ผมเห็นด้วยกับคุณ “nothx123” ครับ ที่ว่า PR ไม่ได้สำคัญไปกว่า Title เลย แล้วอะไรล่ะครับที่สำคัญที่สุด? คำตอบก็คือยังคงเป็นคำเดิมครับ “เนื้อหา”
ผมคิดว่าที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องมาจากความคิดขั้นต้นของการทำเว็บไซต์เลย คือ ก่อนที่เราจะทำเว็บเนี่ย พวกคุณคิดว่า “อยากให้อะไรกับผู้เข้าชม” หรือว่า “อยากได้อะไรจากผู้เข้าชม” ครับ?
ถ้าคำตอบคือข้อแรก คุณแทบไม่ต้องทำ SEO เลยครับ เป็นเพราะเมื่อคุณอยากให้ คุณก็จะหาสิ่งที่ดีที่สุดมาให้ผู้เข้าชม เว็บไซต์ของคุณจะเต็มไปด้วยของดีๆ ที่คัดมาด้วยตัวคุณเองเพื่อผู้เข้าชมด้วยใจรัก ซึ่งถ้าทำด้วยใจรักแล้ว โดยธรรมชาติจะทำให้งานของคุณออกมาดีเอง (ตรงกับ “ฉันทะ” ตามหลัก อิทธิบาท 4) แต่ถึงคำตอบจะเป็นอย่างหลัง ถึงคุณจะไม่ทำ SEO แต่ถ้าคุณหาเนื้อหาดีๆมีให้ผู้เข้าชม มันก็เป็นการ SEO โดยธรรมชาติอยู่นั่นเอง
ออกนอกเรื่องซะนานครับ เข้าเรื่องกันดีกว่า 
ในวงการ SEO แล้ว มีคำกล่าวที่ว่า “Content is the King, Link populality is the Queen”.
(ท่อนแรกเขาว่ากัน ท่อนหลังผมเติมเอง หุๆ)
ผมอยากเปรียบเทียบให้เห็นง่ายๆนะครับ ว่า เว็บเพจก็เหมือนกับการทำหนังสือ ถูกมั้ยครับ?
ถ้าทั้งเพจ คือ หนังสือ Title ก็คือ “ชื่อหนังสือ” ครับ ส่วน link pop เปรียบได้กับกระแสความดังของหนังสือครับ link pop มาจากไหน?
link pop ก็มาจากการที่คุณเดินผ่านไปร้านหนังสือ แล้วไปเจอกับชื่อหนังสือที่สะดุดใจคุณ เช่น “ภาพฉาว พี่ปล้ำน้อง” คุณอาจจะเถเข้าไปเปิดดูทันที ปรากฏว่าเป็นรูปน้องหมาน่ารักสองตัว กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน พอคุณเห็นอย่างนั้นก็รีบปิดหนังสือทันที แต่ถ้าคุณกำลังไม่สบายใจ หรือคนใกล้ชิด เจ็บออดๆแอดๆ แล้วเดินผ่านร้านหนังสือ ไปเจอกับ “เสียดาย คนตายไม่ได้อ่าน” ของคุณดังตฤณ คุณก็รีบหยิบขึ้นมาอ่านทันที พอเปิดอ่านแล้ว เป็นเรื่องของกรรมในพุทธศาสนา ตอบโจทย์ในสิ่งทึ่คุณกำลังค้นหาพอดี แน่นอนว่า เมื่อคุณได้อ่านแล้ว คุณย่อมเอาไปบอกคนอื่นๆ ก็เหมือนกับการให้ link pop ไปที่หนังสือเล่มนี้ทันที นั่นเอง
ผมยังยืนคำเดิมนะครับ ว่าเว็บที่ดี ย่อมมี link มาหาเอง เพราะฉะนั้น link pop ยังไงก็สำคัญ เมื่อได้ link pop เยอะ PR ก็ต้องเยอะตามครับ ผมคิดว่าสูตรที่ผมยกมานั้น ถูกต้องแล้วครับ เพราะผมไม่รู้ว่า Google จะเอาสูตรที่ใช้ไม่ได้ มาเปิดเผยให้เสี่ยงกับการเสียชื่อเวลาที่โดนจับได้ทำไมครับ?
แต่…
ที่คุณ nothx123 บอกว่า “จะเห็นเลยว่า PR 6 ก็อยู่สูงกว่า 8 ได้”
อันนี้ถูกต้องครับ ผมเห็นด้วยจากใจจริงเลยครับ เพราะความจริงมันเป็นอย่างนั้น และผมเอง ก็เจอมาหลายเว็บแล้วที่เป็นอย่างนั้น ผมขอเดาด้วยความรู้นิดๆหน่อยๆของผมนะครับ เอาไว้อ่านกันเล่นๆ อย่าถือเป็นจริงเป็นจัง ว่า
การ SEO มีส่วนประกอบสองส่วนคือ
- On page Optimize
- Off page Optimize
สำหรับ google แล้วให้ความสำคัญกับ ข้อ 2. มากกว่าข้อ 1 แต่กับ SE (search engine) อื่นๆ จะให้ความสำคัญกับข้อ 1. มากกว่า
On page Optimize คือการจัดการเอกสาร HTML ที่ดีในสายตาของ SE ครับ ส่วน Off page Optimize ก็คือพวก link pop หรือการที่เราติดอยู่กับ dmoz เป็นต้น สรุปง่ายๆ คือตัวแปร อื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับเอกสารของเรานั่นเอง (ส่วนนี้แทบจะควบคุมไม่ได้เลย)
ผมเคยลอง SEO หลายๆครั้ง พบว่า ถ้าเพจไหน SEO เต็มสูบยังไงก็ติดแค่ Yahoo MSN นั่นแสดงว่า ถึงเวลาแล้วที่ผมจะต้องหา link มาเยอะๆ ไม่ก็พยายาม submit ให้ติด DMOZ ให้ได้ (อย่าได้ resubmit นะครับ โทษถึงแบน)
เพราะฉะนั้น การที่ PR6 ได้อันดับดีกว่า PR8 อาจจะมาจาก
- PR6 ติด DMOZ แล้ว PR8 ยังไม่ติด
- PR6 Onpage Optimize ดีกว่า PR8 มากๆ หรือ PR8 ไม่ได้ตั้งใจ optimize เหมือน php.net กับคำว่า web hosting ก็ได้
- PR6 ชื่อโดเมนดีกว่า ตรงกว่า สื่อกว่าต่อ keyword คำนั้นๆ มากว่า PR8
- PR6 เป็นเว็บหลัก หรือเจ้าของ เช่นคำว่า “Flash” ย่อม เจอ Macromedia เป็นต้น
ฯลฯ
เดาล้วนๆครับ อย่าคิดมาก 
ส่วนเรื่องอันดับถ้าเว็บคุณเนื้อหาดีมีเว็บดีๆลิงค์มาหาเยอะต่อให้วันนี ้ Google ไม่มาหาวันนึงก็จะมาหาแน่นอนครับ อัลกอริธึมของ Google จริงๆแล้วก็มีเพื่อผู้ใช้อย่างเราๆให้เจอเว็บดีๆนั่นแหล่ะครับไม่ใช่นัก SEO หรอกครับ
อันนี้ก็เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ผมว่าปรัชญาของ SE ทั้งหลาย น่าจะอยู่ที่ว่า จะทำให้ยังไง มองค่าของความดีของเว็บไซต์ต่างๆ ออกมาเป็นสมการคณิตศาสตร์ได้ ครับ
ในความคิดของผมแล้ว การ SEO หรือการทำเอกสารที่ดีเนี่ย น่าจะเป็นวิชาเีรียนพื้นฐานพอๆกับ ภาษา HTMLเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่เว็บไทยส่วนมาก ไม่เห็นความสำคัญเอาเลย เพราะฉะนั้น ทำให้ผมต้องค้นหาเอกสารภาษาไทยได้ยากมาก ยกตัวอย่าง เรื่อง “กังหันน้ำ พลังงานลม” ใครหาเจอช่วยบอกผมทีครับ มีคนฝากผมหา ผมถึงกับมึนตึ้บเลย
พอเห็นกระทู้นี้ผมก็รีบกระโจนเข้ามาทันที ทั้งๆที่ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมาย อาจจะรับจ้างทำ SEO บ้าง แต่ก็เห็นว่าเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคง สู้ให้ความรู้กับลูกค้า แล้วให้เค้าทำ adword ดีกว่า ควบคุมได้ง่ายกว่า และก็ขี้เกียจต้องมาปรับความรู้ใหม่ให้กับลูกค้า จากที่เค้าเจอบางบริษัท ไปบอกข้อมูลผิดๆ ทำให้บางคนถึงกับมีความเชื่อผิดๆฝังหัวไปอีกนาน เศร้าจริงๆ
ปล.
หลายท่านในที่นี้อาจจะรับทำเว็บไปด้วย ยังไงก็ขอฝากให้ใส่ใจกับ Tag title description keyword หน่อยนะครับ ใส่ให้ลูกค้าเสียหน่อย พวก alt ก็เหมือนกันครับ การตั้งชื่อ file ให้ตรงกับเนื้อหาของหน้านั้น อย่าไปตั้งพวก a.html หรือ page1.html เลยครับ ลูกค้าจะเสียโอกาสไปเปล่าๆ
ถ้าข้อความของผมต้องทำให้ใครไม่พอใจ ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ _/_