเก็บ log อยู่แล้ว จำเป็นต้องติดตั้งเพิ่มไม๊ล่ะครับ
มันเป็นโปรแกรมช่วยอำนวยความสะดวกในการหาข้อมูลจาก log ที่มหาศาล หรือมีอะไรพิเศษเพิ่มอีกบ้างครับ

อืม มันมีอะไรดีกว่าโปรแกรมอื่นมั่งอ่ะครับ
แนะนำหน่อยจะดีมากเลยครับ :slight_smile:

“โปรแกรม Plawan Central Log พัฒนาต่อยอดแบบ Opensource โดย คุณโดม เจริญยศ
สามารถใช้งานได้แบบไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดไป และไม่จำกัดจำนวนเครื่องลูกข่ายด้วยตัวโปรแกรม”

หา link ของโปรแกรมตัวนี้ที่ Opensource ไม่เจอ…

ตามกฎ opensource ทุกโปรแกรม จำเป็นต้อง เผย source code ใช้หรือเปล่าครับ ข้องใจมานาน

open source มันก็แปลว่าการเปิดเผย source code อยู่แล้วนี่ครับ

ไม่รู้สิ…คนไทยชอบทำอะไรแปลกๆ “open source” ก็ open source หากจะไม่ open source ก็ระบุเป็น free license used. ก็จบครับ.

แย่จังเลย เห็นใจผู้บริการ
แบบนี้ก็แย่เลย -0-
เงื่อนไขเยอะอ่ะ= =

software ตัวนี้ดี แต่ เน้นให้บริการเฉพาะ กลุ่มคนทำร้านเน็ต ขนาดจัดงานสาธิตการใช้โปรแกรม ยังเปิดให้เฉพาะเจ้าของร้านเน็ตเท่านั้น คนทำโฮส อย่างพวกเรา ไม่มีสิทธิ์ได้ใช้

นั่นเลยครับ ที่คุณ ปรเมศเค้าตั้งใจครับ เพราะว่าในอดีตของเค้าเองก็เคยได้ข้องแวะกับกิจการร้านเน็ตนี้อยู่เหมือนกันครับ เค้าเลยได้มีโอกาสพัฒนาตัวนี้เลยทำให้มันสำเร็จออกมานั่นเองครับ

และเป้าหมายของเค้าคือกลุ่มคนทำร้านเน็ตจริงๆครับ เพราะว่าเค้าถือว่าเป็นกลุ่มคนที่ทำงานสุจริตแต่ได้รับผลกระทบโดยตรง

ใช้กับร้านเนตและองค์กรณ์ก็พอแล้วครับ คนทำโฮสจะเอามาทำไม log มีอยู่ในเครื่องอยู่แล้ว
แค่ตั้งเวลาให้ตรง แล้วก็เก็บไว้ให้ครบ 90 วัน หรือจะ copy ออกไปเก็บที่อื่นก็ไม่ได้ยากเลย

ตอนนี้ปัญหา ก็คือ จะต้ัองเก็บ Log อะไรบ้างครับ เพราะตรงนี้ไม่มีความชัดเจน … รบบ Windows ไม่มีปัญหา แต่ระบบ Unix มันจะมี Error Log ซึ่งมีขนาดใหญ่มากถึงระดับ GB ถ้าต้องเก็บด้วยก็คงจะไม่ไหว

ของค่ายนี้ไม่ค่อยมั่นใจเลย เดี๋ยวบอกเด็กฝึกงงานทำอีก :smash:
เรื่อง log เราเก็บแค่นี้พอมั้ยครับ(ผมคิดเองนะ ไม่ได้อ่านกฏหมาย)
เว็บไซต์ทั่วไปที่มีระบบโพส
1.ชื่อล๊อกอิน
2.ไอพี
3.เวลาโพสข้อความ
***ซึ่งมันก็มีระบบเก็บสถิติอยู่แล้วนี่ครับ

ปล.ส่วนร้านเน็ต หรือโฮสติ้ง อันนี้ผมไม่รู้อ่ะ ไม่ได้เกี่ยวข้อง :smash:

เว็บไซต์ทั่วไปที่มีระบบโพส
1.ชื่อล๊อกอิน
2.ไอพี
3.เวลาโพสข้อความ
***ซึ่งมันก็มีระบบเก็บสถิติอยู่แล้วนี่ครับ

ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่คิดว่าน่าจะพอนะ ขยายความข้อ 2 หน่อยว่า ถ้าจะให้ดี นอกจากเก็บ REMOTE_ADDR แล้วควร ดูว่ามาจาก proxy ด้วยหรือเปล่า ให้ใช้ตัวแปรพวก HTTP_X_FORWARDED_FOR

และเรื่องระบบเก็บสถิติบน server นั้นมันจะไม่มีบอกว่า user ที่ล๊อกอินเข้าเว็บไซต์ของคุณคือใคร จะรู้เพียงว่า เรียกเข้ามาจาก IP อะไร ถ้าเจ้าของเว็บไม่เก็น log ก็ยากที่จะตามตัวคนกระทำผิด ยิ่งกรณีใช้ IP ต่างประเทศ, เน็ตคาเฟ่ หรือ ในมหาลัย

ใช้ในร้านเน็ตไม่ได้ครับ - -’ ขาดระบบยืนยันตัวตน …

Oh my godzzzz