เมื่อกฎหมายไร้ผล สแปมเมลยังคงลอยนวล
โดย ผู้จัดการออนไลน์
สำนักข่าวไอดีจีรายงานการสำรวจสถิติสแปมเมลครั้งล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2004 ของ Commtouch Software ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์แอนตี้สแปมแห่งเมืองเนตแทนยา (Netanya) ประเทศอิสราเอล ที่ปรากฏว่า แม้จะมีการตื่นตัว ออกกฎหมายป้องกันสแปมเมลในสหรัฐฯ แต่ตัวเลขจำนวนอีเมลไม่ได้รับเชิญนั้นก็ยังเพิ่มขึ้นอีก 42 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเท่ากับเป็นตัวแสดงความล้มเหลวที่เกิดขึ้น
[b]จากที่สำรวจสถิติการส่งสแปมเมลเมื่อปลายปี 2003 พบว่ามีการส่งประมาณ 350,000 ฉบับต่อวัน จนกระทั่งปลายเดือนมิถุนายนที่เพิ่งผ่านมา เพิ่มขึ้นสูงถึง 500,000 ฉบับต่อวัน ตามข้อมูลจาก [Commtouch Software](http://www.commtouch.com/)[/b]
และเมื่อตรวจจับหาโฮสของเว็บไซต์ต้นตอที่ระบุไว้ในสแปมเมลพบว่า โดยรวมแล้วมี[color=red]ประมาณ 49 ประเทศ ประเทศที่เป็นโฮสของสแปมเมลมากที่สุดคือ จีน ซึ่งยังคงครองตำแหน่งแชมป์ชนะขาดลอย มีสัดส่วนถึง 73.5 เปอร์เซ็นต์[/color]
Commtouch กล่าวว่า รูปแบบของสแปมเมลที่ทำการสำรวจนั้นค่อนข้างตายตัว โดยมีการแทรกลิงค์ของเว็บไซต์เพื่อให้ยูสเซอร์สามารถเข้าไปดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ และสามารถซื้อสินค้าออนไลน์ได้ทันทีที่ต้องการ
[b]จากการสำรวจครั้งนี้ สถิติสแปมเมลที่น่าสนใจได้แก่[/b]
-- 56 เปอร์เซ็นต์ของสแปมเมลทั่วโลกมีต้นกำเนิดเดิมมาจากสหรัฐฯ นอกนั้นมาจากเกาหลีใต้10 เปอร์เซ็นต์ จีน 6.6 เปอร์เซ็นต์ บราซิล 3.4 เปอร์เซ็นต์ แคนนาดา 3 เปอร์เซ็นต์
-- จากการสำรวจเนื้อหาของสแปมเมลพบว่าประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์มุ่งขายผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ ส่วนอีก 14.1 เปอร์เซ็นต์นั้นเน้นขายไวอะกร้า (Viagra) อย่างเดียว
-- สแปมเมลนั้นเริ่มมีความซับซ้อนและตบตายูสเซอร์ได้มากขึ้น โดยมีการปรับให้ชื่อเรื่องของสแปมเมลจูงใจให้ยูสเซอร์หลงกล อยากเปิดดูเนื้อหาของสแปมเมลมากขึ้น เพราะจากการสำรวจพบว่า มีเพียง 21.6 เปอร์เซ็นต์ของสแปมเมลทั่วโลกที่ใช้การสุ่มตัวอักษรในส่วนหัวเรื่องหรือเนื้อความอย่างในอดีต
-- 5.8 ของสแปมเมลทั้งหมดเขียนด้วยภาษาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ
หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ออกกฎหมายเพื่อรับมือกับปัญหาสแปมเมล [color=blue]Controlling the Assault of Non-Solicited Pornography and Marketing Act หรือกฎการควบคุมโฆษณาและสื่อลามกที่ไม่พึงประสงค์[/color] มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2004 ที่ผ่านมา ข้อมูลจาก Commtouch ระบุว่า [color=red]มีสแปมเมลคุณภาพประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ปฏิบัติตามกฎนี้[/color]
ทุกอย่างย่อมต้องมีข้อยกเว้น ในเมื่อมีกฎหมายบังคับการสแปมเมล รัฐบาลสหรัฐฯจึงออกกฎหมายที่ผ่อนผันให้กับสแปมเมลคุณภาพ จากบริษัทที่ต้องการทำการตลาดโดยไม่ก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับยูสเซอร์ ล่าสุดกลุ่มต่อต้านอีเมลการค้าที่ไม่พึงประสงค์ Coalition Against Unsolicited Commercial E-Mail (CAUCE) ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ อุดรูรั่วในกฎหมายที่รองรับการส่งสแปมเมล หากยูสเซอร์แสดงความจำนงค์ลงทะเบียนไว้
"ในเมื่อหากไม่มีการลงทะเบียนระหว่างยูสเซอร์ และธุรกิจ ก็สามารถป้องกันสแปมเมลได้ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว เราจึงมองไม่เห็นเลยว่ากฎหมายนี้จะทำให้สแปมเมลจำนวนมหาศาล ที่มีการสำรวจพบว่า มีมากถึง 3 ใน 4 ของอีเมลที่ส่งในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จะลดลงในเร็วๆนี้ได้อย่างไร" ตัวแทนกลุ่ม CAUCE กล่าวกับผู้สื่อข่าวไอดีจี
