ประเมินความรวยของ Bill Gates

  1. Bill Gates earn US$250 every SECOND, that’s about US$20 Million a DAY and US$7.8 Billion a YEAR!
    บิลเกต มีรายได้ 250 เหรียญสหรัฐ ต่อ วินาที คิดเป็น 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อวัน และ 7,800 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี อยากรู้เป็นเงินไทย เอา 40 คูณก็พอ ขืนใช้ 45 เดี๋ยวจะช๊อคตาย

  2. If he drop a thousand dollar, he won’t even bother to pick it up coz by the 4 second he pick it, he already earn it back.
    ดังนั้น ถ้า บิล ทำเงินตกไป 1,000 เหรียญ เขาจะไม่เสียเวลาก้มลงไปเก็บ เพราะอีกแค่ 4 วินาที ต่อมา เขาก็ได้มันคืนมาแล้ว

  3. US’s national debt is about 5.62 trillion, if Bill Gates will pay the debt by himself; he will finish it in less than 10 years.
    ปัจจุบัน หนี้สินรวมของสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ประมาณ 5.62 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ถ้า บิล รับจะใช้หนี้ทั้งหมดคืนให้แก่ประเทศ เขาจะใช้เวลาน้อยกว่า 10 ปี ล้างหนี้ได้หมด

  4. He can donate US$15 to everyone on earth but still left US$5 Million for his pocket money.
    บิล สามารถบริจาคเงิน 15 เหรียญสหรัฐ ให้แก่คนทุกคนบนโลก แล้วยังเหลือเงินติดกระเป๋าอยู่อีก 5 ล้านเหรียญ

  5. Michael Jordan is the highest paid athlete in US. If he don’t drink and eat, and keep his annual income US$30 Million up, he’ll have to wait for 277 years to become as rich as Bill Gates now.
    ไมเคิล จอร์แดน เป็นกักกีฬาที่มีรายได้สูงที่สุดในสหรัฐ ถ้าไมเคิล ไม่ดื่ม ไม่กิน และเก็บเงินรายได้ ได้มากกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อปี ไมเคิลต้องเก็บเงินไปอีก 277 ปี ถึงจะรวยเท่า บิล

  6. If Bill Gates is a country, he is the 37th richest country on earth, or US 13th biggest company, even bigger than IBM.
    ถ้านับ บิลเกต เป็น ประเทศ ประเทศนี้ จะรวยเป็นอันดับที่ 37 ของโลก หรือถ้านับเป็นบริษัท ก็จะใหญ่เป็นที่ 13 ของสหรัฐ แน่นอน ใหญ่กว่า IBM

  7. If exchange all Bill Gate’s money to US$1, you can make a road from earth to moon, 14 times back and forth. But you have to make that road non-stop for 1,400 years, and use a total of 713 BOEING 747 plane to transport all the money.
    ถ้าเปลี่ยนเงินทั้งหมดของ บิล เป็นธนบัตร ราคา 1 เหรียญสหรัฐ เราจะสามารถนำธนบัตรมาวางเรียงกันเป็นถนน จากโลก ไปถึงดวงจันทร์ได้
    . 14 รอบ โดยจะต้องใช้เวลาสร้างประมาณ 1400 ปี และใช้ โบอิ้ง 747 จำนวน 713 ลำ เพื่อขนเงินทั้งหมด

  8. Bill Gates is 40 this year. If we assume that he still can live for 35 years, he has to spend US$6.78 Million per day to finish his money before go to heaven.
    ปัจจุบัน บิล อายุ 40 ปี ถ้าเราคิดว่า บิล จะมีอายุเหลืออีกแค่ 35 ปี เขาจะต้องใช้เงิน วันละ 6.78 ล้านเหรียญสหรัฐ จึงจะใช้เงินได้หมดก่อนที่จะไปสวรรค์ (หรือนรก)

  9. BUT!!! If Microsoft Windows’ users can claim US$1 for every time their computers hang because of Microsoft Windows, Bill Gates will bankrupt in 3 years!
    แต่!!! ถ้าผู้ใช้ Microsoft Windows ทุกคน สามารถ claim เงินคืนได้ 1 เหรียญสหรัฐ ทุกๆครั้ง ที่ computer หยุดทำงานเพราะ Windows ล่ะก็ บิลจะหมดตัว ภายใน 3 ปี !!!

โอ้วว อะไรจะรวยขนาดนั้น

  1. BUT!!! If Microsoft Windows’ users can claim US$1 for every time their computers hang because of Microsoft Windows, Bill Gates will bankrupt in 3 years!
    แต่!!! ถ้าผู้ใช้ Microsoft Windows ทุกคน สามารถ claim เงินคืนได้ 1 เหรียญสหรัฐ ทุกๆครั้ง ที่ computer หยุดทำงานเพราะ Windows ล่ะก็ บิลจะหมดตัว ภายใน 3 ปี !!!

สมมุติถ้าเป็นความจริง คือ
(คิดว่าดี)

ปล. สนับสนุน Windows ลิขสิทธ์เช่นครับแต่ส่วนตัว ไม่ใช้

ถ้าเป็นสมัย windows 3.11, win95, win98 คงประมาณนั้นมั้งครับ

แต่หลังจาก win2000 คงหลายปีอยู่

รวยเพราะโกยโปรเจค MSDOS หักหลังส่งโปรเจค OS2 ของ IBM
ลึกๆแล้วใครจะรู้ว่าเขารวยเพราะอะไร

แก้คำผิด OS/2 ครับ…ไม่ใช่ OS2

OS/2 นี่แหละที่บิลแกโยนทิ้ง…แล้วเอา Win 1,2,3 ออกมา…ซึ่งตอนนั้น Desktop Graphics บนเครื่อง IBM/PC ยังไม่มี…
และได้ Engineer

แล้วฝ่ายตรงข้ามล่ะ…มัวทำอะไรกันอยู่?

Apple ซึ่งครองกราฟฟิคในสมัยนั้น… ก็เกิดขาดมือดีอย่างสตีฟจ๊อบ เพราะตาจ๊อบเสนอโครงการ OS ตัวใหม่แทน MacOS ซึ่งด้อยในเรื่อง Network และลูกเล่นที่จำเป็น

ก็เลยหันหลังให้กับ Apple ไปทำบริษัทของตัวเอง NextStep และทำ NextOS/Unix ออกมา (แต่ใช้ในวงการศึกษาและงานวิจัยเป็นส่วนใหญ่)
Apple เลยลอยไปลอยมาอย่างไม่มีทิศมีทาง…

จน Apple ไปเชิญจ๊อบกับมาเป็น CEO คุมโครงการสร้าง OS ตัวใหม่ให้กับ Apple อีกครั้ง

จ๊อบก็เอา Kernel March ของตนมาปรับเพิ่มกับ FreeBSD วาง Platform เป็น Unix 100% จนได้มาเป็น OS X

หากเทียบความเก่งเรื่อง OS จริงๆผมว่า Stepjob เก่งกว่า Bill ครับ
และนิสัยก็สมาร์ทกว่าบิลย์เยอะครับ

และจะบอกอะไรทราบ… บิลล์ เริ่มจากรับจ้างเขียนโปรแกรม Excel บน MacOS ให้กับ Apple มาก่อนและไปรับจ้างเขียน PC-DOS ให้กับ IBM
แล้วเอาทั้งหมดมาทำของตนเอง…

ทำไมจะไม่รวย :smash:

ส่วน DBMS หรอ…บิลล์ไม่เก่งเอาเลย ไปซื้อ SQL Server ซึ่งเป็นของ SyBASE 4.2 แล้วเอามาทำเป็นของตนเองเป็น MSSQL 6
อย่างว่าครับ…มีเงินแล้วจะซื้ออะไรมาก็ได้

เออ…เก่งอีกตัวคือภาษาของตัวเองครับ ภาษา Basic

อีกอย่างที่เก่งมากๆคือการตลาด

พี่หนึ่งนู้ไม่หมดเลย อิอิ แต่ถึงยังไงก็เก่งอยู่ดีแหละ ถึงจะโกงนิดๆก็เหอะ แต่ผมเคยดูเค้าบอกว่าสตีฟก็หักหลังเพื่อนมานี่ครับ

[quote author=smartnet.co.th link=topic=14792.msg142309#msg142309 date=1224828452]
ส่วน DBMS หรอ…บิลล์ไม่เก่งเอาเลย ไปซื้อ SQL Server ซึ่งเป็นของ SyBASE 4.2 แล้วเอามาทำเป็นของตนเองเป็น MSSQL 6
อย่างว่าครับ…มีเงินแล้วจะซื้ออะไรมาก็ได้

เออ…เก่งอีกตัวคือภาษาของตัวเองครับ ภาษา Basic

ฉลาด เก่ง รวย

แต่ถ้าเป็น

ขยัน ดี แล้ว รวย คงจะยากกว่าแหะ

ในโลกนี้วงการฑุรกิจ มีคนดีด้วยหรือนี่

OS/2 ตัวนี้เพิ่งจะเกิดทีหลังนะครับ

Bill Gates เริ่มมีชื่อเสียงนับตั้งแต่พัฒนา IBM DOS ให้กับ IBM ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีตั้งใจจะใช้เป็นระบบ OS เฉพาะสำหรับคอมพิวเตอร์ PC ยี่ห้อ IBM เท่านั้น แต่ Bill ไอเดียบรรเจิดกว่า คิดว่าทำไมต้องจำกัดเฉพาะแต่เพียง IBM เท่านั้น เพราะต่อไป PC ยี่ห้อต่างๆ จะมีออกมาแข่งกับ IBM มากมาย คิดได้ดังนี้แล้ว ก็เลยพัฒนา MS DOS เข้าสู่ตลาด และใช้เป็นระบบ OS มาตรฐานในเวลาต่อมา

Bill Gates รวยเพราะความสามารถและความคิดอันบรรเจิดของตนเองโดยแท้ ไม่ได้ หักหลัง หรือ คดโกงใคร …

แต่ในข้อดี ก็ต้องมีข้อเสีย