"สิ่งสำคัญที่สุด ในช่วงวิกฤตต้องคิดบวก"

“เหรียญมี 2 ด้าน ถ้าคุณรู้สึกแย่แสดงว่าคุณอยู่ในจุดที่ต่ำที่สุดแล้ว จากจุดนี้มีแต่ จะขึ้น”

ประโยคสั้นๆ ที่ “กิตติวัฒน์ มโนสุทธิ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อดามัส อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บอกกับพนักงานทุกคนในวันที่เขาก้าวเข้ามาเป็นผู้นำองค์กรที่กำลังจะล้มละลาย กระตุ้นให้ใจของมนุษย์เงินเดือนที่เคยห่อเหี่ยวรู้สึกพองโตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อฟื้นฟูองค์กรให้โลดแล่นบนถนนธุรกิจต่อไป

แต่การพูดอย่างเดียวนั้นคงไม่ทำให้พนักงานทุกคนเชื่อได้ ฉะนั้นจะต้องปฏิบัติให้ทุกคนเห็นด้วย

ความยิ่งใหญ่ของคอนเสิร์ต “เรน” และ “ดงบัง ชินกิ” ในรอบปีที่ผ่านมาถือเป็นบทพิสูจน์ความสามารถด้านการบริหารและการฟื้นฟูกำลังใจของพนักงานของผู้บริหารหนุ่มคนนี้ได้เป็นอย่างดี

แม้ว่า “กิตติวัฒน์” จะไม่เคยสัมผัสกับธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์มาก่อน แต่ด้วยประสบการณ์ที่เคยปลุกปั้นธุรกิจไอทีจนประสบความสำเร็จ ผนวกกับเป็นคนมองโลกในแง่บวก เขาจึงพาลูกทีมฝ่าคลื่นลูกใหญ่ที่ถาถ่มเข้าใส่ “อาร์ เค มีเดียฯ” ผู้ดำเนินธุรกิจวิทยุรายใหญ่จนหุ้นร่วงติดดินได้ภายช่วงสั้นๆ ด้วยการผ่าตัด แปลงโฉมธุรกิจจาก “อาร์ เค มีเดียฯ” สู่อาณาจักร “อดามัส อินคอร์ปอเรชั่น” ตัดทิ้งธุรกิจที่มีแววร่อแร่ แล้วแสวงหาธุรกิจใหม่ที่อนาคตสดใสเข้ามาดำเนินการแทน

“ช่วงแรกที่เข้ามาทุกอย่างอยู่ในสภาพที่แย่กว่าที่คิด สตางค์ไม่มี บริษัทขาดทุนเยอะ แต่ผมเชื่อว่าทุกอย่างมีทางออก สิ่งแรกที่ทำคือกวาดบ้าน ดูรายละเอียดเรื่องคนที่เป็นคีย์หลักขององค์กรจะรักษาไว้อย่างไร จากนั้นดูว่าธุรกิจไหนที่จะเก็บ ธุรกิจไหนที่จะต้องทิ้ง และสุดท้ายจะเอาธุรกิจใหม่อะไรเข้ามา”

“กิตติวัฒน์” นึกถึงภาพอดีตแล้วเล่าว่า วันนั้นพนักงานก็งงๆ ว่า ผมเป็นใคร มาทำอะไร ก่อนจะดำเนินการใดๆ จึงต้องเรียกประชุมสตาฟที่มีอยู่ประมาณ 10 กว่าคนก่อนเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ฉายภาพให้ทุกคนเห็นว่าสภาพองค์กรตอนนี้เป็นอย่างไร เอาความจริงขึ้นมาพูด แล้วบอกทุกคนว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ต้องการอะไรจากพวกเขา ซึ่งนั้นไม่ยาก สิ่งที่ยากคือจะทำให้เหมือนกับที่พูดกับพนักงานได้อย่างไร

“สิ่งสำคัญที่สุด ณ วินาทีนั้น คือต้องคิดในเชิงบวก เพราะถ้าจมอยู่กับปัญหาทุกอย่างก็จบตั้งแต่วันแรก”

ภาพแรกที่แวบเข้ามาในห้วงความคิดของ “กิตติวัฒน์” ในวันนั้นคือการจัดคอนเสิร์ตเกาหลีซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่และยังไม่มีบริษัทใดเข้ามาทำอย่างจริงจัง

คอนเสิร์ตแรกเริ่มต้นขึ้นทันที โดย “เรน” นักร้องชื่อก้องของเกาหลี ชื่อของ “อดามัส” ก็ดังกึกก้องไปทั้งประเทศ เรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนเกินคาด โปรเจ็กต์ดีๆ ก็หลั่งไหลเข้ามามากมาย

เมื่อพนักงานเห็นว่าทุกอย่างไม่ใช่แค่การปั่นหุ้น ความเชื่อมั่นของพนักงานก็พุ่งขึ้นมาทันที ทุกคนพร้อมจะทุ่มเททำงานเต็มที่ เพราะรู้แล้วว่า ไม้ท่อนนี้ใช่แน่ เกาะไปเถอะ เดี๋ยวก็ข้ามฝั่งไปได้เอง

ท่ามกลางวิกฤต แน่นอนว่าเสียงเรื่องการเลย์ออฟพนักงานย่อมดังกว่าการฟื้นฟูองค์กร

“หลังจากอธิบายให้พนักงานฟังว่าจะทำอะไรอย่างไรบ้าง บริษัทไหนที่ต้องขายทิ้ง บริษัทไหนที่ไม่ได้ขาย สิ่งสำคัญจะต้องยืนยันกับทุกคนว่าจะไม่มีเรื่องเลย์ออฟ พนักงานถ้าไม่มีใครทำอะไรผิดและนโยบายนี้ก็ใช้มาถึงปัจจุบัน”

เมื่องานเริ่มมากขึ้น กระบวนการเตรียมคนเพื่อรองรับธุรกิจใหม่จึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

“ผมไม่มีแบ็กกราวนด์เรื่องเอ็นเตอร์เทน เมนต์มาก่อน จึงต้องหาคนที่เป็นคีย์เข้ามาร่วมทีม แต่ด้วยสภาพบริษัทช่วงนั้นจึงไม่มีคนเก่งที่ไหนอยากมามือเป็นเท้าให้ สิ่งที่ทำได้ช่วงนั้นคือพลิกไปใช้พาร์ตเนอร์ที่มีประสบการณ์เข้ามาเสริมทัพแทน ทั้งเรื่องการจัดงาน การต้อนรับศิลปิน การประชาสัมพันธ์งานคอนเสิร์ต ทุกเรื่องต้องใช้มืออาชีพเข้ามาดูแลทั้งนั้น ซึ่งพอผ่านงานแรก อดามัสก็เริ่มมีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมบันเทิง คนดีๆ ก็เริ่มสนใจเข้ามาร่วมงานกับอดามัส จนในที่สุดก็ได้ซีอีโอครบทั้ง 4 บริษัทย่อย”

และด้วยความที่เคยเป็นเจ้าของกิจการมาก่อน เคยทำงานแบบมืออาชีพ เมื่อเข้ามาเป็นมือปืนรับจ้างบริหารกิจการให้อดามัส “กิตติวัฒน์” จึงรู้ดีว่าคนที่จะทุ่มเททำงานให้กับองค์กรอย่างเต็มที่ได้นั้น ตัวเขาต้องมีความรู้สึกว่าเป็นเจ้าของบริษัทร่วมกับเรา เพราะฉะนั้นจึงได้คัดคนที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์และทำงานในลักษณะที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของบริษัทมากกว่าการเป็นลูกจ้างมืออาชีพมาร่วมทีม

“คนบางคนเป็นนักคิด คนบางคนเป็นนักทำ นักคิดจะพูดเก่ง พรีเซนต์งานเก่ง แต่เวลาลงมือทำจริงจะทำไม่ค่อยได้ แต่คนที่ทำงานเก่งจะหาค่อนข้างยาก ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่าการทำงานยากกว่าการคิด คนที่ถูกคัดเลือกให้มานั่งแท่นซีอีโอของบริษัทย่อยในช่วงที่ผ่านจึงเน้นความเป็นนักปฏิบัติเป็นหลัก”

“กิตติวัฒน์” บอกว่า ช่วงของการรื้อถาง การจุดให้ติด เป็นเป็นที่ไม่ยาก แต่เมื่อจุดติดแล้วจะทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีกสเต็ปหนึ่งนั้นยิ่งยากกว่า หรือแค่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดีอยู่แบบนั้นก็ยากแล้ว และนี่คือสิ่งที่ซีอีโอทุกคนจะต้องเข้ามาดำเนินการต่อจากสิ่งที่สร้างไว้

วันนี้ “กิตติวัฒน์” ได้พัฒนาองค์กรแห่งนี้ให้เป็นโฮลดิ้งคอมปะนีขยายการลงทุนไปยังบริษัทต่างๆ ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อให้บริษัทเหล่านี้สร้างผลตอบแทนกลับคืนมา แต่ปัญหามีอยู่ว่าจะบริหารจัดการอย่างไรให้ทุกองค์กรเติบโตไปพร้อมๆ กัน

“ทุกคนจะต้องเห็นภาพเหมือนๆ กับที่ผมเห็น การสื่อสารจะต้องทำให้ทั่วถึงให้ทุกคนเข้าใจ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วธุรกิจก็เดินในลักษณะที่ต้องคอยสั่งทีละเรื่องๆ ดังนั้นการทำงานต่างๆ จึงต้องพยายามฝึกให้แต่ละคนคิดในสิ่งที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของตัวเอง ไม่ใช่ให้ความคิดมาจมอยู่ที่หัวหน้าอย่างเดียว”

“เวลาทำงาน ถ้าน้องเอาปัญหามาให้ จะไล่ทีละจุดว่าทำไม่ได้เพราะอะไร ลองช่องทางนี้ได้ไหม แล้วลองทำให้ดูเหมือนเป็นโค้ชให้กับทุกคน”

ความสำเร็จของ “กิตติวัฒน์ มโนสุทธิ” ในวันนี้จึงไม่ใช่เพียงแต่ทำให้องค์กรแห่งนี้เติบโตก้าวไกล แต่เขาได้ปลูกเมล็ดพันธุ์ความคิดเชิงบวกในตัวพนักงานที่จะทำให้ทุกคนพัฒนาเป็นฐานกำลังที่สำคัญขององค์กรและสังคมต่อไป

… เรื่องราวดีๆ ที่บอกผ่านมาจากพี่ใหญ่ของเรา …
http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02hmc04190651&day=2008-06-19&sectionid=0220

ขอแสดงความนับถือ
ปุ๊ก

เอารูปอาเฮียมาแปะไว้ค่ะ

ยินดีด้วยครับ พี่ pizzaman

ยินดีด้วยครับ

ได้แนวคิดอีกมากมาย ขอบคุณทั้งผู้ให้ข่าว และผู้นำข่าวมาบอกเล่าครับ

เขินจริงๆ ครับ ขอบคุณครับปุ๊กที่ไปเอามาแปะ

อยากฝากไว้ครับ การเป็นนักทำนั้นยากกว่าการเป็นนักคิดเป็นร้อยเท่า

[quote author=pizzaman link=topic=11942.msg116346#msg116346 date=1213888511]
เขินจริงๆ ครับ ขอบคุณครับปุ๊กที่ไปเอามาแปะ

อยากฝากไว้ครับ การเป็นนักทำนั้นยากกว่าการเป็นนักคิดเป็นร้อยเท่า

:smash: ตอนนี้ผมก็คิดบวกนะ บางที็ก็ลบบ้าง เช่น 1 ลูก -5

[quote author=nonsense link=topic=11942.msg116350#msg116350 date=1213889394]
:smash: ตอนนี้ผมก็คิดบวกนะ บางที็ก็ลบบ้าง เช่น 1 ลูก -5

อุ๊ย lol

ขอบคุณพี่ปุ๊กครับที่เอามาฝาก
ขอบคุณพี่วัฒน์ด้วย ^^’ ขอรับไว้ปรับปรุงตัวเองเพิ่มครับ

+10 นี่ 11 ได้ 9 หรือป่าวคับ อิอิ

ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ

ขอบคุณ คุณปุ๊ก ที่นำ สัมภาส CEO ของพี่วัฒน์

สุดยอด นักบริหารจริงๆ ครับ ยินดีด้วยครับพี่

สุดยอด CEO ที่ทุกคนควรเอาเยี่ยงอย่าง ข้าน้อยขอคาราวะ ท่านพี่วัฒน์ 1 จอก ครับผม

จะบอกว่า ทำงานกับพี่เค้า

บางทีก็ต้องเห็นเหรียญ 3 ด้านด้วยครับ

(ขอบเหรียญ) เพราะบางเรื่อง บางอย่าง ก็มีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน

ใครได้ทำงานกับพี่วัฒน์นี่ ช่างโชคดีจริงๆ

lol