อยากเป็นผู้ให้บริการบ้าง อ่านจบแล้วช่วยวิจารณ์หน่อย

หลายๆ ท่านออกความเห็นดีๆ กันเยอะแล้วนะครับ

ผมขอเสริมอีกอันก็คือว่า ให้คิดเผื่อไว้ด้วยว่าถ้าเลิกแล้วจะจัดการกับลูกค้าในมือที่ค้างอยู่อย่างไร

ถ้าคิดรอบคอบแล้ว แม้ว่าจะเสี่ยง แต่ถ้าทำแล้วมีความสุข ก็ทำเลยครับ

แต่ถ้าผมทำให้ถึงขนาดนั้น แล้วผมจะเก็บเดือนละแค่ 1800 ได้ยังไงอ่ะครับ
เพราะว่าทำแล้วมันเหนื่อย และไม่มีกำไรเลยอ่ะครับ อย่าว่าแต่กำไรเลย ขาดทุนด้วยซ้ำ
ถ้าทำได้ขนาดนั้น ผมก็คงต้องเก็บในอัตราเดียวกับพี่ ๆ คือประมาณ 2500 บาทต่อเดือน

แต่ๆๆ ผมอยากเน้นการให้บริการในส่วนของ Co-location อย่างเดียวซะมากกว่า
กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียน นักศึกษา คนทั่วไป

แล้วตกลงสัญญา 1 ปีนี่ ยกเลิกก่อนได้ไหมอ่ะครับ เสียค่าปรับไหม
แล้วในส่วนของที่จะเพิ่มเติม เช่น IP , Lan จะเพิ่มได้ไหม หรือว่าต้องรอปีหน้าทำสัญญาใหม่เลย

ขอบคุณทุกๆ ความเห็นน่ะครับ มากมายเกินความคาดหมาย

[quote author=terarat link=topic=11583.msg113637#msg113637 date=1212587617]
แต่ถ้าผมทำให้ถึงขนาดนั้น แล้วผมจะเก็บเดือนละแค่ 1800 ได้ยังไงอ่ะครับ
เพราะว่าทำแล้วมันเหนื่อย และไม่มีกำไรเลยอ่ะครับ อย่าว่าแต่กำไรเลย ขาดทุนด้วยซ้ำ
ถ้าทำได้ขนาดนั้น ผมก็คงต้องเก็บในอัตราเดียวกับพี่ ๆ คือประมาณ 2500 บาทต่อเดือน

แต่ๆๆ ผมอยากเน้นการให้บริการในส่วนของ Co-location อย่างเดียวซะมากกว่า
กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียน นักศึกษา คนทั่วไป

ขอชี้แจงก่อนน่ะ

สิ่งที่ผมบอกทำให้ไม่ได้ นั่นคืองานบริการ

สวัสดีครับ ผมเองก็เริ่มงาน ตรงนี้ในขณะที่ยังศึกษาอยู่ครับ ไม่เริ่มวิ่งก็ไม่พบเส้นชัยนะครับ
ทุกข้อแนะนำครับ เป็นความจริงที่เกิดขึ้นในงานบริการประเภทนึงที่นำ จุด(ด้อย) มาเล่าสู่กันฟัง เพราะบนถนนที่ดูเหมือนเรียบง่าย นั้นไม่ง่ายอย่างที่คิดครับ
เชื่อเลยว่า ไม่มีใครอยากมาตั้งแง่ ปิดกั่นน้องๆ รุ่นใหม่ กลัวจะมาเปิดแข่งหรอกครับ เพราะทุกวันนี้ก็เปิดกันใหม่ๆ อยู่แล้วทุกวัน

หากเราเรียนหนังสือเราก็ต้องแบ่งเวลาให้ได้ครับ เพราะจะมาอ้างว่าเรียนอยู่ไม่ได้ งานต้องมีความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน
งานประเภทนี้ต้องการการ support 24*7 หากมันใจว่าระบบเรานิ่งมากกว่า 90% ส่วนนี้ก็จะถูกใช้น้อยลงครับ เพราะระบบ เป็นเพียงอุปกรณ์พร้อมที่จะเสียตลอดเวลา
ฉนั้นจึงเป็นผลให้ ต้องมีการดูแล 24/7 เพราะระบบทำงาน 365 วันทุกวินาทีนั้นเองครับ

หากคิดทำเล่นๆ อย่าคิดทำเด็ดขาดครับ เพราะงานนี้หากเล่น น้องอาจจะเจ็บตัวอย่างร้ายแรง
หลายคนกล่าวเปรียบไว้ว่า งานนี้เหมือนขึ้นหลังเสือ พาลูกเรือเดินทาง หากทิ้งลูกเรือ หรือโดดลงเราคือคนที่เจ็บ หนักครับ หรืออาจหนักถึงจนถูกฟ้องร้องจนครอบครัวเดือดร้อน และเสียหาย มากกว่า ที่จ่ายตอนเริ่มต้นได้ครับ

แต่ทั้งนี้งาน นีก็ทำให้พี่เองมีเงินเก็บ ในขณะที่กำลังศึกษาอยู่จำนวนไม่น้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจต่อตัวเอง คนรอบข้าง แฟน และครอบครัว อย่างมาก
มีเงินซะอย่าง ทำอะไรก็สบายใจไม่ต้องรบกวนคุณพ่อ คุณแม่มากนัก
แต่สิ่งที่ได้มาก็แรก มากับความเหนื่อยยาก ดังที่กล่าวมาครับ

ลองคูณเล่นๆ ครับ
หากเราหาลูกค้าได้เดือนละ 10 คน คนละ 1000 ว่าวๆ เห็นไหมครับเดือนละหมื่นแล้ว แต่?>>>
ค่าวางเครื่อง/ ค่าเช่าเครื่อง/ ค่างานตัวเอง/ ค่าโดเมน-> ต้นทุน คิดแล้วเหลือเท่าไหร่
คิดดีดี บริหารดีดี ก็มีเงินเก็บได้ไม่ยากครับ

ธุรกิจ it มักเหมือนกันหมดครับ โอกาสขายจะมีสูงกว่าเปิดหน้าร้านที่บ้านแน่นอน
แต่อยู่ที่เรามากกว่า คิดที่จะเรื่มไหม พร้อมที่จะรับผิดชอบไหม พร้อมที่จะลุกมาแก้ปัญหาดึกๆ ดื่นๆ ไหม
หากยังไม่พร้อมก็ ค่อย เก็บเกี่ยวศึกษาหาความ รู้หรือเริ่มต้น จากจุดเล็กๆ ค่อยๆ จุดไป ก็จะได้ภาพสวยๆ มาได้เช่นกันครับ

ขอให้โชตดีครับ พี่ หรือพี่ๆ เอง ทุกคน ยินดี แนะนำและมอบโอกาสให้เสมอ โย้ว…
อย่าลืมนะครับ ทำได้ แต่เมื่อรับเงินปุ๊ป นั้นคือ งาน ที่เราต้องดูแลเขาไปแรมปี ทีเดียว แต่อย่าไปกลัว…

อ่อเสริมอีกนิดพอดีไม่ได้ไล่อ่านกระทู้ลงมา
ส่วนใหญ่เท่าที่เห็น หากธุรกิจนี้ดำเนินการต่อไปไม่ได้ไหว ณ ที่แห่งนี้ยังมีหลายๆ ท่านพอจะช่วยรับต่อลูกค้า ก็เพื่อพาลูกค้าให้ถึงฝั่งตามสัญญา หนะครับ

ปล. ลืมไปเขาอยากจะทำ colo นิหน่า… หวังว่าคำแนะนำเล็กๆ น้อยนี้ อาจจะช่วยก่อ ให้เกิด เล็กๆ น้อยๆ นะครับ … โชคดีอีกที

ขอบคุณทุกๆ ความเห็นเลยครับ พี่ mean พิมพ์มายาวเลย หุๆๆ

เมื่อคืนนั่งคิดว่า ถ้าเราอยากมีส่วนของบริการบ้าง แต่เราไม่มีเวลา อีกทั้งไม่มีประสบการณ์ เราจะทำยังไง
ก็ได้เจอวิธี ที่น่าจะพบกันครึ่งทาง นั่นก็คือ KVM ต้องขอบคุณ พี่ kinkow มากๆ เลย ที่ทำให้เห็นถึงความสำคัญของการให้บริการ

ถ้าอย่างนี้ เราพบกันครึ่งทางได้หรือยัง ผมมี KVM ให้ คุณ Remote ได้ 24 Hr. แต่มันก็มีค่าใช้จ่ายน่ะ
เพราะว่าอุปกรณ์ตัวนึงราคาประมาณ … ถ้าคิดครั้งละ 300 บาท/ชั่วโมง/ครั้ง แบบนี้อ่ะ เป็นยังไง

เพราะฉะนั้น การให้บริการในส่วนของ Software ทั้งหมด ผมสามารถผลักภาระ ให้ผู้ใช้บริการได้
เพราะว่า KVM เปรียบเสมือนผมให้ลูกค้า เข้าไปนั่งเสียบจออยู่หน้าเครื่อง พี่ๆ ก็ยัดแผ่นบูต OS ไว้ในเครื่องตลอดเวลา
อยากลงใหม่เมื่อไร หรือค้างไม่มีสาหุ Restart ไม่หาย ก็เมลล์ มา หรือไม่ก็โทรมา เดี่ยวติดต่อให้เจ้าหน้าที่ IDC เสียบ KVM ให้
ส่วนถ้าเป็นปัญหาทางด้าน Hardware ผมมองว่า ยังไงมันก็ต้องใช้เวลา สมมุติ ถ้า เครื่องเปิดไม่ติด เช่น Power พัง มันก็ต้องใช้เวลาไปซื้อ
หรือไม่ก็ต้องรอ Dell มาเคลมให้ อีกอย่างเครื่อง 1u ก็ซื้อกับ Dell อยู่แล้ว ภาระทางด้าน Hardware ก็น่าจะผลักไปที่ Dell ได้ ส่วนนึง

คราวนี้เริ่มเห็นฝั่งหรือยังอ่ะครับ ช่วยชี้แนะต่อด้วยครับ
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ

Edit : ยังไม่ชัวร์เรื่องราคา จำได้ลางๆ พี่ๆที่ขาย CN-6000 ช่วยกระซิบราคาหน่อยครับ

ขอออกความเห็น KVM CN-6000 ตัวนี้ซึ่งผมก็เคยใช้งานมาเป็นปีอ่านะ… เรียนตามตรง… ใช้ KVM แบบเต็มๆแค่ครั้งสองครั้งครับ เนื่องจากเวลาเราจะลง OS ใหม่เราก็ต้องเข้าไปใส่แผ่นที่หน้าเครื่องครับ เดี๋ยวนี้ noc ไม่ค่อยจะบริการใส่แผ่นให้

หากจะเอา KVM มาเสริมงานแก้ปัญหา สำหรับผมไม่จำเป็นเท่าไรครับ
เห็นบอกว่าจะให้บริการ Co-Location อย่างเดียว… ผมบอกได้เลยนะครับ หากตู้คุณปล่อยให้หลากหลายคนเข้าไปทำเข้าไปติดตั้งเองจะมีปัญหามากมายตามมาครับ อย่างของผมจะไม่มีใครเข้ามาที่ตู้ได้ ความวุ่นวายโอกาสจะไปทำเครื่องอื่นผิดพลาดไม่มี ไงก็ฝากตรงนี้ไปคิดครับ

และงานตรงนี้มัน 24X7 หากติดภาระเรื่องการเรียนคงจะไม่สะดวกหรอกครับ เดี๋ยวนับวันลูกค้าจะไม่พอใจกัน
ผมทำงานตรงนี้มา 7 ปีแล้วครับ งาน Colo ไม่ยากหากมีความชำนาญแล้วครับ หากยังไม่มีความชำนาญก็ลำบากครับ
และยิ่งกลุ่มลูกค้าคุณเป็นนักศึกษาอันนี้ก็ลำบากในเรื่องบางเรื่อง

ผมไม่อยากจะแนะนำให้คุณเปิดตู้ทั้งตู้ คุณควรจะไปขอแบ่งเช่าตู้ที่เขาบริการแบ่งขายจะดีกว่าครับ อย่างน้อยๆเขาก็ช่วยดูแลให้คุณครับ

ทำเล่นๆ แล้วเลิก เดียวโดนลูกค้าฟองเอาขี้แตกเลย