ก็หัวใจ ไม่มีข้ออ้างครับ

คุณว่าชีวิตคุณจะเป็นอย่างไรครับ ถ้าวันหนึ่ง คุณตื่นขึ้นมาและพบว่า คุณมีแขนข้างซ้ายข้างเดียว

มันไม่ใช่มุขตลกทำนองที่ว่า “แล้วคุณจะให้ผมมีแขนข้างซ้ายสองข้างหรือไง”

แต่ในความหมายของผม ผมหมายถึงคุณเหลือแขนซ้ายทางเดียวจริงๆ แขนขวาทั้งแขนที่คุณเคยมี…มันหายไป!!!

คุณคงเดาภาพตัวเองออก ว่าสภาพมันจะทุลักทุเลขนาดไหน

ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา บีบยาสีฟัน แปรงฟัน อาบน้ำติดกระดุมเสื้อ ใส่กางเกง เคียนเข็มขัด ใส่ถุงเท้า

ซักผ้า ถูบ้าน ล้างจาน กินข้าว เปลี่ยนหลอดไฟ ทำงานบ้าน

ขึ้นไปยืนบนรถเมล์ตอนคนแน่นๆ ยืนทรงตัวล้วงกระเป๋าเอาเงินจ่ายค่าโดยสาร

ด้วยมือเพียงข้างเดียว…!!!

ยังไม่รวมตอนไปเข้าไปทำธุระในห้องน้ำ จะใช้มือชำระก้นตนเองให้สะอาดท่าไหน

และถ้าคุณเริ่มปรับตัวได้กับการใช้ชีวิตที่เป็นคนพิการแขนข้างเดียวได้แล้ว

พระเจ้าก็ได้เพิ่มบททดสอบอีกบทหนึ่ง และเล่นตลกกับคุณครั้งใหญ่อีกครั้ง

ด้วยการทำให้คุณตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง

ขาที่คุณเคยมี มันกุดลงไปเหลือแต่ตอ

ดูแล้วคล้ายขนมปังฝรั่งเศสกรอบๆเพียงครึ่งชิ้นจากสะโพกของคุณ

คำถามเดิมครับ คุณคิดว่าชีวิตคุณมันจะเป็นอย่างไร…?

มันคงโหดร้ายน่าดูเลยนะครับ ถ้าคุณจะต้องเผชิญกับเรื่องสมมุตินี้

คุณคงหัวเราะโล่งใจว่ามันอาจจะไม่เกิดขึ้นกับคุณ

เพราะมีคำปลอบใจสารพัดให้สบายใจกับชีวิต

ที่ตั้งอยู่บนความไม่แน่ไม่นอน

เราเห็นเรื่องโหดร้ายอย่างนี้บ่อยๆโดยตั้งใจและบังเอิญผ่านทางทีวีบ้าง โทรทัศน์บ้าง

เพียงแต่มันเกิดขึ้นกับคนอื่นเท่านั้น

เรื่องราวที่ผมกำลังจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง

ของคนที่เกิดมาไม่มีทั้งแขนและขาตั้งแต่เกิด แต่ชีวิตกับพลิกเป็นนักสร้างแรงบันดาลใจ

เป็นผู้เดินทางไปทั่วโลกเพื่อฉุดผู้คนให้พ้นจากความหมดซึ่งกำลังใจ

ชื่อของเขาคือ kyle maynard

ไคล์ เมย์นาร์ด เป็นมนุษย์ที่พิการมาตั้งแต่เกิด เขาไม่มีแขนและขาเหมือนคนปรกติ

พ่อแม่ของเขาหัวใจแทบสลายเมื่อรู้ว่าลูกของเขาพิเศษกว่าคนอื่น

ทั้งๆที่แพทย์ก็ไม่เคยพบสิ่งผิดปรกติระหว่างตั้งครรถ์ใดๆเลย

ทั้งคู่ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะเลี้ยงดูไคล์ เพราะไคล์คือลูกสุดที่รักของพวกเขา

ไคล์ถูกสอนให้เขาสามารถพึ่งพาตัวเองได้ตั้งแต่เด็ก

เขาต้องทานข้าว อาบน้ำ แปรงฟัน แต่งตัวไปโรงเรียน

โกนหนวด เขียนหนังสือ เรียกได้ว่าไม่ว่าเรื่องอะไรที่คนอื่นทำได้

เขา…ก็ทำได้!!!

และตามประสาชาติมนุษย์ที่ชอบรู้เรื่องของคนอื่นมากกว่าเรื่องของตน

ของตาย… ไคล์ต้องผจญกับสายตาของผู้คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าปรกติมากกว่าเขา

มองเหมือนกับเขาเป็นตัวประหลาด

มองเหมือนกับเขาเป็นสิ่งแปลกปลอม

มองเหมือนกับเขา…ไม่ใช่คน

แล้วคำถามที่ผมกำลังตั้งข้อสงสัยกับเขาก็คือ

ทำไม เขาถึงมีความสุข…? ทำไมเขาถึงสู้…?

ทำไมเขายังอยากมีชีวิตอยู่…!?! และทำไมอีกหลายทำไม

ทั้งๆที่ในเมื่อเขาไม่มีและไม่สมประกอบ ทั้งๆที่เขาไม่ปรกติ

คำตอบเดียวที่ผมค้นพบจากชีวประวัติของเขาเป็นคำตอบง่ายๆ แต่ฟังแล้วยิ่งใหญ่โครต!!!

เขาตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองขาดอะไรเลย”

เป็นไงครับ คำตอบสั้นมาก แต่ความหมายมันสุดยอดจริงๆไหมครับ

ผมมองรูปของไคล์ เมย์นาร์ด ที่ผมได้โพสขึ้นไปบนเว็บ

น่าแปลก ไม่รู้ผมรู้สึกไปเองหรือเปล่า แต่ผมรู้สึกว่าเขาตัวใหญ่กว่าผมเหลือเกิน

อาจจะเป็นเพราะยกย่องในตัวเขา หรือภาพมันมีมุมมที่เหมาะเจาะก็ได้ที่ทำให้รู้สึกเช่นนั้น

แต่ใครเล่าจะสนใจ ในเมื่อความเป็นไคล์มันคือหัวใจที่เข็มแข็งยิ่งกว่าใครๆ

ไคล์มีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เขาพิเศษ เป็นความแตกต่างสไตล์ของไคล์

ผมไม่ได้หมายถึงความแตกต่างของสิ่งที่มันเป็นภายนอก แต่มันเป็นอะไรที่กลับกัน

ความแตกต่างของก้อนเนื้อที่อยู่ข้างในหน้าอกข้างซ้ายต่างหากที่แตกต่างกัน

ไคล์ไม่ยอมแพ้ปัญหาที่เขาไม่อาจจะควบคุมมันได้ เขาไม่หนีมัน

เขาเผชิญหน้ากับมัน ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ถูกเขาโค่นลงด้วยพลังใจอย่างกล้าหาญ

และผมเชื่อว่าความสามารถพิเศษของเขาสิ่งนี้ ใครๆก็สามารถมีได้

เมื่อผมรู้จักไคล์ผ่านชีวิตของเขา มันทำให้ผมอดย้อนคิดได้ถึงเวลาที่คนทั่วไปมีปัญหาและท้อแท้ไม่ได้

ว่าตกลงแล้วปัญหาที่คนเหล่านั้นเจอ…มันใหญ่? หรือใจของเขาเลือกที่จะไม่สู้กับมันเอง

ใช่แล้ว ถึงปัญหาจะเป็นยังไง ก็ช่างหัวมัน แขนยังมี ขายังมี จะต้องกลัวอะไรอีก

คนที่เขามีน้อยกว่าเรา เขายังไม่ยอมอ่อนแอ ไม่ยังไม่ยอมแพ้เลย แล้วทำไมเราต้องยอมแพ้ให้กับปัญหาง่ายๆด้วย

ลองดูนะครับ ถ้าผมหรือใครๆเจอปัญหาชีวิตอีกครั้งหนึ่ง ะลองถามตัวเองว่าถ้าเป็นไคล์ เขาจะทำอย่างไร?

ถ้าไคล์สู้ได้ แล้วทำไมคนปรกติครบๆที่กำลังเจอปัญหาชีวิตอยู่จะสู้เหมือนเขาไม่ได้บ้าง

แค่หัวใจ มันไม่มีข้ออ้างก็พอแล้วครับ

บทความจาก www.healingoftarot.com

Good topic

ไม่กล้าคิดเหมือนกัน แล้วแต่โชคชะตา