นักวิเคราะห์ระบุ เฉลี่ยความเสียหายของหนอนฯแต่ละตัวอยู่ที่ 2 ล้านเหรียญ
โดย ผู้จัดการออนไลน์
[b]ความเสียหายจากการหยุดชะงักของธุรกิจอันเป็นผลจากการอาละวาดของหนอนและไวรัสคอมพิวเตอร์ในแต่ละครั้งนั้น มีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 40 ล้านบาท) ตามการเปิดเผยของบริษัทอะเบอร์ดีน (Aberdeen) ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยชั้นนำของโลก[/b]
จากการสำรวจบริษัทจำนวน 162 แห่งพบว่า 84% ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ด้านอินเทอร์เน็ตซีเคียวริตี้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และแม้อัตราเฉลี่ยของการหยุดชะงักของธุรกิจจะอยู่ที่ 1 ครั้งต่อปี แต่ 15% ของผู้ถูกสำรวจระบุว่าธุรกิจของพวกเขาต้องติดขัดมากกว่า 7 ครั้งตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ตัวเลขทางการเงินในรายงานผลประกอบการชี้ให้เห็นว่าหลายบริษัทกำลังปัญหาในการดำเนินงาน ทำให้ผู้บริหารส่วนใหญ่ตัดสินใจใช้อินเทอร์เน็ตเป็นตัวช่วย เพื่อให้การทำงานมีสมรรถนะและประสิทธิภาพสูงขึ้น 75% ของผู้ถูกสำรวจบอกว่าจะขายและให้บริการหลังการขายผ่านออนไลน์มากขึ้น ขณะที่ 48% ว่าจะใช้ออนไลน์เป็นช่องทางสำหรับการกระจายและซัพพลายสินค้า
[color=purple]"การเอาอินเทอร์เน็ตมาใช้ในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น หมายความว่าปัญหาอินเทอร์เน็ตซีเคียวริตี้จะส่งผลกระทบต่อยอดรายได้ของธุรกิจรุนแรงขึ้นตามลำดับด้วย"[/color] จิม เฮอร์เลย์ (Jim Hurley) นักวิเคราะห์จากอะเบอร์ดีนกล่าว
อัตราการสูญเสียรายได้ต่อปีเฉลี่ยจะแปรตามขนาดของบริษัท คือ บริษัทที่มีรายได้เฉลี่ยต่อปีประมาณ 10 ล้านเหรียญ (ประมาณ 400 ล้านบาท) จะสูญเสียรายได้ประมาณ 6,700 เหรียญ (ประมาณ 270,000 บาท) ให้กับเหตุการณ์อินเทอร์เน็ตซีเคียวริตี้ ขณะที่บริษัทที่มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 30 พันล้านเหรียญ (ประมาณ 1,200 ล้านบาท) จะเสียรายได้ไปในเหตุการณ์ซีเคียวริตี้ประมาณ 20.1 ล้านเหรียญ (ประมาณ 815,000 ล้านบาท)
[b]สถิติในช่วงครึ่งแรกของปี 2004 พบว่ามีเหตุการณ์อินเทอร์เน็ตซีเคียวริตี้เพิ่มขึ้น ทั้งหนอน, ไวรัส, สปายแวร์, แฮกเกอร์, DoS (denial-of-service), การโจมตีระบบอีเมลและเว็บ และการโจมตีดาต้าและแอพพลิเคชั่น[/b]
หนอนประเภทแมสเมลลิ่งที่สร้างความเสียหายรุนแรงที่สุด ได้แก่ Bagle และ Sasser และ[color=red]ล่าสุดที่เพิ่งพบก็คือ ป็อปอัพโปรแกรมที่สามารถเก็บบันทึกการกดคีย์บอร์ดและขโมยพาสเวิร์ดได้[/color]
เรื่องที่ธุรกิจส่วนใหญ่ในปัจจุบันให้ความสำคัญและกังวลมากที่สุดคือการโจมตีผ่านอินเทอร์เน็ต, 80% ให้ความสำคัญกับเรื่องความล้าหลังของเครือข่าย, 86% ให้ความสำคัญกับเรื่องอินเทอร์เน็ตซีเคียวริตี้, 84% เน้นเกี่ยวกับระบบไอที, 85% เน้นเรื่องความมั่นคงของข้อมูล และ 71% ซีเรียสกับคน เพราะความผิดพลาดของคน อาจนำมาซึ่งการหยุดชะงักของธุรกิจได้